เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ: ธนกฤต ธนะสารเจริญ, ภูดิท แซ่ซื้อ
Wanna Be Young Again
เปิดกระโปรงตัวซิ่งย้อนเวลา “ชวลิต & เดอะ พาเลซ”
4 Combo by B&T PERFORMANCE RETRO
คำว่า Nostalgic หรือ “เกี่ยวกับการคิดถึง” เรื่องราวที่เหมือนเป็น Golden Memories สิ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นในห้วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง และพ่วงไปหาอีกหลายๆ คนที่ “รักในสิ่งเดียวกัน” แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นสัจธรรม “ไม่มีอะไรคงได้ตลอด ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา” อดีตอันนั้นจึงถูกเก็บไป “ในความทรงจำ” เหมือน “ลิ้นชักแห่งกาลเวลา” ไม่ต้องพึ่ง “โดเรมอน” และ “ไทม์แมชชีน” เพราะมันไม่มีอยู่จริง เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยล้า ก็เปิดลิ้นชักนี้ในสมอง นึกถึงเรื่องราวในอดีตแสนสนุกที่พรั่งพรูออกมา ก็ทำให้เรามีความสุขได้ แน่นอนว่า “Retro Car” ก็เป็นตัวแทนแห่งกาลเวลาในรูปแบบหนึ่งของ “วัยรุ่น” ในยุคนั้น จนมาเป็น “วัยแรด” ในยุคนี้ ที่ยังมีใจรัก ชอบในการทำรถ และ “อยากได้ตำนานส่วนตัวหวนคืนมาอีกสักครั้ง” จึงเป็นที่มาของการปั้น Retro Car ในอดีตที่ “ตนเคยมี” หรือ “ตนเคยอยากได้” ขึ้นมา เพื่อดึง Golden Memories มาอีกครั้ง โดยเป็นฤกษ์อันดีที่งาน Gentle Man Track Day จัดขึ้น ณ สนามพีระฯ ก็นับเป็นการรื้อฟื้นความหลัง ซึ่งรถ 4 คันนี้ ไม่ใช่จะเจอกันง่ายๆ เพราะอยู่ถึง “เชียงใหม่” แต่มาวิ่งในงานนี้ ก็เลยมีโอกาส “ลั่น” มาให้ชมกัน พิเศษสุดสำหรับนิตยสาร XO autosport ครับ…
- เราไม่สามารถย้อนอดีตได้ด้วยการ “หมุนเวลา” แต่เราย้อนได้ด้วย “รถแห่งความทรงจำ” ช่วยเติมเต็มความสุขในปัจจุบัน
จาก “ชวลิต” ถึง “เดอะ พาเลซ”
ตำนานรถซิ่งในยุคกาลก่อน ส่วนใหญ่จะได้ยินกันถึงยุค “The Palace The Best Discotheque” ที่สิงสถิตอยู่บนถนน “วิภาวดีเซอร์กิต” อันโด่งดังมากในยุค 80 ที่คนวัย “หลักห้า” เคยได้สัมผัสบรรยากาศแท้ๆ ตอน “รุ่งเรืองสุดขีด” จึงเป็นตำนานที่เล่าขานกันเรื่อยมา แต่ในยุคก่อนหน้าที่ เดอะ พาเลซ จะเปิดนั้น จะเรียกกันว่า “ยุคชวลิต” ซึ่งเป็นช่วงยุค 70 ขาซิ่งจะนิยม “อัดรถ” กันบนถนนสุขุมวิท แหล่งชุมนุมก็จะอยู่ที่ “โรงแรมชวลิต” (ปัจจุบันเป็น “โรงแรมแอมบาสเดอร์” ที่สืบต่อธุรกิจในตระกูลกันมา) ที่มี “Coffee Shop” และมี “ข้าวต้มรอบดึก” มาต่อกัน หลัง “ดิสโก้เธคเลิก” (ยุคนั้นก็มีหลายที่ ก่อน เดอะ พาเลซ นะ) ก็แน่นอนครับ ย่อมมีการประชันความเร็วเกิดขึ้น บนถนนสุขุมวิท นั่นเอง เป็นการวิ่งวน ยูเทิร์นไปกลับ ตอนนั้นไม่มี “จอดออก” หรือ “กั้นรถ” นะครับ ใช้วิธี “บ้ารู” หรือ “มุด” กันอย่างเดียว ไปกันตามสถานการณ์จริงๆ เรียกว่า “เฉียดยมบาล” ตอนนั้นรถยังไม่ติดเหมือนสมัยนี้ แต่ถนนก็แคบๆ เพียงแต่ไม่มีตอม่อรถไฟฟ้า รถเด่นๆ ในยุคนั้นก็จะมีพวก TOYOTA CELICA TA22, TOYOTA COROLLA KE25/KE30, DATSUN SUNNY B10/B110 สายยุโรปก็พวก BMW 2002, FIAT 131 RACING คัน “สีดำ” นี่โคตรเทพ แต่งเต็ม จำได้เพราะ “ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง” เอาเป็นว่า จบเรื่อง “รถซิ่งยุคชวลิต” ไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวมีโอกาสค่อยมาเหลา “จดหมายเหตุ” กันบน “ออนไลน์” อีกทีเมื่อฤกษ์สะดวก…
Wanna be Young Again
Project นี้เกิดขึ้นจาก “สองหนุ่มใหญ่ คนตรงยุค” ที่มีจิตใจ “ยังอยากจะกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง” หารถรุ่นที่ตัวเองเคยแรดกลับมาปั้น รื้อฟื้นความทรงจำกันอีกครั้ง เลยเป็นการร่วมกันระหว่างเพื่อนซี้ “พี่ต่าย” ฉายา Big Rabbit ที่วงการ Retro สายลึกรู้จักกันดี (ผมเคยถ่าย PORSCHE 911 RSR ของพี่ต่ายลงปก XO ไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งไม่ได้ง่ายๆ นะครับ) อีกท่าน คือ “พี่บูด” บ้านบางกอกฯ ร่วมมือกันสร้าง B&T PERFORMANCE RETRO ขึ้นมา จริงๆ ก็ทำกันเองนี่แหละ ตัว “พี่ต่าย” เอง จะเชี่ยวชาญในด้าน Mechanic เครื่องยนต์ ช่วงล่าง โมดิฟายต่างๆ ส่วน “พี่บูด” ก็จะเน้นเรื่อง Decorate ตกแต่งสวยงาม ภายใน เก็บรายละเอียดต่างๆ อันที่จริงเรื่องของภายในนี่จะยากหน่อย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เสียหายง่าย พลาสติก หนัง ทุกอย่าง กรอบ แตก เสียหายไปตามกาลเวลา ถ้าไม่มีของเปลี่ยน ก็ต้องฟื้นฟูจากของเดิม ต้องใช้ฝีมือและความใจเย็นกันเยอะหน่อย…
สำหรับรถที่ “พาเหรด” มาในครั้งนี้ ก็จะมีทั้งหมด 4 คัน คือ TOYOTA COROLLA KE30, TOYOTA COROLLA TE25 (???), TOYOTA STARLET PUBLICA KP51 โดย 3 คันนี้ เป็นรถของ “พี่ต่าย” ส่วน TOYOTA COROLLA KE70 ของ “พี่บูด” ซึ่งแต่ละคันก็มีเรื่องราวมากมายซ่อนเร้นอยู่ จึงต้อง “เล่าสู่กันฟัง” ครั้งนี้จะไม่เหลาประวัติของรถแต่ละรุ่น เพราะเหลากันไปบ่อยแล้ว แต่จะเน้น “เรื่องราวความผูกพัน” ที่เกิดขึ้นของรถแต่ละคันกับเจ้าของรถครับ…
- สนามพีระฯ หรือ “พัทยา” สำหรับ “คนมีอดีต” ที่จะเป็นจุดนัดขับรถกันสนุกๆ สังสรรค์กันเหมือนเลี้ยงรุ่น สนามในตำนานที่ยังคงมีชีวิต
Let’s Drive !!!
ก่อนจะเข้าเรื่องของรถแต่ละคัน ก็ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า “รถทุกคันที่ทำจาก B&T PERFORMANCE RETRO จะต้องขับได้จริง ไม่ใช่เอาไว้ขับเล่น” อย่างในอดีต เรามีรถคันเดียว ต้องใช้ได้ทุกอย่าง ขับไปเรียน ขับไปซิ่ง ขับพาแม่ไปจ่ายกับข้าว ขับไปรับหญิง เลยไม่เน้นทำรถแรงม้ามากๆ หรือ “บ้าพลัง” พอมาเป็นยุคใหม่ ที่มีของและเทคโนโลยีให้เล่นเยอะขึ้น ก็เอามาประยุกต์ใช้ โดยทุกอย่างต้องมีความปลอดภัย มีความเสถียร ขับได้ทุกสภาวะ ไม่ว่าจะรถติดในเมือง ความร้อนปกติ แอร์เย็น และวิ่งทางไกลแบบใช้ความเร็วได้ รถพวกนี้เคยวิ่งจาก “หาดใหญ่” ไปถึง “กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย” ไปงาน RETRO HAVOC ไปถึงกลับได้แบบไม่ง้อรถสไลด์ “ไม่คลาน” ขับได้อย่างสบายใจ เครื่องไม่มีปัญหา เติมน้ำมันปั๊มทั่วไปได้ ไม่ตะกละจนเกินไป ช่วงล่างดี เบรกดี แม้เครื่องจะทำเต็มๆ แต่คุมรถได้ง่าย เสียงไม่ดังโวยวาย ตัวถังคลีนๆ เรียบๆ ถูกต้องตามกฎหมาย เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของรถ Retro ที่แก่เพียงอายุ แต่สมรรถนะไม่แก่ไปตามกาลเวลา…
Returned to find love
เจ้า KE30 คันนี้ เป็นรถปี 1979 ก่อนจะเปลี่ยนเป็น KE70 ซึ่งคันนี้จะเรียกว่า “กะเทย” เพราะเป็น “เก๋งสองประตู” ไม่ใช่ KE35 ตัว “ท้ายลาด” สมัยก่อนผมมี KE30 รุ่นนี้ ทำสีนี้เลย ซึ่งเป็นสีที่ผมสั่งให้ผสมและพ่นเป็นเอกลักษณ์ในยุคนั้น เรียกว่าเป็น KE30 คันเดียวที่เป็นสีนี้ วางเครื่อง 2T-G ตอนนั้นให้ “พี่เหน่” หรือ “เสน่ห์ เรซซิ่ง” ซึ่งเป็นช่างของ TRD รุ่นแรก ในกลุ่ม MIDWAY RACING เป็นผู้ทำให้ ผมก็ขับอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ เลยต้องขายรถไป หลังจากนั้นอีก 30 กว่าปี เริ่มคิดถึง อยากจะทำรถแบบที่เราเคยมี แต่เหมือนมี “พรายกระซิบทัก” เพราะตอนขับรถผ่านเต็นท์ขายรถที่ไม่ได้เคยสนใจมาก่อน แล้วดันหันไปมองแบบไม่มีเหตุผล ก็ไปเจอ KE30 คันนี้จอดอยู่ เลยเข้าไปดู สภาพก็เรียกว่า “โคตรถึก” ไม่สวยเลยดีกว่า สีหนาๆ เครื่อง 4A-GE เก่าๆ แต่คิดว่าเอาไว้ละกันวะ อย่างน้อยก็ 2 ประตู เอาเก็บไว้ก่อนดีกว่าหาไม่มี เหมือนป้ายยาตัวเองยังไงไม่รู้ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มา “โป๊ะแตก” เอาตอนที่เริ่มจะรื้อทำสี ปรากฏว่าสีด้านในตรงประตูที่ไม่ได้ถูกพ่นทับมา “มันเป็นสีเดียวกับรถของเราในอดีต !!!” ซึ่งตอนนั้นมีผมคนเดียวที่ทำสีแบบนี้ และ “พ่นทั้งนอกและใน” เป็นสีเดียวกันหมดทุกจุด จะมีรุ่นเดียวกันอีกคันที่สีคล้ายๆ กัน ก็คือ รถของ “ต๋อย Dracula” แต่ยังไงก็ไม่เหมือนกันแน่นอน ผมจำสีรถผมได้ เพราะฉะนั้น “ใช่แล้ว !!! มันเป็นรถของผมแน่นอน” ไม่ต้องยืนยันอะไรอีกแล้ว ก็เลยเอามาทำใหม่ จัดทรงใหม่ ซื้อซากอีกคัน เอาที่ทรงดีๆ มา “เลาะใช้” เป็นเรื่องปกติของคนเล่นรถเก่า…
- เหมือนพรหมลิขิตที่ได้เจอมันอีกครั้ง กับ “สี” ที่ไม่เหมือนใคร และเหมือนมีอะไร “ทายทัก” ให้เจอ เลย “พอจะ” พิสูจน์ได้ว่ามันคือ “คันเดิม” ที่กลับมา หน้าตัวปี 1979 เป็นตัว “Facelift” ไมเนอร์เชนจ์ตัวสุดท้าย
- แรงด้วยสูตร “ฝาสอง ท่อนล่างสาม” โดยการนำท่อนล่างของ 3T-GTE 1.8 ลิตร ที่มีความแข็งแรงทนทาน เพราะทำไว้รับกับเทอร์โบ เปลี่ยนลูกสูบ WISECO 87.75 มม. Custom Made ให้ได้ขนาดและกำลังอัดที่ต้องการ มาประกบฝา 2T-G ได้เลย ฝาสูบโมดิฟายเต็ม โดย “เฮียก๊อง โรงกลึง” หรือ “มานพการช่าง” (ไม่ใช่ เฮียก๊อง เรซซิ่ง นะครับ แต่ชื่อเดียวกัน อยู่ยุคเดียวกัน) แคม HKS 288 องศา คาร์บู WEBER 45 DCOE เฮดเดอร์ ท่อ หม้อน้ำ ทุกอย่างจาก RC TURBO เกียร์ของเครื่อง T 1.4 ลิตร จาก CELICA TA22 รุ่นแรก เพราะมีขนาดเล็ก ใส่ใน KE ได้ง่ายไม่ต้องทุบ
- หัวเกียร์ TRD หนัง พร้อมคอนโซลกลางที่สภาพใหม่แบบ NOS (New old stock)
- เบาะคนขับ + เบลท์ OMP ที่เสริมเข้าไป ที่เหลือ “เดิมทำใหม่” โดย “พี่บูด”
- หน้าปัด Levin แท้ แบบ “สามหลุม” สภาพเนี้ยบสุดๆ เกจ์วัด Oil Temp จาก GReddy มีความจำเป็นสำหรับรถโมดิฟาย
- ภายในเป็น “ห้องรับแขก” ยิ่งสมบูรณ์มาก ยิ่งทรงคุณค่า พวงมาลัย Raid ตรงยุค งานเก่าหายาก ปุ่มแตร TRD งานเก่าเช่นกัน
- เก็บงานเนี้ยบ โดยเฉพาะพวก “ยางขอบ” ต่างๆ นี่หาได้ยากมากๆ ในสภาพสมบูรณ์
- COROLLA KE30 “กะเทย” ตัวซิ่งยุค “ชวลิต” ก่อน “พาเลซ” เรียกว่าสมัย 40 ปีที่แล้ว ทำยังไงก็ยังงั้น รถของแก๊งนี้ เอกลักษณ์คือ “คลีน” บอดี้ต้องสวยเดิม ไม่มีการทำให้ผิดมิติใดๆ
- กระจกมองข้างทรง “ฟอร์มูล่า 1” ที่นิยมกันมากในยุคนั้น ดูเท่กว่าเดิมเยอะเลย
- ใช้เพลาท้าย TE27 Levin แท้ ซึ่งเพลาจะแคบ ทำให้สามารถใส่ล้อขนาด 8 x 14 นิ้ว เข้าไปได้พอดีโดยไม่ล้นออกมา ช่วงล่างหลัง แหนบและโช้คอัพ TRD เหล็กกันโคลงหลัง “เฮียเม้ง เม้งเฮดเดอร์” สร้างให้คันนี้โดยเฉพาะ ด้วย Connection ความผูกพันส่วนตัว
- ไฟท้ายรุ่นไมเนอร์เชนจ์สุดท้าย จะเป็นทรงนี้ ท่อไอเสียทำทรง FUJITSUBO โดย “เหรียญชัย เทอร์โบ” (RC TURBO)
- Fitment สวยสุดๆ ไม่เน้นเวอร์ ล้อต้องพอดีซุ้มโดยไม่ติด
- ล้อซิ่งสุดเปรี้ยว HAYASHI STREET หน้า 7 x 14 นิ้ว ยาง TOYO PROXES T1R ที่นิยมมี “ไซซ์ประหลาด” อย่างนี้ 195/45R14 เบรก WILWOOD 4 pistons ที่ลงตัวสุดๆ กับรถ Retro สตรัทหน้าของ BC
- COROLLA TE25 ใช้ขุมพลังบล็อก T ที่แรงกว่า K คันนี้ทำเป็น Levin TE27 Replica ได้สมบูรณ์แบบ เพราะพื้นฐานที่ดีกว่า KE25
Rare TE25 Series
คันต่อมา หากดูเผินๆ ก็คือ KE25 ท้ายลาด “ The coke bottle” ที่ถูกจำแลงแปลงกายเป็น LEVIN TE27 Replica แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะคันนี้คือ TE25 ??? ไม่ต้องทำหน้างง มันเป็นรุ่น 1400 ที่มีความพิเศษกว่า KE25 สองประตูทั่วไปอยู่มาก แม้อาจจะดูเผินๆ ว่าเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้ว มันมีรายละเอียดเชิงลึกที่แตกต่างกันอยู่มาก มีรายละเอียด ดังนี้…
- ถ้าเป็นตัวท้ายลาด รหัส KE25 จะเป็นเครื่องตระกูล K 2 ลิตร แต่ถ้าเป็น TE25 ในรุ่น 1400 ใช้เครื่องบล็อก T ทีเดียวนี่แหละ ความจุ 1.4 ลิตร ตัวแรงสุด คือ T-B มาแบบ Twin Carb ของ SU ให้เรี่ยวแรง 95 PS และใหญ่ขึ้นมาเป็นรุ่น 1600 ใช้เครื่อง 2T เฉยๆ ฝาสูบ OHV ความจุ 1.6 ลิตร แรงม้าประมาณ 100-105 PS ถ้าเป็นสุดยอด คือ LEVIN รหัส TE27 จะใช้เครื่อง 2T-G DOHC 1.6 ลิตร มีเรี่ยวแรงถึง 115 PS (ถ้าเป็นตัว 2T-GR ที่มีระบบ “ขจัดไอพิษ” แรงม้าจะลดลงไป 5 ตัว) ซึ่ง “คานหน้า” ของตระกูล TE ก็จะไม่เหมือนกับ KE ด้วยนะครับ…
- ตำแหน่งติดตั้งหม้อลมเบรก TE จะอยู่ “สูงกว่า” ของ KE เพราะโรงงานทำหลบไว้สำหรับใส่เครื่อง 2T-G ฝา DOHC ที่มีขนาดใหญ่ ส่วน KE หม้อลมเบรกจะอยู่ต่ำกว่า และมีขนาดเล็กกว่า แต่ถ้าเป็น TE รุ่นที่ออกมาแรกๆ ก็จะไม่มีหม้อลมเบรก…
- การเก็บรายละเอียดตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ “ตะเข็บรอยพับ” ต่างๆ จะทำให้เหมือนเดิมโรงงานที่สุด ไม่มีการโป๊ปิด ทำให้เหมือนออกมาจากโรงงานจริงๆ…
- แก่สุดในวันนี้ แต่เส้นสายความคลาสสิกมันยังคงมีเสน่ห์ ขับสนุกแบบ “ดิบสุดๆ” ใช้ฝีมือกันได้เต็มที่
- ทรวดทรง Coke bottle ก็หล่อเหลาฉะนี้ คันนี้ใส่โป่งเย็บ เพราะต้องการให้รถมีมิติมากขึ้น เนื่องจาก TE25 เป็นรถที่มีขนาดเล็ก
- “ครบ” และ “งาม” สองคำสั้นๆ ส่วนกระจกมองข้างก็ฟอร์มูล่า ที่รถซิ่งย้อนยุคขาดไม่ได้
- เสน่ห์ของกระจัง TE25-27 ที่ดุดันกว่า KE25 เน้นความเป็นสปอร์ตชัดเจน คันนี้ พี่ต่าย ได้อะไหล่ใหม่ เลยออกมาสดใสอย่างที่เห็น
- โป่งล้อตรงรุ่นของแท้ สังเกตว่ามันจะพอดีกับแนวร่องโค้งของแก้ม เนี้ยบมากๆ
- ล้อลาย TOSCO แบบ “งานเกรดเอ” จาก XXR ยางหลัง TOYO PROXESS T1R ไซซ์ 225/40R14 ประหลาดสุดๆ จริงๆ แล้วก็มีล้อ 13 นิ้ว ตรงยุคงามๆ หลายชุด แต่ติดว่า “ไม่มียาง” เลยต้องขยับมา 14 นิ้ว แหนบหลัง TRD มาเสริมใหม่เอง ส่วนความเนี้ยบของโป่งตรงรุ่นก็ยังเด็ดขาดเช่นเคย
- อวบอ้วนทรงดี งานท่อ RC TURBO เจ้าเก่า เครื่องทรงครบ คันนี้วิ่งไปมาเลเซียได้โดยไม่เหนื่อย ขับสบายจนไม่น่าเชื่อ นี่คือรถอายุเกือบครึ่งศตวรรษ !!!
- การเก็บงานสมบูรณ์ทุกจุด กระทั่งตะเข็บต่างๆ ทำให้เหมือนของเดิมโรงงาน
- ภายในสมบูรณ์ สวยงาม น่าขับจริงๆ เกจ์ 3 เกลอ ตรงกลาง เป็นของยุคใหม่ที่เอาไว้ดูค่าต่างๆ ได้จริง แต่เก็บเรียบร้อยในช่องเดิม ตัวสีแดงด้านซ้ายจะเป็น CDI ของ MSD 6AL
- พวงมาลัย ต้องนี่เลย IZUMI RACING ถึงจะตรงยุคของจริง
- เรือนไมล์ Levin TE27 จะได้ตัวเลขความเร็วสุดที่ 200 km/h !!! มีแถบส้มตั้งแต่ 100 km/h ปุ่มจุกจิกต่างๆ อยู่ครบ ใช้งานได้หมด
- เบาะหลังแข็ง กับเบลท์ TRD
- คันนี้จัดเต็ม สูตรเดียวกัน แต่ “ขยายลูก WISECO สุดตาราง” ไปถึง 89.5 มม. ทำให้ความจุโดดไปพิกัด 2.0 ลิตร !!! แคม “ผีบอก” Customized ขึ้นมาใหม่ ชุดเฟืองแคมชาฟต์และเฟืองหน้าเครื่องทั้งหมด ต้อง KAMIARI (คามิอาริ) แบรนด์เก่าแก่ ฝาสูบ “เฮียก๊อง โรงกลึง” เจ้าเก่า ที่ทำกันมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ดั่งญาติสนิท เฮดเดอร์ หม้อน้ำ โดย RC TURBO แรงม้าลงพื้นมากถึง “169 PS” ถ้าออกจากฟลายวีล ก็ต้องมี 200 PS !!! บนบอดี้เบาๆ อย่างนี้ “ปลิว” แน่นอน
- คาร์บู WEBER 45 DCOE พร้อมกรองซิ่งแบบ “ปิ่นโต” ตรงยุค
- STARLET PUBLICA KP51 ที่ถือว่าเป็นรถหายาก อะไหล่ก็หาโคตรยาก ทั่วโลกต้องการ
Nostalgic Race Car Hero
สำหรับคันนี้ TOYOTA STARLET PUBLICA KP51 เรื่องราวที่มาอาจจะแปลกกว่ารถรุ่นอื่น คันนี้เป็นรถที่จดทะเบียน พ.ศ. 2516 จุดที่แตกต่างจาก KP41 และ KP47 ก็คือ มีความ Top กว่า และเครื่องยนต์ก็เป็น 3K 1.2 ลิตร อุปกรณ์มาแนวสปอร์ตและสะดวกสบายครบๆ ตามที่รถเล็กสมัยนั้นจะพึงมีได้ ในยุคนั้น รถรุ่นนี้จะมีแบบ “นำเข้ามาทั้งคัน” แบบไม่มีการตัดหลังคามา ??? ล็อตแรกในไทยที่นำเข้ามาเต็มคัน มี 4 คัน เรียกกัน “4 จตุรเทพ” แต่ต้องไปจดทะเบียนที่จังหวัดทางตอนบนของไทย (ขอไม่ชี้ชัดนะครับว่าที่ไหน) เรื่องของจำนวนรถนำเข้ามาทั้งคันนี้ จริงๆ แล้ว ก็อาจจะมีนำเข้ามาด้วย “สิทธิอื่น” เช่น สิทธินักเรียนนอก หรือรถสถานทูต ก็มีตามๆ กันมา แล้วต่อมาก็จะเป็นการ “นำเข้าแบบจดประกอบ” อันนี้คนยุคก่อนจะเรียกกันว่า “รถบะช่อ” หรือ “รถหมูสับ” เพราะโดนตัดหลังคา และตัดครึ่งคัน เป็น 3 ท่อน แล้วมาเชื่อมกันในโรงงานหรืออู่รถบ้านเรา ถ้ารื้อออกมาแล้วเจอรอยตัดต่อก็ใช่เลย แต่ถ้ารื้อมาแล้วไม่มีรอยตัดใดๆ ยินดีด้วยครับ คุณเจอเพชรเม็ดงามแล้วละ…
ถามว่าทำไมถึงอยากได้รุ่นนี้ มันเป็นความชอบในสมัยเด็กวัยรุ่น อยากได้มากกกก เพราะมีรถแข่งเป็นไอดอลนี่แหละ สำหรับหนึ่งในนักแข่งดังๆ ที่ขับรถรุ่นนี้ คือ “ชัย คริสโตเฟอร์” ถ้าพูดชื่อนี้ รุ่นหลังคงไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “เฮียชัย Work Power” วัยรุ่นยุค 90 – 2000 จะต้อง “ถึงบางอ้อ” แน่นอน สมัยเด็กๆ ไปเจออยู่คันหนึ่ง เป็นรถของเจ้าของร้าน Victory Bakery ลาดพร้าว ปิดประกาศขายอยู่ ก็เลยอยากได้ แต่ “พ่อไม่เข้าใจ” ไม่ให้ตังค์ งานนี้ “แห้ว” รับประทานไป เลยต้องไปซื้อ KE30 ไอ้คันที่ว่าแทน ส่วน STARLET KP51 คันนั้น เพื่อนรุ่นน้องก็ซื้อต่อไป เอาไปให้ “พี่เหน่” ยกเครื่อง 3K วางตรง จากฝีมือ “เรซซิ่งก๊อง” ออก แล้ววางเครื่อง 2T-G แต่ก็วิ่งไม่ได้ เพราะ “ตัวร้อน” ในยุคนั้นระบบระบายความร้อนก็ไม่ดีเหมือนสมัยนี้ พอไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ได้ติดตามอีก…
ส่วนคันนี้ได้มาเพราะ “พี่เอ GT” ไปเจอ แล้วรีบสอยมาให้ก่อน เห็น พี่ต่าย อยากได้ แรกเริ่มก็ไม่ได้สนใจอะไร กะจะทำรถไว้ขับเล่นๆ สไตล์ TRD รื้อหมด ตัดใส่โป่ง ก็เลยเอาไปให้ “มาด บอดี้” ช่วยปิ้ง แกก็บอกว่า “รถคันนี้ น่าจะเป็น 1 ใน 4 จตุรเทพ ที่นำเข้ามาแบบเต็มคัน” และที่สำคัญกว่านั้น “รถคันนี้ไม่มีการตัดมาแน่นอน” สีขาวเดิมจากโรงงาน จึงมั่นใจได้ ตอนแรกก็กังวลเพราะอะไหล่รุ่นนี้มันหายากมากๆ ขนาดคนญี่ปุ่น ยุโรป ยังขอซื้อรถคนไทยที่สมบูรณ์ๆ แบบ “หลักล้าน” โดยไม่ลังเล แต่โชคดีที่คันนี้ของมาครบและสวย เลยเปลี่ยนใจมาทำกลับเป็นรถถนน เพราะรถมันดีมากอยู่แล้ว คันนี้คงบล็อก K เอาไว้ แต่เปลี่ยนเป็น 7K-E ขนาด 1.8 ลิตร ที่เหมาะสม เพราะตัวรถมันเล็กและเบากว่า COROLLA เลยไม่อยากไป Swap เครื่องจน Over Spec ไป อย่างที่บอกว่าไม่ชอบทำรถบ้าพลัง ขอให้ทน ขับได้ ไม่พังง่าย อย่างคันนี้ก็ขับไปมาเลเซียมาเหมือนกัน ก็ไม่คิดนะว่าไอ้รถแบบนี้จะสามารถ Cruising ที่ความเร็วระดับ 160-170 km/h ได้ !!! แต่มันก็ทำได้โดยไม่มีปัญหา (Trouble Free) แถมยังวิ่งเล่นสนุกๆ ในเซอร์กิตได้อีก ครบเครื่องเลยสำหรับเจ้าตัวเล็กนี้…
- คันนี้น่าจะเป็น 1 ใน 4 จตุรเทพ ที่เป็น “รถนำเข้าโดยสมบูรณ์” ไม่ได้ถูกตัดเข้ามาแบบจดประกอบ ซึ่งหาได้ยากมากๆ และเป็นรุ่น ST ที่เป็น Top of the line
- ทรงเครื่อง TRD แบบตัวแข่งในอดีต ทั้งชุดโป่งเย็บ (Wide Fender) และลิ้นหน้า (Front Lip) ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ตระกูล STARLET ถ้ามาเดิมๆ จะดูไม่เท่าไร เพราะเป็นรถขนาดเล็ก แต่ถ้าใส่โป่งจะดูโหดและโดดเด่นขึ้นทันที
- กระจังหน้ารุ่น ST ตัวท็อปของ KP51 จะเป็นทรงนี้ ไม่เหมือนกับตัว ST ใน KP47 ที่โลโกอยู่ฝั่งซ้ายของรถ (ลอง Search หาดูแล้วกัน)
- โป่งหลังสวยสุดๆ ล้อก็ยังจบที่ HAYASHI STREET อดีตรักวัยหนุ่ม ช่วงล่างหน้า ใส่เหล็กกันโคลงจาก KP61 ที่มีขนาดใหญ่ โช้คอัพหน้า BC เบรกหน้า WILWOOD แรงได้ต้องหยุดเป็น ด้านหลังแหนบเรียงใหม่เอง โช้คอัพ TRD
- ฝาถังน้ำมันสุดสวย ของ ST ยังอยู่ครบ (ถ้าเป็นฝั่งซ้ายจะเป็นช่องระบายลม) โคตรหายากของจริง ไฟท้าย “หล่อขึ้นมาใหม่” นะจ๊ะ อะไหล่รุ่นนี้หายากมากๆ มีเงินไม่พอ ต้อง “ดวง” ด้วย
- การเซตรถของ พี่ต่าย นั้น จะเน้นความพอดี เครื่องแรงแบบขับสนุก ไม่บ้าพลัง ขับไปไหนก็ได้ ช่วงล่างเซตมาพอดีๆ ไม่แข็งกระด้างเกินไป ขับสบายและทรงตัวดี วิ่งเล่นใน Track ได้ แต่ไม่ใช่ทำแบบรถแข่งจ๋า เรียกว่าสนุกกับมันได้เสมอ
- คันนี้ได้รางวัลจากการประกวดจากงาน RETRO HAVOC ที่ KL, Malaysia ด้วยนะครับ จริงๆ ไม่ได้กะไปประกวดอะไรหรอก แค่ขับไปร่วมงานเฉยๆ กำลังจะขับรถออกมาแล้ว โดนเรียกกลับไปรับรางวัลเฉยเลย
- เด็ดขาดจริงๆ สำหรับภายในของค่าย B&T ยิ่งตัว KP51 นี้ หาสภาพสวยๆ ได้ยากยิ่ง คันนี้สมบูรณ์มาก พวงมาลัย IZUMI RACING ตรงยุคจริงๆ ตอนนั้น NARDI ยังไม่มีใครเล่นกันเลย
- ติดตั้งวัดรอบ VDO อย่างเนียนๆ ในช่องเกจ์เดิม หน้าตาโบราณๆ ตามสไตล์
- เกจ์ 3 เกลอ ตัวขวาสุดแอบเนียนใส่เกจ์แต่งไว้ ชุดสวิทช์แอร์ และ วิทยุ แบรนด์ TEN ที่เป็น OEM ของ TOYOTA ในยุคนั้น ออกแบบในแนวตั้ง เอกลักษณ์ของรุ่นนี้จริงๆ
- เบาะหลังแข็ง “โก๋แก่” ได้อารมณ์ยุคนั้นสุดๆ
- ยังภักดีกับเครื่อง K แต่เปลี่ยนจาก 3K เป็น 7K ที่หน้าตาเหมือนเดิม แต่ความจุ 1.8 ลิตร (อยู่ในรถตู้ LITACE NOAH) จับมา “ตั้งตรง” แคมชาฟต์ Custom โดยเอาแนว TRD มาปรับปรุง ลูกสูบ WISECO Custom ก้านสูบมาแปลก ใช้ของ PELTONEN MOTORSPORT ซึ่งเป็นสำนักแต่งรถแรลลี่ใน “ฟินแลนด์” ที่ทำเครื่อง K แรงเป็นอันดับต้นๆ ในโลก !!! แรงม้าลงพื้น 137 PS ก็เพียงพอแล้วสำหรับรถเบาๆ อย่างนี้
- ย้อนอดีตรักแรก กับ “DX กระเทย” ที่แม้จะไม่ใช่คันเดิม แต่อย่างน้อยก็เป็นตัวแทนความสุขในอดีต
Go back to first love
เจ้า KE70 นี้ ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการบรรจุเป็น “ตำนานรถซิ่ง” ในยุค “เดอะ พาเลซ” ได้เลย เพราะเป็นรถที่ออกมาตรงยุคนั้นพอดี ในช่วง 78-84 ก็เหมือนกับรถยอดฮิต อย่าง VIOS, JAZZ ในบัดนาว เป็นรถที่คนส่วนใหญ่ใช้เป็น “จุดเริ่มต้น” เหมือนสมัยนี้ที่คนเริ่มเล่น Retro ก็จะเลือกเจ้า “เจ็ดสิบ” ก่อน เพราะ “ราคาไม่แพง” และ “ไม่มีอะไรซับซ้อน” ง่ายๆ สไตล์ COROLLA รถมหาชน คันนี้เป็นของ “พี่บูด” เพื่อนซี้ “พี่ต่าย” ที่ร่วมกันทำ B&T PERFORMANCE RETRO ด้วยกัน เพราะ “ความชอบ” และอยาก “ย้อนอดีตวัยหนุ่ม” เช่นเดียวกัน…
ย้อนไปเมื่อสมัยวัย “ยี่สิบยังแจ๋ว” ตอนนั้นที่บ้านก็ซื้อ KE70 “กะเทย” สีขาว ให้ใช้ พี่บูด เล่าว่า “เป็นรถคันแรกในชีวิตพี่เลยนะ” ได้มาก็ตามสไตล์นั่นแหละ ก็เอามาโหลดเตี้ย ใส่ล้อ HAYASHI ซึ่งสมัยนั้นก็ฮอตฮิตมาก ใช้ขับไปเรียน ขับไปเหล่หญิง วันศุกร์-เสาร์ ก็มีไปอัดกะเขาบ้าง (อัดรถ ไม่ใช่อัดกำแพง) ยุคนั้นก็ต้องนี่เลย 2T-G จาก LEVIN TE70-71 ตัวนอก “ตรงรุ่น ตรงยุค” (อย่าถามถึง 3T-GTE เทอร์โบ ทวินปลั๊ก หรือ 4A-GE 16 วาล์ว ในยุคนั้นยังไม่มีหรอก) ก็แรดกันอยู่ได้ในยุค “ชวลิต – อังรีดูนังต์ – รัชดา” (ตอนนั้นเพิ่งสร้างถนนเสร็จใหม่ๆ) ส่วนในยุค “พาเลซ” ผมไม่ทัน ตอนนั้นเลิกแล้ว เพราะไปเรียนเมืองนอก…
หลังจากเวลาผ่านไป 30 กว่าปี ก็รู้สึกอยากได้ “ฟีลลิ่งรถคันแรกกลับมาอีกครั้ง” ผมก็เลยปรึกษา พี่ต่าย เป็นเพื่อนสนิทกัน ก็ร่วมกันทำ B&T PERFORMANCE RETRO นี่แหละ โดยต้องการแต่งให้เหมือนรถคันแรกของเราในยุคนั้น ที่สำคัญ เครื่องยนต์ต้องเป็น 2T-G เท่านั้น ก็เลยให้ พี่ต่าย ทำให้ เพราะแกเชี่ยวชาญ ก็ยกหน้าที่ทำเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง ให้ไป ส่วนผมเองก็จะเน้นในด้านการ “ตกแต่งสวยงาม” ตัวถังไม่ยากเท่าไร ถ้าได้รถสภาพเดิม ของครบมา แต่ภายในนี่แหละยากสุด เพราะชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ มันก็แก่หรือตายไปตามกาลเวลา ถ้าภายในไม่สวย ไม่เดิม รถคันนั้นก็จะไม่สวยไปเลย ผมก็พยายามหาของเดิมให้ครบ อะไรที่ฟื้นฟูได้ก็ทำ เรียกว่าทำจนสมบูรณ์ รู้สึก “ดีใจมาก” เรียกว่าเราเรียก “ชีวิตชีวาสมัยวัยหนุ่ม” กลับมาได้ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้มองหรือขับมัน แม้ว่าจะไม่ใช่รถคันแรกในชีวิตจริงๆ อย่างน้อยก็มีความใกล้เคียงอดีตที่สุด แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วครับ…
- รถอดีต กับ สนามตำนาน
- รุ่น “ไฟกลม” สุดคลาสสิก เป็น KE70 รุ่นแรกๆ กระจังหน้า GT ทำ “ไฟขาว” ทั้งหมดให้กลืนไปกับตัวรถ ลิ้นหน้า TOM’S ทรงกำลังสวย
- กดเตี้ย ล้อ HAYASHI STREET ทำย้อนอดีตทุกประการ
- ชิ้นนี้บอกความ “แรง” และ “แพง” นะครับ
- การจะใส่เบรก 4 Pistons ของ WILWOOD เข้าไปในล้อ 13-14 นิ้ว ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะเนื้อที่น้อย แต่ก็ทำได้ถ้าเข้าใจและละเอียดพอ
- สำหรับ KE70 สามารถยกเพลาท้าย AE86 มาใส่ได้เลย มิติใกล้เคียงกัน ถ้าเอาไปใส่พวก KE25/30 ล้อจะล้นออกมาข้างนอก เพราะตัวถังแคบ ต้องตีโป่ง ก็แล้วแต่แนวใครนิยมอะไร
- รถเก่า ถ้าภายในสวยสมบูรณ์ จะยิ่งทำให้น่าขับและน่ามอง เพิ่มคุณค่าและเสน่ห์ของรถ
- สุดๆ ที่ “หัวเกียร์ลูกกอล์ฟ” ตรงยุค แบรนด์ KAMEI (คาไม) แท้ๆ พวงมาลัย MOMO ตรงยุค วัดรอบ PIVOT ที่แน่นอนกว่าของเดิม พร้อม A/F Ratio จาก AEM แม้จะเป็นเครื่อง “คาร์บู” ก็ต้องวัดค่าส่วนผสมด้วยนะครับ
- คันนี้มีผสมอุปกรณ์ยุคใหม่ขึ้นมาบ้าง แต่ยังกลมกลืนกับ “ภาพเก่า” ได้
- 2T-G แน่นอนครับ เป็นเครื่อง “ตรงยุค” และ “ตรงรุ่น” บอดี้ E7 โมดิฟายสูตร B&T ขับได้ทุกสถานการณ์
ขอขอบคุณ
B&T PERFORMANCE RETRO, Gentleman Track Day, Bira International Circuit