ความเหนื่อยยากลำบากของเหล่า Retrolism ที่ต่างต้องผ่านรสชาตินี้ กับรถเก่าแสนรัก ที่บางทีมันก็ดี หลายทีมันก็ป่วย สลับกันไปอย่างนี้ เป็นสีสันแห่งชีวิต ที่ใช่ว่าจะมีแต่ความหวาน ต้องมี “ขม” กันบ้าง คำว่า Bitter Sweet ต้องรู้จัก แต่มันเป็นหนึ่งใน Moment แห่งความสุขของคนรักรถเก่ามิใช่หรือ ??? ฉบับนี้เก่าไม่พอ ยัง “เตี้ย” อีกต่างหาก ดังนั้น รสชาติแห่ง Retro Flush ที่จัดว่า “ดับเบิ้ลลำบาก” ในการขับขี่ แต่เมื่อมี “ความศรัทธา” แล้ว ก็ย่อมเกิด “การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ ยาวนาน” เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิตของพวกเขา “Acrophobia” จากดินแดน “อุบลราชธานี” มาเมืองหลวง การเดินทางที่ยากลำบาก กับรถเก่าเตี้ยๆ ขับก็เหนื่อย วิ่งก็ช้า ทุกคันต้อง “สังเวยใต้ท้อง” ให้กับพื้นถนนไฮเวย์ หลับนอนก็ในรถ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เทียบกันไม่ได้เลยกับเวลาเดินทางแบบ Endurance ที่เกือบจะครบ 24 ชม. ทั้งไปและกลับ !!!
ผม “พี สี่ภาค” มีความคิดว่า “เรื่องราวของการเดินทาง” ของทั้ง 3 คันนี้ มันมีความหมาย !!! แม้จะไม่ได้ร่วมเดินทาง แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้กังวลเหมือนกัน จากการนัดหมายถ่ายทำคอลัมน์ในงาน Flush Style ที่ผ่านมา ในช่วงเช้า คล้อยไปเที่ยง ฝนเริ่มตก ยิ่งเพิ่มความกังวลขึ้น แต่ก็ยังไร้ร่องรอยของ 510 ทั้งสามคัน… เปล่าเลย ในใจผมไม่ได้ตำหนิพวกเขา แต่ “เป็นห่วง” ว่าถึงไหนกันแล้ว จะมีปัญหาในการเดินทางหรือไม่ แต่ทั้งสามคันก็ดั้นด้นมาจนได้ ในฐานะผมมีนิสัยและสันดานนิยม Retro Drive on Tour อยู่บ่อยครั้ง กับเส้นขอบฟ้าเก่าๆ ที่ยังคงเป็นเพื่อนคู่กายในการเดินทางไกลทุกทริป จุดมุ่งหมายมีสองอย่าง วางไว้เพียงแต่ไปถึง และกลับบ้านได้อย่างสมบูรณ์ แต่ “การเก็บเกี่ยวเรื่องราวระหว่างเดินทาง” นั้นทรงคุณค่ายิ่งกว่า ย่อมเข้าใจความรู้สึกตรงนี้ดี และทั้งสามท่าน ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์อันน่าประทับใจในการเดินทาง และ “อยากให้ทุกคนมีความสุขไปกับเรา” ตามสโลแกนของกลุ่ม ซึ่งในส่วนของเนื้อเรื่อง ผมจะให้เจ้าของรถทั้ง 3 คัน เป็นผู้เล่าให้ฟังด้วยตัวเอง ซึ่งผมจะมีการเรียบเรียงให้อ่านเพลินขึ้นครับ โดยไม่เปลี่ยนเค้าโครงเรื่องแต่อย่างใด…
อินทรภูมิ์ แสงดี ขอขอบคุณ : กลุ่ม Acrobobia ทั้ง 3 คันนี้ กับความพยายามที่จะมาให้ถึงจุดมุ่งหมาย, น้าต้น สหายเรโทร ชลบุรี ที่ติดต่อกลุ่มนี้ให้ครับ…
Story of Oct
ผม “อ๊อค” ครับ ขับคันสีทอง รู้ไหมว่า วันที่ 2 พ.ค. เวลา 14.00 น. คือ Dead Line เป็นเวลาสุดท้าย ที่เราตัดสินใจว่าถ้ารถไม่เสร็จในเวลานี้ ก็จะยกเลิกการเดินทางไปกรุงเทพฯ ณ เวลานั้น “รถยังอยู่บนแม่แรงทุกคัน” โอกาสที่จะไปก็แทบไม่เหลือ เวลาล่วงไปเกือบ 16.00 น. รถเสร็จทุกคัน ลงแม่แรงมา แต่รถผมก็ยังมีปัญหาอยู่ ด้วยความ “ทุ่มเท” ของทีมช่าง และ “พลังใจ” ของคนในกลุ่ม รวมถึงเพื่อนๆ ที่คอยให้กำลังใจตลอด เราตัดสินใจ “ไป” ขับรถออกจาก จ.อุบลราชธานี ใน เวลา 17.30 น. การเดินทางค่อนข้างราบรื่น ไม่มีรถคันใดมีปัญหาให้หนักใจ แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่นทั้งหมด เราขับรถกันตอนกลางคืน ซึ่งก็วิ่งได้ช้า ความเร็วเฉลี่ยเพียง 60-80 กม./ชม. ไม่เกินนี้แน่ รถก็เตี้ยมาก วิ่งไปบางทีไม่เห็นหลุมก็มี “โครม” กันบ้าง เสียงยางขูดซุ้มล้อดังเป็นปกติ แถมกลัวสิบล้อจะสอยไปกิน ทางมืดมากก็ไม่รู้จะเห็นพวกเรากันในระยะไกลหรือเปล่า ลุ้นทุก กม.ก็ว่าได้ และต้องมี Trick กันพอสมควร จะเอาตัวรอดจากถนนไม่เรียบ สันดักต่างๆ ข้ามทางรถไฟ ฯลฯ อย่างไรให้รถช้ำน้อยที่สุด ตื่นเต้นจริงๆ ครับ…
เราเดินทางถึง กทม. เวลาเกือบ 14.00 น. ของอีกวัน !!! พร้อมกับการต้อนรับของพี่ๆ XO AUTOSPORT และ ทีมงาน FLUSH STYLE ด้วยความอบอุ่น รอยยิ้ม ความสุขที่สัมผัสได้ในงานนี้ ก็คงยังมีอยู่เหมือนเดิม เราถ่ายทำคอลัมน์ Return to Retro จบ ก็เข้าโชว์ในงาน เสร็จจากงานนี้ พวกเราออกเดินทางอีกครั้งตอน 21.00 น. ไป จ.ชลบุรี ถึงประมาณ 01.00 น. เข้าที่พัก ตื่นเช้ามา ไปถ่ายรูปกัน แล้วก็เข้างาน 510 ALL STAR THAILAND ซึ่งเป็นงานใหญ่ของพวกเราแก๊ง 510 ครั้งแรก ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดึงดูดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ บรรยากาศเต็มไปด้วย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุขที่ทุกคนต่างหยิบยื่นให้แก่กัน เวลาแห่งความสุขมันน้อยจริงๆ สำหรับพวกเราขอตัวกลับก่อน แต่กว่าจะส่งกันเสร็จก็ดึกมากๆ พวกเราเดินทางกลับในคืนนั้นทันที เวลาผ่านไป เช้า เที่ยง ซึ่งอากาศร้อนมาก ทุกคนเพลีย เพราะไม่ได้นอนและอากาศร้อน เราเดินทางกันมาจนถึงอุบลประมาณ 1 ทุ่ม รถทุกคันมุ่งหน้าไปที่อู่ แต่ไม่รู้ว่าเราไปทำไม ผมในสภาพกึ่งกลับกึ่งตื่น พอไปถึงอู่ ผมเห็นทีมช่างอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา สิ่งที่ผมสัมผัสได้ในตอนนั้น มันเหมือนครอบครัวหนึ่งที่รอการกลับมาของสมาชิก แล้วผมก็หลับไปในรถ พร้อมๆ กับรอยยิ้ม โดยที่ยังไม่ได้คุยกับใครเลย…
ตลอดการเดินทางครั้งนี้ พวกเรามีความสุขมากๆ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ก็ให้กำลังใจตลอดการเดินทาง พวกเราไม่ได้หวังอะไรมากมาย ขอแค่มีพื้นที่ได้แบ่งปันความสุข ที่เราอยากบอกออกไป มีมิตรภาพและเรื่องราวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของวันเวลา อย่างที่พวกเราพูดกันอยู่เสมอว่า “อยากให้ทุกคนมีความสุขไปกับเรา” ครับ…
Story of Yuii
ผม “ยุ้ย” ครับ ขับ DATSUN BLUEBIRD 510 สีมิ้นท์ ภายนอก เดิมๆ ตอนได้มาเป็นสีน้ำเงิน สภาพถือว่าสมบูรณ์ พร้อมขับ แต่ก็ได้เอามาทำสีใหม่เป็นสีมิ้นท์ (ปัจจุบัน) กระจกจากเดิมเป็นกระจกทรงกระสุน ก็ได้นำเอากระจกแต่งแนวซิ่งมาใส่แทน ท่อไอเสียก็เปลี่ยนไปใส่หม้อพักปลาย ทำให้ยื่นเฉียงออกมาเป็นคู่ และได้นำเอาพวกอะไหล่ที่เป็นเหล็ก เช่น กันชนหน้า หลัง กระจังหน้า คิ้วต่างๆ ไปชุบโครเมียมให้ใหม่หมด อีกทั้งยังหาอะไหล่ที่ยังขาดอยู่มาเสริม เช่น โลโก้ต่างๆ หงอนกันชน และอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้รถดูครบสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากนั้นก็ได้โมดิฟายช่วงล่าง โดยทำการโหลดรถลง จัด Fitment ล้อ เพื่อที่จะทำให้ดูตรงคอนเซ็ปต์แนว “FLUSH STYLE” เครื่องยนต์ รหัส A14 เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ จัดสายไฟให้ดูเรียบร้อยยิ่งขึ้น และพ่นสีให้ดูหวานแหวเข้ากับภายนอก…
ความรู้สึกที่ได้จากการเดินทางของผม ก่อนการเดินทางคิดกังวลอยู่เรื่องเดียว ก็คือ กลัวเรื่อง Overheat เพราะต้องวิ่งไกล และอากาศร้อน อีกอย่างคันนี้ก็ไม่เคยขับทางไกลมาก่อนเลยตั้งแต่ได้รถมา แต่พอขับไปจริงๆ ปรากฏว่าสิ่งที่กังวลกลับไม่มี ถือว่าโชคดีมากๆ ขับราบรื่นตลอดทาง ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เราก็ไปอย่างถนอมรถที่สุด มีจอดแวะพักบ่อยๆ ด้วย เพื่อคลายความเมื่อยล้าทั้งรถและคน โชคดีที่มาถึงงานทั้ง FLUSH STYLE, 510 ALL STAR THAILAND และได้ถ่ายทำคอลัมน์ของทาง XO AUTOSPORT ด้วย ก็รู้สึกโล่งใจที่ภารกิจลุล่วง ซึ่งตลอดระยะทางไปกลับกว่า 1,400 กิโลเมตร รวม 3 วัน กับการขับรถตลอดเวลา ซึ่งถือว่าโหดน่าดูสำหรับรถเก่าๆ อย่างนี้ แต่ก็กลับไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ จะมีก็บางคันนิดๆ หน่อยๆ พอแก้ไขกันได้ เลยรู้สึกประทับใจว่ามันก็ไปไกลๆ ได้ และเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเวลาขับไปไหนมาไหน วัดจากความสนใจของรถคันอื่นที่วิ่งไปด้วยกัน มีการถ่ายรูป ถ่ายคลิป รถพวกเราไป แค่นี้ก็ปลื้มแล้วครับ ที่มีคนเอ็นดูพวกเรา…
Story of Singha
ผม “สิงโต” นะครับ ขับ 510 สีขาว เป็นรถปี 1969 ความรู้สึก ได้รถคันนี้มาสองปี ค่อยๆ ทำ และเก็บรายละเอียดมาเรื่อยๆ อะไหล่หาชิ้นของใหม่ใส่เท่าที่พอหาได้ เนื่องจากตอนแรกที่ได้มาช่วงล่างหลังคันนี้เป็น “แหนบ” พอจะมาทำ FLUSH STYLE ก็ต้องเปลี่ยนช่วงล่างหลังเป็นแบบอิสระ เอาของ 510 เพลาลอยมาใช้ ซึ่งผมก็ต้องซื้อท้ายตัดมาทั้งหมด เพื่อเลาะและตัดเอาพื้นหลังพร้อมช่วงล่างหลังใส่เข้าไปแล้ว Spot กลับ งานช่วงล่าง สี โป่งหลัง เสร็จก่อนวันงานไม่เกิน 5 วัน ยังไม่ได้ลองวิ่งระยะทางไกลๆ ดูความมั่นคงแข็งแรงของช่วงล่างหลังที่ทำมาใหม่ เรียกว่าลงแม่แรงแล้วมาเลยจริงๆ แถมรถก็มีปัญหาเรื่องระบบไฟและไดชาร์จมาเพิ่มอีก จนวันสุดท้ายก่อนงาน FLUSH STYLE 2014 หลังจากแก้งานไดชาร์จ พบว่า “ไฟไม่พอ” แต่ไม่มีเวลาพอที่จะทำอีกแล้ว ปกติรถคันนี้เคยขับไกลสุดแค่ 40 กม. แค่นั้น แต่เพื่องาน FLUSH STYLE และงาน 510 ALL STAR THAILAND ที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้ต้องตัดสินใจ “ลุย” อย่างเดียว…
ระหว่างการเดินทาง ปัญหาที่คิดไว้แต่แรกก็เกิดจริงๆ ช่วงออกเดินทางเป็นเวลาเย็น การเปิดไฟหน้าขับทำให้ไฟไม่พอ และสตาร์ทไม่ติดอีก จึงตัดสินใจ “ปิดไฟหน้าขับตลอดทาง” เปิดแค่ไฟหรี่ แต่ยังดีที่มีรถ Service ขับตามหลังคอยส่องไฟให้ และพี่ยุ้ย (คันสีมิ้นท์) ที่ขับนำทางให้ จนถึงตอนเช้า ช่วงระหว่างเดินทาง ช่วงล่างที่ทำมาใหม่ยังไม่ลงตัว ทำให้ล้อหลังซ้ายเบียดกับซุ้ม ยางหลังขวาเบียดซุ้ม “เสียวจะไปไม่ถึงจริงๆ” ช่วงพักระหว่างเดินทางได้จัดการเช็กรถ พบว่า “ขอบแม็กหลังขวาถูกเบียดกินเนื้อแม็ก และซุ้มกินยางหลังขวา” แต่ประเมินแล้วน่าจะไหวจึงลุยต่อ ค่อยๆ ประคองไปก็แล้วกันนะ…
จนถึงที่หมาย การได้เข้าร่วมทั้งสองงานทำให้ ความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาหมดไป เมื่อมีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ จากคนในงานเอง และพี่น้อง 510 ของเรา การจัดงานดีๆ เจ๋งๆ เจอรถหลายๆ คันที่อยากเจอตัวจริง ขอบคุณทีมงาน FLUSH STYLE และ 510 ALL STAR THAILAND ทุกๆ ท่านนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ผมจะมาทุกปี !!!! เข้าใจตรงกันนะ…
X-TRA Ordinary
พูดถึงคันสีขาว ที่ช่วงล่างหลังมาเป็น “แหนบ” ไม่ใช่แบบอิสระ คันนี้จะเป็นรุ่น 1400 ที่เน้นการใช้งานหนัก ตามคำโฆษณารถรุ่นนี้ ในนิตยสารกรังด์ปรีซ์ ปี 1971 กล่าวไว้ว่า “สร้างรถคันนี้มา เพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ยังเรียกหา DATSUN BLUEBIRD เพื่อประโยชน์ในการควบตรากตรำงานหนักอย่างยอดเยี่ยม” รุ่นนี้จะเอาใจเหล่า TAXI ที่ต้องการความ “ถึก” เนื่องจากช่วงล่างอิสระด้านหลังไม่สามารถทนไหว เลยจัดช่วงล่างแหนบเสียเลยหมดเรื่องไป รุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 68,000 บาท เครื่องยนต์ L14 SOHC มีกำลัง 85 แรงม้า ที่คุยไว้ว่า “เหยียบได้ 150 สบาย” ตามคำโฆษณาในยุคนั้นที่ผมไปหาเจอมาครับ…