เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)
THE SKY LOUNGE
ประกายเส้นขอบฟ้ายุค 80’s R30 & R31 “มีอะไรดี มีอะไรต่าง”
- ความแตกต่างภายในยุค 80 ทั้งสองรุ่นนี้ เป็น “คู่พี่น้องที่คล้ายกันที่สุด” ในตระกูลเส้นขอบฟ้า
Under the roof of HENG’S GARAGE
“เส้นขอบฟ้า” ก็ยังคงอยู่ยั้งยืนยง มันคงมิใช่แค่ “เรื่องเล่า” หรือเพียง “ไฟท้าย” แค่นี้จะขายได้ แต่ด้วยสมรรถนะที่ SKYLINE ตั้งมั่นจงรักกับคำว่า “มอเตอร์สปอร์ต” จึงวางตำแหน่งให้มันเป็นรถสมรรถนะสูงมาตั้งแต่แรกเริ่ม ภายใต้หลังคาของ “PRINCE MOTOR COMPANY” ที่ผลิตรถญี่ปุ่นระดับสูง ด้วยเทคโนโลยีจาก “เยอรมนี” ที่รู้กันว่า “ฮั้ว” กันมานานแล้ว ก็น่าแปลกที่มีผู้กล่าวว่า “SKYLINE ไม่ใช่รถสปอร์ตพันธ์แท้” ถ้าเทียบกับ Z อันนั้น เกิดมาเป็นสปอร์ตพันธ์แท้ แต่ความจริงก็ไม่แปลก เพราะมันเป็นรถ GT หรือ Grand Touring ที่เกิดมาจากรถ 4 ประตู!!! แม้จะมี 2 ประตู แต่สังเกตว่าภายในก็ยังเผื่อสำหรับ 4 ที่นั่ง รวมไปถึงมีรุ่น 4 ประตู เครื่องแรงๆ แบบ “สปอร์ตซีดาน” อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งเถียงกัน เพราะ SKYLINE ก็ยังยืนหยัดในด้านสมรรถนะมาตลอดกาล…
ความเหมือนในความต่าง ความต่างในความเหมือน
ภายใต้หลังคาของ “HENG’S GARAGE” ที่เหมือนเป็นคลังแสงของตระกูลเส้นขอบฟ้าที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เยาว์วัย เจ้ารถสองประตูสองคันที่ท่านกำลังชมอยู่นี้ จะเป็น SKYLINE 2000 RS-TURBO ในรหัส KDR30 และ SKYLINE 2000 GTS-R ในรหัส KHR31 สองคู่ชู้ชื่น ที่หลายๆ คนยัง “สับสน” ว่ารุ่นไหนคืออะไรกันแน่ เพราะด้วย “ความเหมือนในความต่าง” ด้วยรูปทรงภายนอกที่มีความคล้ายคลึงกันมาก ถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยจริงๆ ดูเผินๆ จะแยกไม่ค่อยออก แต่เอาเข้าจริง อะไหล่ต่างๆ แทบทั้งหมด “ใช้ร่วมกันไม่ได้” (ไม่นับคำว่า “แปลง” นะ คำว่า “ใช้ร่วมกันได้” มันจะหมายถึง “ตัวเดียวกัน ใส่กันได้เลย” นะครับ) ถ้า “เพ่งพินิจ” กันดีๆ จะรู้ว่าไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แต่ด้วย “ความต่างในความเหมือน” ด้วยเทคโนโลยี ระบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ก็ไม่เหมือนกัน แล้วมันต่างกันอย่างไร มีคำตอบในคอลัมน์นี้แบบ “ย่อยง่าย” ครับ…
“Tekkamen” & The Revival of “DOHC” 4 Valves Unit
เริ่มกันจากเจ้า “Newman Skyline” ในตระกูล R30 ที่เป็นเส้นขอบฟ้าใน Generation ที่ 6 ซึ่งมีดารารุ่นเดอะของอเมริกา อย่าง Paul Newman เป็น Presenter ของรุ่นนี้ พร้อมวลี “Skyline is Terrific” ซึ่ง “ป๋าพอล” เอง ก็เป็นนักแข่งด้วย ภายใต้ชายคาของ NISSAN ป๋าพอล ขับ FAIRLADY Z หรือ 300ZX (Z31) ในรายการแข่ง SCCA (Sport Car Club of America) แต่เมื่อปี 2008 ป๋าก็ลาจากแฟนๆ R30 ไป ด้วยโรค “มะเร็งปอด” ปิดตำนานด้วยอายุ 83 ปี…
เอาละครับ… ขอไม่ร่ายดีเทลให้ยาว แต่จะขอกล่าวถึงส่วนที่น่าสนใจเฉพาะรุ่นไปนะครับ…
- The Revival of DOHC 4 Valves Unit : แปลว่า “การคืนชีพของระบบ DOHC 4 วาล์ว/สูบ” บนเครื่องยนต์ FJ20 ฝาแดงหวือหวาที่นอนอยู่ในรุ่น DR30 2000 RS ที่ผลิตมาเพื่อ “มอเตอร์สปอร์ต” โดยตรง เป็นการกลับมาอีกครั้ง หลังจากยุติการผลิตเครื่อง S20 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว ในตัว 2000 GT-R KPGC110 “Ken & Mary” หรือ “Ken Meri” ไปในปี 1973 เพราะสภาวะ “วิกฤติน้ำมันขาดแคลน” ทั่วโลก ในปี 1977 รุ่น C210 ก็มีเพียงเครื่อง L20 6 สูบ SOHC ธรรมดาๆ และกลับมาอีกทีในปี 1981 โดยเริ่มจาก FJ20E ไร้หอย 150 PS ก่อนในรุ่น 2000 RS (เป็นรถแบบ Lightweight ไม่มีอุปกรณ์รื่นเริงเถิดเทิงใจใดๆ) และในช่วงปี 1982-1983 (ข้อมูลแต่ละแหล่งมีคลาดเคลื่อนกันบ้าง) ก็ออก FJ20ET “เทอร์โบ” มา ในรุ่น 2000 RS-TURBO มีกำลังถึง 190 PS ปรับช่วงล่างใหม่ เปลี่ยนเบรกหน้าใหญ่ขึ้น และเครื่อง FJ20 ทั้งสองแบบนี้ เป็นเครื่องยนต์ไร้หอยและมีหอย ที่มี “แรงม้าต่อความจุ” มากที่สุดของญี่ปุ่นในยุคนั้น…
- FJ20ET “I/C” : เครื่อง FJ20ET ในรถโฉมแรก “ไฟใหญ่ กันชนเล็ก” จะ “ไม่มีอินเตอร์คูลเลอร์” แรงม้าก็ดังกล่าวไปตะกี้ ในปี 1984 RS-TURBO ก็ปรับโฉมใหม่ “ไฟหน้าเล็ก” สุดงาม เครื่องยนต์แม้จะดูเหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม เพราะมีการอัปเกรดขึ้น โดยการใส่ “อินเตอร์คูลเลอร์” เพิ่มเติม จะสังเกตว่า “สปอยเลอร์หน้า” ด้านซ้าย จะมี “ช่องลม” ไว้เป่าอินเตอร์ฯนั่นเอง เพิ่มกำลังอัดจาก 8.0 : 1 เป็น “8.5 : 1” เพิ่มบูสต์จากเดิม 0.46 บาร์ เป็น “0.53 บาร์” ทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น “205 PS” ก็เป็นเครื่องยนต์ตัวแรกของญี่ปุ่น ที่สามารถผลิตแรงม้าได้ “เกินกว่า 100 PS ต่อความจุ 1 ลิตร” (ลองเอา 2000 ตั้ง แล้วหาร 205 ดู) ซึ่งนับว่าเป็น “พ่อ SR20” ก็ไม่เกินความจริง…
- The Tekkamen or Iron Mask : คำว่า “เทกกะเมน” มาจากการ์ตูน Tekkamen Blade “หน้ากากเหล็ก” หรือ Iron mask ก็เรียกได้ หน้าตาไอ้รุ่นนี้มันเหมือนจริง ตาเล็กๆ มีรูจมูกสองรู หน้าเหลี่ยมๆ อะไรประมาณนั้น แต่บ้านเราเรียก “หน้าเหยี่ยว” เพราะตามันดูเฉี่ยวๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันเด่นชัดของรุ่นนี้…
- TOMICA SKYLINE Silhouette Formula Group 5 : ตัวแข่งในตำนาน ที่เป็นรุ่นสุดท้ายในการแข่ง Silhouette Group 5 ก่อนจะยกเลิกไป รถเบอร์ 11 คาดข้าง TOMICA ที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก ขับโดย “Mr. Masahiro Hasemi” ที่ขับ SKYLINE แข่งขันมาตั้งแต่ Hakohsuka ไปจนถึง R32 Group A ไปยัน JGTC ยุคแรกๆ ก่อนที่จะ Retire ไป (ซึ่งป๋าแกก็มีทีมแข่ง HASEMI ของตัวเองอยู่แล้ว) ขุมพลังของคันที่ว่านี้ มันกลับไม่ใช่ FJ20ET ตามคาด มันกลายเป็น LZ20B เป็นพื้นฐานเครื่อง L20B 4 สูบ 2.0 ลิตร (เป็นเครื่องใน BJR30 รถบ้านเรานี่แหละ) ไปใส่ฝา LZ แบบ DOHC 16 วาล์ว โมดิฟายเต็มเหยียด มีพลังถึง 570 PS (และอาจจะ “กว่า” ในรอบควอลิฟายที่ต้องทำเวลาเร็วสุด) ยืนยันอีกทีว่า มันไม่ใช่ FJ20ET แน่นอน แต่จะเครื่องอะไรนั้น มันก็สร้างความประทับใจด้วย “รูปทรง” อันงดงาม ดุดัน สมยุค และ “ไฟออกท่อ” ยาวเยอะสะใจ ทำให้เรารักมันจนถึงทุกวันนี้…
- RS-X TRA : NISSAN เริ่มมองตลาดอันเป็นสากลมากขึ้น อย่างในรุ่น RS-TURBO ที่เป็น Top of the line ที่กลุ่มลูกค้าจะเป็นแนว “เฉพาะทาง” และ “เลือกเฟ้น” เป็นอย่างดี จึงต้อง “จัดเต็ม” ในด้านความสะดวกสบายกันหน่อย รุ่น RS-X โฉม Tekkamen นี้ จะ Extra ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เช่น พวงมาลัยเพาเวอร์, โช้คอัพปรับไฟฟ้า (จริงๆ มีมาตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว) กระจกไฟฟ้า, เบาะคนขับ พร้อมระบบ Multi-way Lumbar Adjustment ก็คือ “ปรับตัวดันกระดูกสันหลัง” เพื่อลดอาการเมื่อยล้าเวลาขับทางไกล และมี “เกียร์ออโต้” ให้เลือก (จ่ายตังค์) สำหรับคนที่ชอบความแรงผนวกความสบาย…
- Tekkamen 2000 RS-X ตัว “สองตู” ที่ยังคงความเหลี่ยมโบราณอันเป็นเสน่ห์
- เหมือน “รถถัง” ซึ่ง SKYLINE จะชอบทำรถที่น้ำหนักเยอะ อุ้ยอ้าย แต่มีความสบายในการนั่งขับและโดยสารในทางไกลแบบ GT ซึ่งคนละแบบอย่างกับ Sport car พันธ์แท้ ที่เน้นความปราดเปรียวเป็นหลัก
- WATANABE R-TYPE กว้าง 8.5 และ 9.5 นิ้ว คันนี้เล่นล้อ 15 นิ้ว แทนที่จะเป็น 16 นิ้ว แบบส่วนใหญ่ เนื่องจากว่า ทรงของ R30 Coupe มันจะดู “แบน กว้าง เตี้ย” ใส่ล้อ 15 นิ้ว รถจะเตี้ยพอดีๆ ไม่สูงเหมือนใส่ 16 นิ้ว ทำให้ไม่เป็นภาระในการ “โหลด” ช่วงล่างลงมาอีก พร้อมยาง TOYO PROXES R1R ขนาด 205/50R15 ซึ่งเส้นรอบวงจะเล็กกว่ายางเดิม 205/60R15 แต่ดูเท่กว่าแน่นอน
- มีรูจมูก 2 รู เหมือน “หน้ากากเหล็ก” ไหมล่ะ ลิ้นหน้าทรง JENESIS AERO พร้อมเว้นช่องลมด้านซ้ายไว้ตามแบบตัว RS TURBO I/C จุดเด่นอีกประการ คือ ที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้า ในยุคนั้นจะมีใช้ในรถระดับเรือธงของค่าย
- สปอตไลต์ตรงยุค แบบ Pop up ฝาครอบเปิด–ปิด ด้วยสวิตช์ไฟ โคตรเท่
- ไฟท้ายพื้นเทา ตรงรุ่น RS Tekkamen (รุ่นแรกจะคนละแบบกัน) และจะไม่มีคิ้วโลโก SKYLINE ตรงกลางฝาท้ายเหมือนรุ่น GT หม้อพัก KAKIMOTO ทรงตรงยุค ชุดพาร์ทหลังนี่ของหายาก ตรงรุ่น RS TURBO
- ตรงรุ่นหรือไม่ ก็ดูตรงนี้แหละ
- คิ้วรางน้ำ พร้อมโลโก SKYLINE ของแต่งโรงงาน
- Gap หลังคาทรงสวย กำลังพอดี (อยากได้บ้าง)
- พวงมาลัย GReddy KG “Ken Gushi” นักดริฟต์ของค่ายที่ไปโด่งดังในอเมริกา
- เกจ์ HKS เรียงในช่องวิทยุ หัวเกียร์มังกร Bosozoku Style
- กระจกมองหลัง 5 ช่อง น่าจะเป็นของ Speed Way บนหน้าปัดหุ้มคาร์บอนของแต่ง
- ไมล์ 260 km/h จาก GENESIS สำนักแต่งคู่บุญ R30
- รุ่น RS-X จะมีภายในหลายแบบ แต่ที่นิยมหากันมาก คือ “แดง–ดำ” ที่ดูสปอร์ตสุดๆ
- เบาะ GReddy by BRIDE ของสมัยใหม่ แต่ยังไม่โดดยุค
- จะตรงรุ่นก็เอาให้หมด
- ปรับบูสต์ TRUST มือหมุน ตรงยุค ปรับง่ายแต่ระวัง “มันส์มือ” พลีชีพนะจ๊ะ
- ไม่ผิดหวังที่เปิดมาเจอฝาสีแดงของ FJ20ET อยู่ในนี้ Blow off valve HKS SQV กรองอากาศ HKS SUPER FLOW ยอดฮิตตลอดกาล เทอร์โบ GARRETT ตรงยุค
- มันก็มีเสน่ห์ตรงฝาโบราณๆ นี่แหละ สายหัวเทียน ULTRA ตรงรุ่น ค้ำโช้ค CUSCO เบิกใหม่
- โช้คอัพ BLITZ
HENG’S Quote
“ผมเป็นคนที่รักใน SKYLINE ก็จะสะสมให้ครบทุกรุ่นเท่าที่ตัวเองชอบ อย่างรุ่น R30 นี้ ด้วยความที่มันออกแบบมาดูเหลี่ยมๆ แรกๆ ผมก็ว่ามันไม่สวยหรอก เพราะมันดูเป็นกล่องๆ แต่พอเวลาผ่านมา มันกลับมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหน้าตาแบบ Tekkamen ที่ทรงเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ไฟท้ายโคมเทาเฉพาะรุ่น RS คันนี้เป็นรุ่น RS-X ที่เป็นตัวท็อป จึงมีอุปกรณ์ที่สวยงาม หลากหลาย ผมเน้นเก็บรายละเอียดให้ขับได้จริง อาจจะไม่เดิมทั้งหมด บางอย่างก็ปรับเปลี่ยนไปตามสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ เป็นรถที่ขับดี เกาะถนน ขับสบาย เครื่อง FJ20ET มีเสียง “กร้าว” เป็นเอกลักษณ์ ฟีลลิ่งของรถจะออกแนวค่อนข้างดิบหน่อย แต่ก็ยังมีความรู้สึกมั่นคงอยู่ จะพูดก็เหมือนย้อนยุคกลับไปเป็นวัยหนุ่มกลางๆ อีกครั้ง…
EXPECTATION OF “R”
ถัดมาอีกรุ่น ในปี 1985 NISSAN ก็ปรับโฉม SKYLINE ในซีรีส์ “R31” เป็น Generation ที่ 7 ให้ดูสวยงาม หรูหรา ทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม อันนี้จะเป็น “ยุคคาบเกี่ยว” จะ Retro ก็ไม่เชิง จะ 90’s ก็ไม่ใช่ ออกจะ Modern Retro ก็พอจะได้ ก็คล้ายๆ กับ AE86 ที่มีอารมณ์คาบเกี่ยวประมาณนี้ รูปทรงก็ยังมีกลิ่นอายของ R30 อยู่มาก แต่เอาเข้าจริงๆ รายละเอียดต่างๆ มันไม่เหมือนกันเลย และตั้งแต่รุ่นนี้ไป “ไม่มีฉายา” เหมือนรุ่นก่อนๆ อีกแล้ว…
- EXPECTATION OF “R” : “ความคาดหวังในอนุกรม R” หลังจากที่ GT-R หยุดสายการผลิตไปในปี 1973 จาก Ken Mary KPGC110 นิยามของ Grand Touring Racing ก็หายไป แม้แต่รุ่น R30 ก็ยังมีแฝงตัว R มาในรุ่น RS (Racing Sport บางคนก็ว่า Racing Skyline) แต่ก็ยังไม่สุดเท่า GT-R อันเกรียงไกรในอดีต สำหรับรุ่น KHR31 นี้ กลับมีความหวังเล็กๆ ด้วยการผลิตรุ่นพิเศษ GTS-R ออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคม 1987 ซึ่งมีความแรงเหนือกว่า GTS อย่างมาก หรือนี่!!! เป็นสัญญาณการกลับมาของอนุกรม “R” อย่างแท้จริง…
- GTS-R Trim : ความเหนือชั้นของรุ่นนี้ ย่อมมีมากกว่า GTS อย่างแน่นอน ภายนอก จะมี “GT Auto Spoiler” เมื่อถึงความเร็วประมาณ 80 km/h ด้านในจะยื่นเสริมออกมาโดยอัตโนมัติ สปอยเลอร์ทรงตูดเป็ดบนฝาท้าย (Heck Spoiler) จะมีขนาดใหญ่ พร้อมคำว่า NISSAN MOTORSPORT INTERNATIONAL รู้กันว่า NISMO นั่นเอง พร้อมโลโก GTS-R ตัว R เป็นสีแดงบนฝาท้าย เพื่อประกาศศักดา ล้อเป็น BBS ผลิตให้ ภายใน มีพวงมาลัยที่ ITALVOLANTI ผลิตให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเบาะสีเทาล้วน ทรงสปอร์ต…
- RB20DET-R : ขุมพลังของ R31 ในตระกูล GTS จะใช้เครื่องยนต์ RB20DET แบบ “ฝาแดง” ที่หลายคนอยากได้ฝามันไปใส่กับเครื่อง RB ฝาขาว หรือแม้แต่ RB26 เพราะมันดูคลาสสิกดี มีแรงม้า 190 PS ก็ดูจะไม่ตื่นเต้นอะไรนัก แต่ถ้าเป็น GTS-R จะอัปเกรดขุมพลังเป็น RB20DET-R ที่โมดิฟายเพิ่ม เช่น “เทอร์โบ” มีขนาดใบที่ใหญ่ขึ้น และเป็น “เหล็ก” จากรุ่นธรรมดาที่เป็น Ceramic ที่เบา ติดบูสต์ง่ายจริง แต่ “เปราะ” ไม่เหมาะกับบูสต์หนัก ใบแตกเอาง่ายๆ ส่วน “เฮดเดอร์” ก็เป็นแบบ “สเตนเลส สูตรซิ่ง” จากโรงงาน ซึ่งรุ่นธรรมดาจะเป็นเหล็กหล่อ ทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นถึง “210 PS” ซึ่งพัฒนาต่อไปเป็นรถแข่ง Group A Racing ที่ดังๆ ก็ทีม Hasemi Reebok นั่นเอง…
- HICAS System : เดิมทีเราจะเข้าใจกันว่า ระบบเลี้ยว “ล้อหลัง” หรือ HICAS จะเริ่มต้นที่ R32 แต่จริงๆ แล้ว R31 ก็มีแล้วครับ แต่การทำงานไม่เหมือนกัน R31 จะมีวิธีคิดที่ประหลาดพิสดารดีแท้ คือ จะมี “กระบอกลูกสูบทั้งสองฝั่ง” ไว้ “ดันแพหลัง” ให้เลี้ยวทั้งแพ โดยควบคุมจากกล่อง ECCS โคตรล้ำลึกดีแท้ ซึ่งบู๊ชแพหลังจะเป็นแบบ “ให้ตัวได้” มี Slot ไม่ใช่ตันทังอั้น (คล้ายๆ ยางแท่นเครื่อง) สามารถขยับองศาได้นิดหน่อย ส่วน R32 จะเป็นชุดแร็คเลี้ยวเลย…
- R31 ที่ออกแนวหรูหรากว่า แต่เหมือนคนจะเล่นน้อยกว่า R30 เพราะเป็นรถที่ “คาบยุค” บางคนก็ข้ามไปเล่นกับ R32 เลย แต่ว่ามันก็มีเสน่ห์ในแบบของมัน
- สปอยเลอร์หน้า GTS-R ดู “เฉียบ” เหนือธรรมดา สปอตไลต์ BOSCH PRINCE ชัวร์ครับ “ตรงสายพันธ์แน่นอน” เพราะ SKYLINE เกิดมาจาก PRINCE Motor Company
- ไฟท้ายที่ดูจะโดดเด่นมาก เหมือน Laser Disc ทันสมัย
- Heck Spoiler พร้อมโลโก GTS-R บ่งบอกถึงความไม่ธรรมดา
- หม้อพัก KAKIMOTO ทรงโบราณตรงยุคเช่นกัน
- ใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย WATANABE RS-8 กว้าง 8 และ 9 นิ้ว ขอบ 16 นิ้ว Fitment สวยพอดี เบรก R32 GT-S
- R31 ออกแบบภายในยังคงความเหลี่ยม แต่เน้นอุปกรณ์จุกจิกต่างๆ เยอะขึ้น คันนี้ก็รักษาไว้เดิมๆ ยันพวงมาลัย
- เกจ์ OMORI สี่เกลอ หัวเกียร์ IMPUL
- เรียกว่าเป็น SKYLINE รุ่นที่เน้นความหรูหราอย่างชัดเจนที่สุดในตระกูลก็ว่าได้
- หกสูบสองพันวางเอียงในตำนาน RB20DET ฝาแดง ถ้าเป็น R เฮดเดอร์จะเป็นทรงหวีกล้วยจากโรงงาน ค้ำโช้ค CUSCO
- โช้คอัพ R31 HOUSE by BLITZ
- พี่ชายใจดี HENG’S GARAGE ผู้รักเส้นขอบฟ้า
HENG’S Comment
“คันนี้ผมก็ว่ามันยังมีเสน่ห์ความเหลี่ยมอยู่ แต่ดูรูปทรงแล้ว มันยาวขึ้น มีความทันสมัยมากขึ้น เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้นจากความเป็น Retro ความดิบจะน้อยกว่า R30 แต่มาในความสบายแทน โดยเฉพาะเครื่อง RB20DET แบบ 6 สูบ มันแรงแบบนุ่มๆ ขับง่าย คือ มันเร็วนะ รู้สึกว่าดึง แต่ไม่กระโชกโฮกฮาก ไปเรื่อยๆ แต่ไปนะ คันนี้ได้มาเป็น GTS แต่ผมก็พยายามปลุกปั้นให้มันกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เอาพาร์ท GTS-R มาใส่ เพราะดูสวยเท่กว่าเดิม ส่วนภายในจะใช้เวลาหน่อย เพราะปุ่มมันเยอะแยะไปหมด ส่วนใหญ่ปุ่มจะเลือนไปแล้ว ก็ต้องหาของที่สภาพดีมาเปลี่ยน คันนี้ถ้าเทียบกับ R30 เหมือน R31 ขับแล้วจะรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มันก็มีเสน่ห์กันคนละแบบครับ”
Special Thanks
Facebook : Heng’s Garage