เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่
Amazing Thaiman
PANDEM 521 Pickup
GARAGE 22 & NUMBER 7 Racing Present
กระบะเมืองไทย ไม่แพ้ใครในโลก!!! ไม่ว่าจะเป็นยุคใหม่วัยรุ่น หรือยุคคลาสสิก “โก๋หลังวัง” ที่กลับมาฮิตกัน เพราะทรวดทรงของกระบะยุค 60-70 มันมี “เสน่ห์เฉพาะตัว” ความดิบ ความเหลี่ยม แต่แฝงไปด้วยความคดโค้งที่สวยงาม ซึ่งมันหาไม่เจอแล้วในกระบะยุคใหม่ ลำพังจะเก็บเดิมๆ มันก็จะให้อารมณ์ Vintage ที่ “ดื่มของขม ชมความหลัง” แต่หากมาอยู่ในมือ “ทางสายซิ่ง” แล้ว จะต้องมีการปรับปรุงให้ออกทรง Retro Racing ปลุกคุณปู่มาซู่ซ่า ซึ่งเป็นความท้าทายอีกแบบหนึ่ง ที่หลายคนก็พยายามจะทำ แต่จะ “เกิดหรือไม่” ก็อยู่ที่ “องค์ประกอบ” ของทุกสิ่งมารวมกัน…
PANDEM หนึ่งในไทย สองในโลก
และแล้วเจ้า DATSUN 1300 Pickup ในรหัส 521 คันนี้ ก็ถูก GARAGE 22 & NUMBER 7 Thailand จับมาปรุงโฉมด้วยชุดแต่ง “ฉันเลยโอเค” สัญญลักษณ์นิ้วกรีดกรายจาก PANDEM ในนามของ T.R.A. Kyoto ของเจ้าสำนักสาย “คุกเข่า” คือ “Kei Miura” ที่ตัวเขาเองก็มีเจ้า DATSUN 521 ไว้เล่นด้วยความชอบส่วนตัว ก็เลยผลิตชุดพาร์ทออกมาสำหรับรุ่นนี้ด้วย เรียกว่า “เข้าทาง” เจ้าของรถ คือ “โมฮาเหม็ด” Mohammed Alsharshani ชาวกาตาร์ ที่รักชอบในสไตล์ Retro และเป็นตัวแทนจำหน่ายล้อ WATANABE รวมไปถึงของแต่งจากสำนัก Number 7 Racing Product ในเมืองไทย ได้ร่วมมือกับทาง GARAGE 22 ปลุกปล้ำรถคันนี้ขึ้นมา จะเรียกว่า “ปล้ำ” จริงๆ เพราะมีเวลาเพียงแค่ 1 เดือน จากสภาพรถแห้งๆ เดิมๆ จึงต้องเร่งมือกันสุดๆ ให้ทันงานโชว์ที่ผ่านมา เรียกว่าทั้งทีมกินนอนกับรถคันนี้เลย สำหรับชุดพาร์ท PANDEM 521 ชุดนี้ ถือเป็น “คันที่สองของโลก” และที่แน่ๆ “คันแรกในเมืองไทย” ที่เสร็จสมบูรณ์แบบตัวจริงวิ่งได้…
WATANABE “GOTTI” The Mystery Wheel???
จุดเด่นของคันนี้ คือ “ล้อ” ที่เป็นของ WATANABE แต่ลวดลายนั้นไม่ใช่ “แปดกล้วยน้ำว้า” อย่างที่เราคิด แต่มันเป็น “สี่กล้วยหักมุก” พร้อม Bead Lock 4 นอต แบบโบราณกาล ถ้าใครเป็นแฟน Retro Car ตัวยง จะรู้ทันทีว่าล้อลายนี้มันอยู่ในตัวแข่ง DATSUN 240 ZR นี่หว่า !!! ซึ่งเป็นล้อที่ผลิตจาก Magnesium ผลิตมาเพื่อการแข่งขันเท่านั้น ในเมืองไทยมีอยู่ในมือของ “สายเก็บรุ่นใหญ่” อยู่ประมาณ 2 ชุด เท่าที่เห็นนะ ซึ่งตำนานของล้ออันทรงคุณค่านี้ หลายคนอยากทราบว่ามันมี “ที่มาที่ไป” อย่างไร แล้วทำไม WATANABE จึงเอาลายนี้มา Re-product แล้วสรุป มันคือล้อของอะไรแน่…
ในอดีต ล้อรุ่นนี้คนจะเรียกว่า “GOTTI” ซึ่งจริงๆ แล้ว มันมีอะไรที่เป็น “ปริศนา” กันอยู่ เพราะล้อรุ่นนี้จริงๆ แล้ว จะถูกผลิตโดยบริษัท Kobe Seiko (โกเบ เซโกะ) หรือ KS ซึ่งจับมือกับทาง NISSAN/DATSUN ล้อสำหรับรถแข่งของค่าย หรือ NISSAN Factory Race Wheel โดยยุคแรกจะผลิตล้อ “แรลลี่” กับล้อ Magnesium Road Wheel ก็คือ ล้อลาย 4 ก้านคู่ ที่เป็น Sport Option สำหรับ FAIRLADY Z 432R ซึ่งเป็นเวอร์ชันพิเศษสุดๆ ของตระกูล ผลิตมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ด้วยการแชร์หัวใจกับ Hakohsuka 2000 GT-R (PGC10) และได้ผลิตล้อแบบ 4 ก้าน ที่มี “หน้ากว้างพิเศษ” (Super-wide 4 Spokes Wheel) สำหรับตัวแข่งเซอร์กิตในตำนาน ซึ่งมีมากกว่า 1 ขนาด แต่ผลิตออกมาสำหรับ NISSAN Factory Race เท่านั้น ไม่มีผลิตออกมาขายทั่วไป จึงทำให้มันเป็น “Big Dollar Item” โคตรซูเปอร์หายากและทรงคุณค่าอย่างยิ่งในปัจจุบัน…
แต่ก็น่าแปลกใจและเหมือนเป็น “ปริศนาธรรม” เพราะล้อรุ่นนี้จะถูกเรียกกันว่า “GOTTI” ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์ล้อซิ่งชื่อดังในยุโรป (และก็เป็นของหายากอีกเช่นกัน) เพราะล้อชุดนี้จริงๆ แล้ว Kobe Seiko เป็นผู้ผลิตแน่ๆ แต่ทำไมคนเล่นในญี่ปุ่นถึงเรียกมันว่า GOTTI ถ้าจะให้ “เดาอย่างมีเหตุผล” ตามข้อมูลบอกว่า ลวดลายมันอาจจะคล้ายคลึงมาก (ไปจนถึงเหมือน) กับล้อ GOTTI รุ่นหนึ่ง (ซึ่งผมหาดูแล้ว มันก็เหมือนจริงๆ) แต่ก็ไม่มีใครฟันธงอีกว่า KS กับ GOTTI นั้น มี “สัมพันธภาพ” อะไรหรือเปล่า หรือเพียงแค่ความเหมือนที่แตกต่างกัน ก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ให้รู้กันว่าเหมือนเป็น “นิคเนม” สำหรับล้อรุ่นนี้ก็แล้วกัน…
หลังจากที่หายไปหลายสิบปี WATANABE ก็ได้รับ “มรดกชิ้นสำคัญ” ก็คือ “แม่พิมพ์ล้อ” รุ่นนี้!!! ทำให้ “เกิดใหม่” อีกครั้ง แต่ทางบริษัท FALCON ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย WATANABE ในญี่ปุ่นเอง ต้องการความเป็น “Limited” ผลิตเป็นแบบ Made to order เท่านั้น เพราะล้อชุดนี้จะใช้เวลาทำ “นานมากกกก” อาจจะ “ปีละชุด” ก็เป็นได้ และ “แพงมากกกกก” เหตุผลหลัก ล้อแบบนี้ไม่ได้ผลิตแบบ Mass Product เพราะกรรมวิธีการผลิตไม่เหมือนกัน เนื่องจากเจตนาผลิตเพื่อการแข่งขันเท่านั้น เรื่องความสวยงาม สังเกตได้ว่าผิวล้อจะ “หยาบ” เพราะแม่พิมพ์สมัยก่อนมันก็จะเป็นแบบนี้จริงๆ พอเคาะออกมาแล้วก็ต้อง “แต่งมือ” จะเรียกว่าเป็น handmade เสียส่วนใหญ่ก็ว่าได้ แต่นี่แหละ “เสน่ห์ของวันวาน” มันต้องมีความหยาบ ดิบ แต่โคตรได้อารมณ์…
Special Thanks
Mohamed Car Owners, GARAGE 22, อั๊ยหมี นอนนาน (ช่างเครื่องราคะ)
X-TRA ORDINARY
สำหรับ “รหัส” ตัวถัง สังเกตได้ว่าตัว Pickup กับ Bluebird จะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ แต่จะผิดกันที่ตัวเลข “หลักที่สอง” ถ้าเป็นเลข 1 คือ Bluebird ส่วนเลข 2 คือ Pickup แต่ “หน้าตาเหมือนกัน” อย่างรุ่นต้นตระกูล จะเป็นรหัส 210 ก็คือ DATSUN 1000/1200 ซีดาน ต้นตระกูล Bluebird ส่วน 220 จะเป็น Pickup จนมาถึง 310 ที่เรียกเป็น Bluebird อย่างเป็นทางการ และ 320 กระบะ ซึ่งในบ้านเรายังพอหาได้อยู่ แต่น่าแปลกที่ Bluebird ออกรุ่น 410 หรือ “ทองพูน” มา (ตอนนั้นหนังเรื่อง “ทองพูน โคกโพ” เวอร์ชันแรก ใช้รถรุ่นนี้เป็น Taxi) แต่กลับไม่มีรหัส 420 ที่เป็นกระบะ โดดมาเป็น 520 เลย ซึ่งหน้าตามันเหมือน 410 อย่างมาก ส่วน 521 ก็เป็นการ Re-design ใหม่หมด ให้รูปลักษณ์สวยงาม มีรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น เลยเป็นเสน่ห์ที่คนหามาเล่นกันนั่นเอง…
- การ “ปลุกปล้ำ” ขึ้นมา มันยากที่ “เวลา” คันนี้เดิมทีเป็นรถที่ขับได้ แต่ก็มีผุบ้าง เลยต้องให้อู่ในเครือจัดการ ประกบพาร์ท PANDEM จาก “ชายชรา” กลายกลับไปเป็น “หนุ่ม” อีกครั้ง
- กระจังหน้าและแว่นไฟเป็นสิ่งที่ “แพง” ที่สุด ไม่สามารถหาของรุ่นอื่นมาแทนได้ บางอย่างหาได้ถ้าใช้ “เวลา” และ “เงิน” มันเป็นไปตามกฎเกณฑ์แห่งเวลา บางอย่างหาใหม่ไม่ได้ก็ต้อง “ชุบชีวิต” ให้มันกลับมาสดใสใกล้เคียงวันวาน
- รุ่น 521 ปรับโฉมให้หรูหรามากขึ้นกว่า 520 มีรายละเอียดในหน้าตาอันสวยงาม ผมว่าน่าจะที่สุดในตระกูล DATSUN Pickup ลิ้นหน้า PANDEM ทำให้รถดูเตี้ยและสปอร์ตขึ้นอีกมาก คุ้มค่าที่จะลงทุนซื้อมันมา
- WATANABE ลาย GOTTI ซึ่งเป็นนิคเนมของรุ่นนี้ และเป็นตำนานที่ชวนพิศวงว่า “ใครผลิตกันแน่” ??? ทำขึ้นปีละ 1 ชุด เท่านั้น ด้านหน้า 9.5 x 15 นิ้ว ยางมหาซิ่ง PIRELLI P7 CORSA Classic ขนาด 235/45R15 ช่วงล่างหน้า Custom ใหม่ สร้างหนวดกุ้ง จุดยึดปีกนก เพื่อให้ “หมอบต่ำ” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดย GARAGE 22 ส่วนเบรกหน้าเป็น CEFIRO A31
- ด้านหลัง “สุดตาราง” ขนาด 11.5 x 15 นิ้ว ด้วยลายนี้มันเหมือนล้อ GOTTI อยู่รุ่นหนึ่ง คนก็เลยเรียกติดปาก ส่วนยางเป็นขนาด 305/35VR15 จ้ะ
- งานจะดู “ดิบ” เพราะไม่มีการ Machining ตกแต่งด้วยเครื่องจักรใดๆ “มือ” สิครับ แน่นอน ความขลังมันอยู่ตรงนี้ ส่วนนอต 4 ตัว ที่ขอบ เป็นเหมือนดีไซน์อันมีเอกลักษณ์จาก Kobe Seiko ผู้ผลิตดั้งเดิม ถ้าเป็น “ล้อแท้ดั้งเดิม” สำหรับตัวแข่งจริงๆ นอต 4 ตัวนี้ มันคือ Bead Lock ขอบยางด้านในไม่ให้ปลิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆ แต่ของ WATANABE ที่ผลิตมาใหม่นั้น จะเป็นเพียง “นอตโชว์” เฉยๆ
- แบน กว้าง เตี้ย เสริมมิติให้ดู “มีพลัง” มากขึ้น เจ้าของบอกอยากให้เตี้ยกว่านี้อีก ซึ่งส่วนตัวผมว่า “พอเถอะ” แค่นี้ก็พอดีแล้ว
- ไฟรอบคัน รวมถึงอะไหล่ต่างๆ ถ้ามีของใหม่ก็ “เบิกยับ” ซึ่ง “Mohamed” บอกว่า “I pay for I love and My Lovely Car” ยอมจ่ายในสิ่งที่รัก!!!
- ดีไซน์สไตล์ “มะกัน” มีทรวดทรงองค์เอวต่างๆ เป็นเสน่ห์ของรถยุค 70 จริงๆ
- คิดถูกที่เลือกสี Turquoise มีความสดใสและแรงดึงดูดสไตล์โบราณ รวมไปถึงสมัยใหม่ได้อย่างน่าแปลก ห้องเครื่องเก็บ “คลีน” น่านอนสุดๆ
- มองเผินๆ เหมือนเครื่องยนต์บล็อก A แต่จริงๆ เป็นบล็อก J13 ติดรถ ทำให้สมบูรณ์ก็พอ แต่เน้นความงามสไตล์ GARAGE 22
- คาร์บู Nikki เดิมๆ มี “ห้องกระจกดูระดับน้ำมันในลูกลอย” ล้างและจูนโดย “อั๊ยหมี นอนนาน” หรือ “ช่างเครื่องราคะ” นามกระฉ่อนในโลก Retro ด้วยความที่เป็นเครื่อง Turn Flow ไอดีและไอเสียอยู่ฝั่งเดียวกัน ต้องระวัง “น้ำมันรั่ว” จากคาร์บูลงมาโดนท่อไอเสีย เดี๋ยวจะ “งานหยาบ” นะจ๊ะ
- งาน Custom จาก GARAGE 22 และ NUMBER 7 Racing
- ฝาเดิมนำไปชุบ พร้อมโลโกอู่
- กรองเปลือยซิ่ง RAM-FLO ยุค Retro ที่ต้องรู้จัก เป็นตัวล็อกแบบ “ปิ่นโต” โคตรคลาสสิก
- กระบะสมัยนั้นก็อย่างนี้แหละ “ไม่มีอะไรมาก” แต่มันเป็นเสน่ห์ของความดิบ
- พวงมาลัย Full Carbon จาก NUMBER 7 Racing ที่เจ้าของแบรนด์เป็นเพื่อนสนิทของ WATANABE ก็เลยมา “สะเวิ้บ” กันได้ ส่วนแป้นเหยียบเป็น RAZO
- เรือนไมล์ทรง “พัด” ของเดิม จัด Restore ใหม่ใสปิ๊ง ก็ “ช่างเครื่องราคะ” อั๊ยหมี นอนนาน เจ้าเก่า
- เบาะ Bucket Seat จาก NUMBER 7 Racing