เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่ / ภาพประกอบระบบเครื่องยนต์ : www.amsperformance.com
ความก้าวร้าว รุนแรง (Aggressive) ของ GT-R R35 ที่ถูกพัฒนามาให้ขึ้นสู่ระดับหัวแถวของโลก ในรูปแบบ Sport Car ที่มีสมรรถนะในระดับ Super Car ที่ทั่วโลกยอมรับ แถมยังเป็นรถที่ใช้งานได้จริง ขับง่าย ไร้ปัญหาจุกจิก ทำให้ GT-R เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง เพิ่มแรงม้าง่าย เครื่องใหญ่ เกียร์ทำงานไว นับว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่สืบสานสมรรถนะของตระกูล SKYLINE มาเป็นทุนเดิม และได้ผลักดัน GT-R ให้ขึ้นไปอีกระดับ โดยชื่อของ SKYLINE ตอนนี้ กลายเป็นรถสปอร์ตและรถซีดานแนว Luxury ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม คำว่า GT-R มันก็ยังมีเรื่องราวใน Racing Time Line อยู่นั่นเอง…
คำให้การของ “เจย์” Jay_OMAC จากทีม Angry Elite หนุ่มทายาทน้ำมันเครื่อง PULZAR ที่รักในความแรง หลงใหลในสมรรถนะของ GT-R แต่คงไม่ใช่ “สแตนดาร์ด” ต้องมีการ “ทรงเครื่อง” กันชุดใหญ่ ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีเกิน 1,000 แรงม้า จริงๆ คันนี้เครื่องพัง แต่พอเช็กราคาเครื่อง Used มาแล้ว ก็พบว่าแพงพอๆ กับเครื่องโมดิฟาย ยอมเพิ่มส่วนต่าง เล่นของแรงเลยดีกว่า ตัดสินใจซื้อ AMS ALPHA R35 GT-R 3.8 L Crate Engine Package ที่เป็น Complete Engine ทั้งตัวจากอเมริกา และส่งรถคันนี้พร้อมเครื่องใหม่ไปที่ “GT AUTO Malaysia” ใส่เครื่อง อุปกรณ์โมดิฟาย พร้อมจูนให้เรียบร้อย ก่อนจะส่งรถทั้งคันกลับมาที่เมืองไทย โดยมี GT Tuning และ PROSTREET คอย Support และ Maintenance (บำรุงรักษา) ในส่วนของชุดพาร์ท เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Top Racing Carbon กับ Rocket Bunny ที่นำแบบให้ทาง AUTO CRAFT สร้างขึ้นเป็น Handmade อย่างรวดเร็ว ส่วนความแรงที่ได้มานั้น พอใจมากๆๆๆ อัตราเร่งดุดัน รวดเร็ว สะใจ เครื่องทน ไม่มีปัญหาจุกจิก สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย วิ่งทางยาวๆ ความเร็วระดับ 320 km/h ทำได้ไม่ยาก จากคำให้การ จึงทำให้เราต้องใช้คำว่า Aggressive Rocket ให้คันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย…
สำหรับการยึดโป่งแบบใช้หมุดยึด (Rivet) หรือคันนี้จะใช้เป็นสกรู (Screw) ยึด ในลักษณะแบบนี้ โป่งจะเป็นชิ้นแยกอิสระกับชิ้นแก้มข้าง (Side Panel) ซึ่งเป็นเทรนด์ของรถแข่งสมัยก่อน ที่จะใช้โป่ง Wide Body ลักษณะนี้ นอกจากความโหดดิบๆ แล้ว มันมีข้อดีอีกประการ คือ “ถอดเปลี่ยนง่าย” เมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยว ชนในสนาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการแข่งขัน หากใช้หมุดยึด (Rivet) ที่ยิงติดเข้าไปเลย ไม่มีการขันเข้าออก เวลาจะเอาออก ต้อง “ใช้สว่านเจาะที่หัวหมุด” มันก็จะขาดออกจากกัน ก็จะเอาโป่งออกได้ เวลาจะยึดโป่งใหม่ ก็ยิงหมุดเข้าไปใหม่ ด้วยเครื่องมือยิง Rivet เป็นการถอดเปลี่ยนแบบง่ายๆ หากยึดติดเป็นชิ้นเดียวกับแก้มข้าง จะต้องเสียเวลาในการเจียเพื่อตัดออก ใช้วิธียิงหมุดหรือขันสกรูนี่แหละไวและง่ายกว่า ก็อยู่ที่ใครจะชอบสไตล์ไหน…
AMS ALPHA Mod. Engine Series
สำหรับเครื่องยนต์ VR38DETT ที่ AMS ALPHA มีขาย จะเริ่มตั้งแต่ “Race Short Block” เป็นท่อนล่างและไส้ใน ไม่มีฝาสูบ ส่วนเครื่องของคันนี้ จะเป็นสเต็ปที่สอง คือ “3.8 L Crate Engine Package” จะมาพร้อมฝาสูบ แต่ไม่มีอุปกรณ์ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ประกบด้านนอก เคลมแรงม้าไว้ 1,200 PS ส่วนเครื่องสเต็ปต่อไป คือ “4.0 L Big Bore Crate Engine Package” เป็นการขยายความจุ โดยการขยายลูกสูบ (Bore Up) และแรงสุดๆ ด้วย “4.4 L Big Bore Stroker Crate Engine Package” เพิ่มข้อเหวี่ยงแบบ Billet ที่ยืดช่วงชัก ทำให้แรงม้าและแรงบิดมาได้เต็มและเป็นช่วงกว้าง ให้ได้เต็มเหนี่ยว เคลมแรงม้าไว้มหากาฬ “2,000 PS” ซึ่งการออกแบบเครื่องสเต็ปต่างๆ นี้ ทาง AMS บอกไว้ในเว็บไซต์ถึงสรรพคุณต่างๆ เช่น…
– การประกอบที่พิถีพิถัน ใช้วัสดุชั้นเยี่ยม การประกอบจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และใช้ “บุคลากรที่มีฝีมือและประสบการณ์สูงในการประกอบเครื่อง” มีขั้นตอน “ตรวจเช็กและปรับสภาพเครื่องยนต์ก่อนการประกอบ” เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์เต็มร้อย ด้วยประสบการณ์การประกอบเครื่องสำหรับรถแข่งมากว่า 1,000 เครื่อง ในเวลากว่า 10 ปี…
– เพิ่มกำลังอัด เพื่อให้เครื่องมีการตอบสนองที่ดี ลดอาการ Turbo Lag หรือ “รอรอบ” ทำให้ตอบสนองได้เร็วขึ้น ซึ่งหลายคนอาจจะข้องใจว่าทำไมเพิ่มบูสต์มากขึ้น แล้วเพิ่มกำลังอัดด้วย เครื่องจะไม่พังหรือ ??? ซึ่งมีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญว่า หากทำเครื่องมาดี ใช้ของคุณภาพสูง ผ่านการประกอบที่ถูกต้อง เครื่องจะทนทานกว่ามาก จึงไม่มีปัญหาในตรงนี้…
– มาถึงยัดได้เลย เครื่องยนต์ของ AMS ALPHA เมื่อประกอบเสร็จแล้ว จะถูก “ซีล” ไว้ในส่วนต่างๆ เช่น ฝาวาล์ว, อ่างน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ซึ่งมาถึงแล้วสามารถนำมาประกอบอุปกรณ์ภายนอกแล้วใส่ในรถได้ทันที ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า…
Max Torque : 112.93 kg-m @ 5,500 rpm
คันนี้มีกราฟแรงม้ามานำเสนอ ลองดูครับ กราฟแรงม้า (เส้นสีน้ำเงิน) และกราฟแรงบิด (เส้นสีแดง) จะมาในลักษณะ “ถีบ” ตั้งแต่ 4,000 rpm ชัดเจนครับ กราฟดีดเป็นแนวชัน แทบจะเป็นแนวดิ่งเลย ที่ 4,500 rpm ช่วงผลิตกำลัง มีแรงม้ามารอแล้ว 500 PS ช่วง 5,000 rpm ม้าเพิ่มมาอีก 200 PS เป็น 700 PS รอบแค่นี้ ได้แรงม้าเยอะขนาดนี้ ต้องยกความดีให้ “เครื่องความจุเยอะ” 3.8 ลิตร ที่ทำแรงม้าได้เยอะในรอบไม่สูง เทอร์โบก็น่าจะบูสต์ได้เร็วด้วยตามที่ AMS ฝอยเอาไว้ หลังจากนั้นกราฟจะนอนตัวลงนิดหน่อย แต่ก็ยังไต่ขึ้นต่อเนื่อง แรงม้า 900 PS มาแค่ 5,750 rpm เท่านั้นเอง !!! กราฟจะฟ้องได้ดีกว่าที่ผมพูด และขึ้นแตะ 1,000 PS ที่ 6,000 rpm เท่านั้น หลังจากนั้นกราฟจะเริ่มทรงตัวอยู่ในระดับ 1,010 PS ไปจนถึง 7,500 rpm จึงหยุดการวัด…
มาดูกราฟแรงบิดกันบ้าง ยิ่งมาเร็วและโหดกว่า ที่ 4,500 rpm ได้แรงบิดถึง 80 kg-m (กิโลกรัม-เมตร) เข้าไปแล้วนะเนี่ย ที่ 5,000 rpm แรงบิดทะลุ 100 kg-m ไปแล้ว !!! และดีดขึ้นสู่จุด Peak ที่ 5,500 rpm เท่านั้นเอง แล้วก็นอนยาวไปถึง 6,500 rpm หลังจากนั้นก็ตกลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 90 kg-m จนสิ้นสุดการวัดที่ 7,500 rpm จากกราฟคงจะฟ้องได้ชัดเจนว่า เครื่องยนต์ VR38DETT สำแดงกำลังและแรงบิดได้อย่างน่าขนหัวลุก แรงม้าระดับ 1,000 PS อาจจะดูไม่ยากสำหรับบ้านเราที่ทำกันได้เยอะแล้วตอนนี้ บนพื้นฐานของเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง อย่าง 2JZ-GTE หรือ RB26DETT แต่ขอให้พิจารณาดู ว่าแรงม้าและแรงบิดมหาศาลนี้ หากเป็นเครื่องสองรุ่นที่ว่า จะต้อง “เค้นรอบสูง” ในระดับเกินกว่า 8,500-9,000 rpm ทั้งสองเครื่อง (RB26DETT จะใช้รอบสูงกว่า 2JZ-GTE เพราะเครื่องความจุน้อยกว่า และการออกแบบเครื่องที่เน้นใช้รอบสูง) สิ่งที่ต้อง “เสี่ยง” คือ “การสึกหรอและเสียหาย” จากการใช้รอบสูงเค้นแรงม้าออกมา แต่บนเครื่อง VR38DETT นั้น “ใช้รอบเครื่องไม่สูงเลย” ก็ให้แรงม้าและแรงบิดขนาดนี้ได้แล้ว เอาง่ายๆ 7,500 rpm นี่ถือว่าสบายมาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ได้แน่ๆ คือ “ความคงทน” และ “อัตราเร่งดุดัน” ในอนาคต ตัวผมเองก็เชื่อว่า VR38DETT จะมีความแพร่หลายมากขึ้น อาจจะดูไฮเทค จ่ายแพง แต่ “คุ้มกว่าในระยะยาว” ในอนาคตเมื่อราคา R35 GT-R ที่เป็นรถ Used ถูกลง อุปกรณ์โมดิฟายมีหลากหลาย ก็จะเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในการโมดิฟาย และเท่าที่สังเกต รถคันนี้สามารถติดเครื่องเดินเบาได้โดยไม่สั่น แอร์เย็น ความร้อนไม่มีปัญหา ก็นับว่าเป็นรถยุคใหม่ที่พัฒนาแล้วจริงๆ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนรูปแบบวงการโมดิฟาย ที่ต้องหันมามองเครื่องรุ่นใหม่ให้มากขึ้นในอนาคต…
ภายนอก
กันชนหน้า : Top Racing Carbon
ฝากระโปรงหน้า : Top Racing Carbon
สเกิร์ตข้าง : Rocket Bunny Style by Auto Craft
ชุด Wide Body : Rocket Bunny Style by Auto Craft
ครอบประตู : VARIS Carbon
กันชนหลัง : VARIS Carbon
สปอยเลอร์หลัง : VARIS Carbon
สเกิร์ตหลัง : VARIS Carbon
ภายใน
เบาะ : RECARO CS
เครื่องยนต์
รุ่น : VR38DETT
วาล์ว : AMS by FERREA
สปริงวาล์ว : AMS by FERREA
แคมชาฟท์ : AMS
ลูกสูบ : AMS Spec Extreme by Manley
ก้านสูบ : AMS Spec Extreme I-Beam by Manley
ปั๊มน้ำมันเครื่อง : AMS Racing Grade
เทอร์โบ : AMS Billet Wheel by TIAL
เวสต์เกต : AMS by TIAL
เฮดเดอร์ : AMS
อินเตอร์คูลเลอร์ : ALPHA Race Front mount
ท่ออินเตอร์ฯ : AMS ALPHA 10 Kit
ออยล์คูลเลอร์ : HKS
หม้อพักไอเสีย : MEISTER CRAFT Straight Pipe
หัวฉีด : Injector Dynamic 2,000 C.C.
รางหัวฉีด : AMS
กรองอากาศ : K&N
กล่อง ECU : Syvecs
เกียร์ : Dodson Racing Full Modified Kit
คลัตช์ : Dodson
ช่วงล่าง
โช้คอัพ : KW Club Sport
เหล็กกันโคลง : Ultra-Racing
ล้อหน้า : W WORK Genosis CV201 ขนาด 10.5 x 20 นิ้ว ออฟเซ็ต -20
ล้อหลัง : W WORK Genosis CV201 ขนาด 11.5 x 20 นิ้ว ออฟเซ็ต -48
ยางหน้า : TOYO R888 ขนาด 285/40R20
ยางหลัง : TOYO R888 ขนาด 315/35R20
ขอขอบคุณ : Jay_OMAC’S GT-R สำหรับตัวโหดที่รอคอย, IMPACT เมืองทองธานี สำหรับสถานที่ถ่ายทำ
หมายเหตุ : บทความและภาพในคอลัมน์นี้ ไม่ได้มีเจตนาโฆษณาให้ทาง AMS แต่อย่างใด เพียงแต่นำสิ่งที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านครับ…
X-TRA Ordinary
ทาง AMS สร้างสถิติควอเตอร์ไมล์ ด้วยการทำรถ ALPHA OMEGA GT-R ขึ้นมา โดยโครงสร้างและตัวถังรถยังเป็นแบบ Uni-body ไม่ได้มีการดัดแปลงแชสซีหรือตัดเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ALPHA OMEGA GT-R คันนี้ สามารถทำเวลาได้ต่ำกว่า 8 วินาทีคันแรกของโลก สถิติ 7.98 วินาที ที่ความเร็ว 186 mph หรือ 297 km/h ด้วยเครื่อง 4.0 L Big Bore Crate Engine Package ที่ AMS เคลมแรงม้าไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 PS !!! แต่ตอนนี้คงไม่ใช่ AMS จะแรงที่สุดเจ้าเดียวแล้ว “ที่อื่นเขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน” ก็ลองติดตามกันต่อไป ว่าใครจะทุบสถิติกันแน่…