ครั้งแรก กับ ซูเปอร์สปอร์ตพลังไฟฟ้า
AUDI AI:RACE มีอะไรไปมากกว่าความไฮเทค
เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ข้อมูล : www.audi.com
ภาพ : Facebook – Supercar Blondie
AUDI ค่ายสี่ห่วง กับ DNA การแข่งขันมาอย่างยาวนาน เจ้าแห่ง “ตะกายสี่ตีนมีหอย” อย่าง AUDI QUATTRO ที่โด่งดังสุดๆ จากการแข่งขัน Group B Rally แรลลี่มหาโหดที่ “Too fast to race” เร็วเกินไปที่จะแข่งขัน บนทางฝุ่นกับแรงม้าที่ “ไร้ขีดจำกัด” บ้าไปแล้ว พลังกว่า 700 HP บนเครื่อง 5 สูบ 2.2 ลิตร เทอร์โบ ทำให้มันโดดเด่นมากในด้านสมรรถนะ และทำให้มันต่อยอดมาจนถึงระดับ Super car ในปัจจุบัน และแล้ว AUDI ก็ตามกระแส “รถพลังไฟฟ้า 100 %” ตามโลกที่ผันเปลี่ยนไป ผลิต AUDI AI:RACE ออกมาเป็น All – Electric Super sport car ครั้งแรกของค่าย มาพร้อมกับความไฮเทคสุดๆ จนเรียกว่า “นี่หรือรถ” !!! มันอาจจะไกลตัวเราไปบ้าง แต่เชื่อเถอะ อนาคตเราอาจจะได้ขับมันก็ได้…
Concept
ทาง AUDI ได้กำหนดเจ้า AI:RACE ออกมา ให้เป็น Hi – performance sport car with electric drive เป็นครั้งแรกของค่าย และได้วางลักษณะรถยนต์ไว้ว่าเป็น Real Mid – ship engine ขุมพลังจะเป็น “ชุดมอเตอร์” และ “แบตเตอรี่” วางกลางอย่างแท้จริง โดยอยู่ด้านหลังคนขับ และ อยู่ด้านหน้าชุดแพท้าย (Rear axle) เพื่อให้เกิดความสมดุลย์สูงสุด รวมไปถึง การใช้วัสดุขั้นเทพในการสร้างมันขึ้นมา และ “ไฮไลต์” ก็คือ “สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งในการขับได้อีก” มันช่างวิเศษอะไรเช่นนี้…
External
สำหรับรูปโฉมของมัน ก็เป็นอย่างในภาพ จะบอกว่าสวยหรือไม่ ส่วนตัวผมว่า “ไม่อินว่ะ” อาจจะติดภาพสปอร์ตในตำนานอยู่ (และมันก็ไม่หายไปจากใจแน่ๆ) แต่ถ้าคิดถึงใน “โลกแห่งความจริง” มันก็ย่อมออกมาแนว Cyborg ท่านี้แหละ บอดี้ผลิตจาก “คาร์บอนไฟเบอร์” และ “อะลูมิเนียม” เป็นหลัก รวมไปถึง “วัสดุผสมพิเศษ” (Multi – material composite) ต่างๆ ที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ที่มาพร้อมกับ “ความเบา” อันเป็นเหตุผลหลัก ทำให้น้ำหนักรวมของ AI:RACE นั้นไม่เกินไปกว่า 1,550 kg. อาจจะดูว่าหนัก แต่ถ้าพิจารณาแล้ว มิติความกว้างของมันมากถึง 2 เมตร !!! ความยาว 4.650 เมตร ก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน…
ไฮไลต์ของมันอยู่ที่ “ทัศนวิสัยการมองเห็น” เพราะรถลักษณะ “แบน กว้าง เตี้ย” จะมีจุดบอดในด้านนี้เอง ซึ่ง “มองยาก” ทาง AUDI ก็เลยออกแบบให้มีกระจกด้านหน้าใหญ่และลาดต่ำ และจุดสำคัญ คือ “ช่องลมพิเศษบนฝากระโปรงหน้า” ถ้ามองจากด้านหน้าเข้ามา มันก็คือ “ช่องระบายลมบนฝากระโปรงหน้า” (Ventilated hood) แบบที่รถซิ่งนิยมทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว มันจะมี “ช่องกระจก” สำหรับมองลอดไปยังด้านหน้า เพื่อไว้สำหรับการขับใน Track คุณจะมองเห็น Apex point เวลาเข้าไลน์อย่างใกล้ชิด !!! แล้วคนขับจะเห็นได้อย่างไร ก็มันอยู่ตรงกลางไม่ใช่หรือ ???
ภายใน “พวงมาลัยเลื่อนได้” !!!
ไฮไลต์เด็ดก็จะอยู่ด้านในนี้อีกดอกหนึ่ง Cockpit ของคนขับ สามารถ “เลื่อนไปมาได้” พูดง่ายๆ ว่า ถ้าจะแรดในสนาม ก็สามารถปรับเลื่อนมาอยู่ “ตรงกลาง” ได้แบบ “ยกเซ็ต” ทำให้รถเกิดสมดุลย์สูงสุด นี่เป็นเหตุว่าทำไม AI:RACE ถึงมีช่อง Vision ตรงกลาง แต่ถ้าจะขับแบบปกติ แบบมี “คนเคียงข้าง” ก็สามารถเลื่อนกลับมาตำแหน่งทางซ้ายปกติได้ ด้านขวาก็จะมี Floor ที่ออกแบบให้สามารถนั่งได้เหมือน Bucket seat แบบ F1 กันเลยทีเดียว สาเหตุที่มันเลื่อนไปมาได้ เพราะใช้ระบบไฟฟ้าควบคุมทั้งหมด ไม่มีแกนพวงมาลัย ไม่มีท่อเบรก เหมือนกับการนั่งเล่นเกมคอนโซลกันเลยเชียว…
0 – 100 km/h “สองวิ” แรงพอไหม
ด้านขุมพลัง จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังทั้งหมด 3 ตัว ด้านหน้า 1 ตัวให้พลัง 150 kw ด้านหลัง 2 ตัว รวมกันได้ 350 kw รวมกันทั้งหมด 500 kw หรือ 670 PS !!! แรงบิดสูงสุดถึง 830 นิวตัน !!! มากมายพอที่จะถีบร่างกระโจนไปด้านหน้าแบบ “ไร้อาการรอรอบ” นี่คือจุดเด่นของมอเตอร์ ซึ่งเคลมไว้ว่า อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ทำได้ในเวลาเพียง 2 วินาที !!! และมีระยะการเดินทางไกลสุดถึง 500 กม. ซึ่งการชาร์จไฟ AUDI ออกแบบให้รับแรงเคลื่อนไฟฟ้าได้ถึง 800 โวลต์ ทำให้การชาร์จไฟเต็มใช้เวลาเฉลี่ย 15 นาที เท่านั้นเอง และยังสามารถรองรับระบบ AWC หรือ AUDI WIRELESS CHARGING เป็นการชาร์จไฟแบบ “ไร้สาย” แต่ต้องมีที่จอดรถแบบมี Charging pad อยู่ด้านใต้ ส่งกระแสไฟผ่าน Magnetic field หรือ “สนามแม่เหล็ก” เข้าไปยังแบตเตอรี่ที่ตัวรถ…
เกาะหนึบแน่นอน ด้วย AUDI e – tron QUATTRO
คำว่า QUATTRO ที่ AUDI ภูมิใจนักหนา เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้มาตั้งแต่ในอดีต เลื่องชื่อมากในการแข่งขัน Group B Rally ที่โหด เร็ว แรง ระห่ำ โคตรฝีมือกันสุดๆ แบบไร้ขีดจำกัด แต่ก็ต้อง “หยุด” เพราะ “ตาย” กันจากอุบัติเหตุร้ายแรง นั่นคือการแข่งขัน แต่ AUDI ก็ยังพัฒนาระบบ QUATTRO อย่างไม่หยุดหย่อน จนมาถึง “รถไฟฟ้า” มีตัวต้นแบบ คือ AUDI e – tron QUATTRO ตัวแข่ง Le mans โดยเป็นระบบอิสระ 4 ล้อ โช้คอัพวางนอน พร้อมแขนทดแรง แบบ Push rod ในด้านหน้า และแบบ Pull rod ในด้านหลัง พร้อมโช้คอัพแบบ Magnetic ที่ใช้ “แม่เหล็ก” ในการเปลี่ยนประจุน้ำมันหรือแก๊สด้านใน ปรับเปลี่ยนไปตามการขับขี่ แบบเดียวกับ R8 นั่นเอง ส่วนล้อมีขนาดถึง 22 นิ้ว กับยาง 275/35R22 และ 315/30R22 ในด้านหน้าและหลัง ระบบเบรกเป็น “คาร์บอนเซรามิค” สุดเทพ ขนาดจาน 19 นิ้ว !!! ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า สรุป แรง เกาะ หยุดเป็น !!!