CEFIRO 3S-GE BEAM / TD06H-25G TURBO

 

เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ / ภาพ ภูดิท แซ่ซื้อ

CEFIRO  3S-GE BEAM

TD06H-25G TURBO

BY LEK- D.C. AFTERNOON WIRING

NISSAN CEFIRO (A31) แหวกแนวด้วยเครื่องยนต์ 3S-GE BEAM จากค่าย TOYOYA ALTEZZA มันจะลงตัวยังไง ลองไปชมผลงานของทางอู่ LEK- D.C. AFTERNOON WIRING กันเลยดีกว่าครับ…

ภายนอก พื้นฐานก็คงหนีไม่พ้นกับชุดแต่งแอโรพาร์ทจากค่าย TBO1 รอบคัน พร้อมซันรูฟจาก NISSAN CEFIRO (A32) สวยแบบเรียบ ๆ ที่เหลือก็คงสภาพเดิมไว้หมด

 ภายใน ตกแต่งสไตล์เรซซิ่งเล็กน้อย เริ่มจากเบาะแบบ FULL BECKET SEAT ฝั่งคนขับของ SPARCO รุ่น SPRINT พวงมาลัยสามก้านจาก ELEVO RACING ส่วนเกจ์วัดมีของ BLITZ สำหรับวัดบูสต์ เทอร์โบ วัดรอบเครื่องยนต์จาก OMORI และปรับบูสต์ไฟฟ้าจาก HKS พร้อมเครื่องเสียง CLARION ลำโพงและเพาเวอร์แอมป์จาก DIGITAL RESEARCH

ส่วนที่แปลกที่สุดคงอยู่ใต้ฝากระโปรง ที่ใครหลายคนได้ยินเสียง ต่างก็คิดว่าน่าจะเป็น SR20DET แน่นอน แต่พอเปิดมา มันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิดและได้ยิน…มันเป็นเครื่อง 4 สูบเหมือนกัน แต่มันเป็นเครื่องที่อยู่ในรถยนต์นั่งสุดหรูสไตล์ LUXURY จาก TOYOTA ALTEZZA RS200 (GH-SXE-10) รหัสเครื่อง 3S-GE BEAM  พร้อมระบบวาล์วแปรผัน DUAL VVT-i ขนาด 2.0 ลิตร 210 แรงม้า กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดเฟืองท้าย 4.3 ซึ่งเจ้าของรถได้ให้คอมเม้นท์ว่า การที่เลือกเครื่องตัวนี้ก็เพราะ เครื่องมันค่อนข้างใหม่ มีวาล์วแปรผันอันทันสมัย ผนวกกับเป็นเกียร์แบบ 6 สปีด อยากสร้างความแปลกให้ให้กับวงการรถบ้านเราบ้าง…หลังจากนั้นได้ทำการโมดิฟายไส้ในเพิ่ม เพื่อที่จะรองรับกับแรงดันของเทอร์โบ ซึ่งจริง ๆ แล้วเครื่องยนต์ตัวนี้เป็นเครื่องยนต์ NA ไม่มีเทอร์โบมาจากโรงงาน ฉะนั้นเมื่อคิดจะใส่เทอร์โบ ส่วนประกอบภายในของเครื่องยนต์ต้องรองรับความแรงระดับนี้ และเพิ่มความทนทานได้ด้วย โดยลูกสูบเปลี่ยนเป็นของ 2JZ-GTE ที่มีขนาดเท่ากับของเดิม

จากนั้นได้เลือกใช้เทอร์โบของค่ายเหรียญชัย เทอร์โบ รหัส TD06H-20G  พร้อมเฮดเดอร์สเตนเลส และเวสต์เกตจากค่ายเดียวกัน คุมบูสต์ขนาด 1.2 บาร์ พร้อมหม้อพักปลายจาก A’PEXi  N1 ส่วนทางด้านระบบไอดี แก้ไขระบบทางเดินไอดีใหม่หมด ด้วยวัสดุอะลูมิเนียม พร้อมติดตั้งด้วยโบล์ว ออฟ วาล์วจาก GReddy TYPE R และลดความร้อนเพิ่มความหนาแน่นให้กับไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่จาก TRUST ส่วนระบบน้ำหล่อเย็น ขยายหม้อน้ำใหญ่ขึ้นจาก GReddy ต่อมาระบบเชื้อเพลิง เปลี่ยนปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นของ WALBRO หัวฉีด 550 ซี.ซี. พร้อมตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก SARD ระบบจุดระเบิดปรับแต่งเพียงหัวเทียนจาก NGK เบอร์ 8 ทั้งหมดถูกควบคุมด้วยกล่อง PIGGY BACK จาก GReddy e-MANAGE ระบบส่งกำลังอย่างที่บอกไป ยังใช้เกียร์ของ 3S-GE BEAM แบบ 6 สปีด พร้อมชุดคลัตช์จาก OS GIKEN แบบ TWIN PLATE แพท้ายยกเอาของ NISSAN SKYLINE มาใช้ อัตราทดเท่ากันคือ 4.3 พร้อมลิมิเต็ดสลิป ทั้งหมดเป็นผลงานของช่าง LEK- D.C. AFTERNOON WIRING และคุณหนุ่ม เจ้าของรถ ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้

 

ช่วงล่าง มาที่ตัวโช้คอัพ เปลี่ยนเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวคู่หน้าของ HKS และคู่หลังจาก JIC และค้ำโช้คหน้าจาก SARD ระบบเบรก อัพเกรดเบรกคู่หน้าเป็นของ BREMBO ขนาด 4 pot จานดิสก์เบรกขนาด 332 มม. ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกของ SKYLINE พร้อมล้อลาย NISMO GT4 ขนาด 18 x 9 นิ้ว และ 18 x 10 นิ้ว ยางคู่หน้า NITTO NEO GEN ขนาด 235/40R18 และยาง FEDERAL SUPER STREET ขนาด 265/35R18

ขอขอบคุณ เจ้าของรถ คุณเจด์จ เกิดสุกล (หนุ่ม โชคชัย 4)  และเพื่อนปาย OFF ROAD MAG. ที่แนะนำรถมาให้ลงคอลัมน์ด้วยนะครับ

Photo by en.wikipedia.org

X-TRA ORDINARY

เครื่องยนต์ 3S-GE BEAM  DUAL VVT-i  เป็นเครื่องยนต์ที่อยู่ในรถ TOYOTA ALTEZZA RS200 (GH-SXE-10) เจเนอเรชั่นแรก เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และมีเกียร์ออโตเมิก  5 สปีด เป็นออปชั่นเพิ่ม แต่ถ้าส่งขายในฝั่งอเมริกาและยุโรป จะเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น LEXUS IS