เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่, ภูดิท แซ่ซื้อ
Thinks Outside the Box
COROLLA KE70 Van & CORONA TT131
“ฟลัชสไตล์ ขัดใจสังคม”
สำหรับคอลัมน์ Return to Retro นี้ จะสังเกตได้ว่ารถที่นำมาโชว์โฉมนั้น จะเป็น “หลากหลายสไตล์” บางคันก็เน้นเนี้ยบแบบ “รถแค็ตตาล็อก” ทุกกระเบียดนิ้ว หรือบางคันก็ “ดิบแปลกแตกต่าง” อาจจะออกแนว Rat Look หรือ Custom ที่ “เน้นไอเดีย” สะท้อนถึงแนวคิดของแต่ละคน ซึ่งจะเป็นการ “คิดนอกกรอบ” ฝรั่งเรียก “คิดนอกกล่อง” อย่างที่จั่วหัวมานั่นเอง บางครั้งอาจจะดู “ขัดขืน” แต่หากมันขัดขืนอย่าง “ลงตัว” ก็มีผลงานที่แปลกออกไปจากที่เคยเป็น ครั้งนี้เป็นแนว “ฟลัชสไตล์ ขัดใจสังคม” ของ “วัฒน์ มหาชัย” ที่ใส่ไอเดียแปลกๆ เข้าไปในรถสองคันนี้ มีอะไรน่าชม ต้องอ่านต่อไปนะจ๊ะ…
- KE70 สายหมอบ เหมาะกับ WATANABE 14 นิ้ว ด้านหน้าเป็นแบบ B-Type กระจกมองข้าง California Vilatoni เน้นเท่ แต่อาจจะมองยากหน่อย เพราะขาเตี้ย เนื่องจากเป็นกระจกที่ออกแบบมาติดข้างประตู
อดีต “ม้าใช้” ที่กลับมามีคุณค่าอีกครั้ง
จากเดิม “รถแวน” จะเกิดขึ้นมาเป็นรถราคาถูก ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใดๆ เพราะเจตนาทำมาให้ “ใช้งาน” จริงๆ ไว้ขนของสารพัดสารเพ ไม่ได้มีภาพลักษณ์สวยหรูเหมือนเก๋ง มีแต่ใช้งานเก่าแล้วก็ปล่อยโทรมทิ้งไป แต่ว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไป รถแวนกลายเป็นของหายาก เพราะ “เหลือน้อย” ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ความอเนกประสงค์ที่มีเหนือกว่ารถเก๋ง และความ “ดิบ” ของตัวรถอันเป็นเสน่ห์ของ Retro Car พอนำมาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่แล้ว มัน “เท่” แบบ “มีทรง” สำหรับ COROLLA KE70 Van นั้น เปิดตัวพร้อมๆ กับตระกูล KE70 ซีดาน 4 ประตู มีรุ่น DX เกียร์ธรรมดา 4 สปีด ไม่มีวัดรอบ และ GL เกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีวัดรอบ, ซีดาน 2 ประตู หรือ “กะเทย” และ TE71 Liftback ตัวซ่าหน้าพาเลซ สำหรับตัว “แวน” นั้น สิ่งที่แตกต่างกับเพื่อนฝูงมีรายการ ดังนี้…
- ระบบพวงมาลัย : จะเป็นแบบ “ลูกปืนหมุนวน” หรือ “กระปุก” ที่บ้านเราเข้าใจกัน ซึ่งเป็นแบบ “บุกเบิก” ที่ได้เรื่องความทนทาน ส่วนตัวอื่นจะเป็นแบบ “แร็ค แอนด์ พิเนียน” ที่มีความแม่นยำสูงกว่าเยอะ แต่น่าแปลกใจที่ TE71 ที่เป็นตัวสปอร์ต ก็ดันใช้ระบบกระปุกเหมือนตัวแวน ไม่ใช้แร็คซะงั้น อันนี้งงเหมือนกัน ว่าทำไม…
- ระบบช่วงล่าง : เฉพาะตัวแวน ด้านหน้าเป็น “แมคเฟอร์สันสตรัท” เหมือนกันทุกรุ่น แต่ด้านหลังจะเป็น “แหนบ” เหมือนกับ KE30 ตัวก่อน เพราะต้องการไว้รับน้ำหนักบรรทุกมากๆ ดูแลและซ่อมง่าย ราคาถูก เพราะชิ้นส่วนมันน้อยมาก แต่ความนุ่มนวลหรือการเกาะถนนก็เป็นรองพรรคพวกที่ใช้คอยล์สปริง เป็นธรรมดาของรถใช้งานพันธ์แท้ครับ…
- ขอแค่แปลก แหวกไม่ซ้ำใคร ตามใจเรียกร้อง
ปะ “มิเนียม” ยิง “ริเว็ท”
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของคันนี้ “วัฒน์ มหาชัย” ได้แรงบันดาลใจมาจาก “เครื่องบินรบยุคโบราณ” ซึ่งเดิมที่คันนี้มันก็มีผุ ถลอก สีแตก อะไรไปบ้างตามกาลเวลา จะทำสีใหม่เนี้ยบๆ ก็ดูไม่แตกต่าง เพราะอยากให้มันได้อารมณ์ “เก๋าเก๋า” ประกอบกับรถคันนี้สีเงินมาแต่เดิม เลยไปปิ๊งไอเดียเอาแผ่น “อะลูมิเนียม” มาตีขึ้นรูปให้เข้ากับทรงรถ แล้ว “ยิงริเว็ท” ยึดเข้าไปดิบๆ เลย ก็จะกลายเป็น Patch หรือ “ปุปะ” ได้อารมณ์แปลกไปอีกแบบ เพราะยังไม่มีใครทำกัน ในส่วนของการ “หมอบ” ก็จะใช้ “ถุงลม” เป็นหลัก ซึ่งยกสูงขึ้นได้ เพราะต้องการให้ขับไปได้ทุกที่…
- กระจังหน้า C ดอกไม้ สภาพ “เก่าลายคราม” ตามเวลา ตามชื่อ COROLLA แปลว่า “มงกุฎดอกไม้”
- กระแส “รถแวน” กำลังมา สมัยก่อนไม่มีใครแล ตอนนี้เป็น “แฟชั่น” ไปซะแล้ว
- โชว์งานดิบ ปะ “มิเนียม” ยิง “ริเว็ท” มีเสน่ห์ในแบบฉบับ “ฟรีสไตล์”
- ล้อหลัง WATANABE R-Type ขอบ 14 นิ้ว ก้านโค้ง ดูแล้วอ่อนช้อยสวยงาม หมอบแบบ Flush Style ขอบซุ้มชิดขอบล้อ
เพลา “86” สร้าง 4 Links ใหม่ แบบไม่ทำร้ายพื้นท้ายรถ
ส่วนด้านท้าย ก็สร้างชุด 4 Links ขึ้นมาใหม่หมด ซึ่งจะต้องดีไซน์ใหม่ เพราะพื้นด้านท้ายของตัวแวนจะ “แบนราบ” เพื่อให้ขนของได้เยอะ ไม่เหมือนกับ KE70/TE71 เลยต้องสร้างขึ้นมาใหม่ แต่รูปแบบก็คล้ายๆ กัน ส่วนเพลาท้ายเป็นของ AE86 ที่มาพร้อม “ดิสก์เบรก” และ “เฟืองท้ายใหญ่” กว่า KE70 ธรรมดาอยู่เยอะ ถ้าใช้เพลาท้ายเดิม ก็จะกดให้เตี้ยได้กว่านี้ แต่ต้องการใช้เพลาของ AE86 เพราะคุณสมบัติเหนือกว่า ก็เลยโหลดแค่พอ “ไม่ติด” เหตุผลหลัก คือ ไม่ต้องการไปตัดเฉือนพื้นส่วนท้ายรถใดๆ ให้เสียเอกลักษณ์ แต่เอาจริงๆ มันก็เตี้ยละนะ ยังไม่พออีกหรือท่าน…
- ภายในดำตัวนอกยกเซต เพิ่มความดุดันได้อีกโข
- เจาะหลังคาถลก (Rag top) พวงมาลัย SPRINTER 1500 SE โลโก S เป็น “ครึ่งไม้ครึ่งหนัง” ดูแปลกตา ส่วนหน้าปัดก็มี “ลายไม้” แซม มาเป็นชุดเดียวกัน มาพร้อมวัดรอบและเรือนไมล์ JDM ที่จะขึ้นตัวเหลืองช่วง 100-180 km/h
- เบาะ Retro Bucket Seat ทรง AUTOLOOK เป็นงานไทย ฝีมือ “TJ Fiber” ของ “พี่ล้อม” เบลท์ SCHROTH 4 จุด เสริมลุค Racing
- ขุมพลัง 5K 1.5 ลิตร แทน 4K 1.3 ลิตร โมดิฟายตามสูตร “Power by Lux” หรือ “ช่างลักษณ์ บางพลี” มือเก่าในวงการ แคมชาฟต์ TRD 003 สปริงวาล์วซิ่ง คลัตช์โมดิฟาย คันนี้ยังอยากคงเอกลักษณ์เครื่อง K ตรงบอดี้ โดยยังเป็น K เอียงซ้ายแม่ยายรัก ตามแบบดั้งเดิมโรงงาน
- ฝาเติมน้ำมันเครื่อง TRD เด็ดที่ชุด “คอหน้าแปลนคาร์บู” ของ SK SANKYO งานเก่า ตรงรุ่นสำหรับเครื่อง K ตะแคง โคตรโชคดีที่ได้มา ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอเป็นของ K วางตั้ง คาร์บูของ SOLEX 40 ที่ให้สุ้มเสียงแตกต่างจาก WEBER คนฟังเป็นจะแยกออก ส่วนสายหัวเทียนเป็นของ ULTRA สีแดงสดใสทั้งชุด
นอกกระแส แต่เป็นกระแส ครั้งแรกใน XO
สำหรับคันต่อมา เป็น “รุ่นใหญ่” ขึ้นมา คือ CORONA TT130 ซึ่งเป็น “รถนอกกระแส” แต่จริงๆ มันสวยคลาสสิกดีนะ จะออกแนวหรูๆ เพราะเน้นตลาดยุโรปและอเมริกา โดยเฉพาะตัว “2 ประตู ฮาร์ดท็อป” นี่เฉียบขาดจริงๆ โดยรุ่นนี้จะมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1978 ไปสิ้นสุดที่ปี 1983 เป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะเปลี่ยนเป็น TT140 “หน้าแหลม” ที่คุ้นเคย ในบ้านเรา ทาง “โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย” ในยุคที่ มร.เค มิอูร่า เป็นประธานบริษัท จัดการขึ้นไลน์ประกอบ CORONA รุ่นนี้ เพียงรุ่น “ซีดาน 4 ประตู” เท่านั้น โดยแบ่งเป็น 1600 GL ที่เท่ด้วย “เรือนไมล์ทรงเหลี่ยมยาว” ไม่มีวัดรอบ เครื่องยนต์ 2T มีเรี่ยวแรงน่ารักที่ 69 PS ส่วนรุ่น 1800 SL จะมีวัดรอบ ใช้เครื่อง 3T แรงขึ้นมาหน่อย เป็น 86 PS กับราคาเปิดมาตอนนั้น อยู่ที่ “259,000 บาท” ครับท่าน…
- มุมเฉียบแบบ “เกรียนๆ” งานดิบสไตล์ “ยานรบ” กับ “รถนอกกระแส” แต่อย่าได้แคร์ ถ้าจะทำ
- กระจังหน้าลาย “สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด” ของตัว Hardtop ถ้าเป็นของซีดาน จะเป็นลายตาสี่เหลี่ยมผืนผ้า โชว์ “ออยล์คูลเลอร์” สไตล์ “โบโซ” นิยม
- เปลี่ยนแพหลังเน้นแคมเบอร์ ให้ดู “แบน เตี้ย” ไม่ใส่กันชน เน้นงานดิบ
- นี่เลย WATANABE R-TYPE สุดปรารถนา ล้อหน้า 8.5 x 15 นิ้ว ล้อมรัดยางโคตรซิ่ง TOYO PROXES R888 R ขนาด 195/50R15 เบรกหน้า WILWOOD สตรัทหน้า CEFIRO A31 จะได้ใส่ของแต่งปรับมุมล้อได้
- ล้อหลัง 9.5 x 15 นิ้ว ยาง 205/50R15 สวยลงตัวสไตล์ซิ่งพอดี
ชุบชีวิตก่อนเข้าเตาหลอม
ถือว่าเป็น “TT130 คันแรก” ที่ได้มาโชว์โฉมในคอลัมน์นี้ ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นรุ่นนี้ วัฒน์ เล่าให้เราฟังว่า แต่ก่อนที่บ้านทำธุรกิจซื้อเหล็กเก่า เครื่องจักรเก่า และรถคันนี้ก็มีลูกค้าขับมาขาย “ชั่งเศษเหล็ก” ตอนแรกก็งง ทำไมจะมาชั่งเศษเหล็ก รถขับได้จริงๆ นะครับ ทรงก็ไม่เลว แต่ด้วยความที่รถรุ่นนี้ไม่นิยม ขายต่อไม่ไป ราคาก็ต่ำมาก พอดีช่วงนั้นเหล็กราคาขึ้นด้วย พอขายชั่งเศษเหล็กก็ได้ราคาประมาณ “หมื่นกว่าบาท” ลูกค้าก็ยอม และรถก็ยังวิ่งได้ เลยหาเรื่องทำใหม่ เห็นทรงมันเก๋าๆ ดี เลยได้แนวทางการทำแบบ “ยานทหาร” และแน่นอนว่า ต้องจับ “กดหมอบ” โดย “พกถุง” เช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องทำแบบ Extra ขึ้นมา ก็คือ “เปลี่ยนช่วงล่างหลังใหม่” จากเดิมเป็นแบบคานแข็ง ไม่สามารถทำ “แคมเบอร์ลบ” ได้ ถ้าโหลดล้อตรงโป่ง มันต้องยื่นมากจนแปลกตา เลยเปลี่ยนแพหลังเป็นของ CEFIRO A31 ที่เป็นแบบ “อิสระ” ทำแคมเบอร์ลบได้ เหตุที่ไม่ใช่แพหลัง R32 เพราะว่าของ A31 จะเป็นแบบ 4 รู 114.3 มม. ซึ่งตรงกับล้อ WATANABE R-TYPE ที่อุตส่าห์ไปหามานั่นเอง ให้ดูเป็น Retro Racing Look กันเต็มๆ ไปเลย…
- 4A-GE ขับหลัง จาก AE86 เล่นสไตล์ “Old Skool” โมดิฟายตามสูตรของ Power by Lux เช่นเดียวกัน ย้อนยุคด้วย WEBER กับแคมชาฟต์ TRD สายหัวเทียนก็ TRD ค้ำโช้คหน้า Custom เอง
- พื้นหลังเบาะใช้แผ่นอะลูมิเนียมสร้าง พับ ปั๊มลายขึ้นมา ทำได้ดูสวยแบบดิบๆ ย้อนยุค เพราะพื้นเดิมถูกตัดออก เนื่องจากใส่แพหลัง CEFIRO เข้าไป ต้องสร้างจุดยึดใหม่ทั้งหมด
- เบาะ KIRKEY ลายทหาร ให้เข้าคอนเซปต์
- ขอบคุณที่ 1600 GL ที่ให้เรือนไมล์ทรงนี้มา โคตรคลาสสิกกว่าทรงกลม
- หน้าปัด 1600 GL ไม่มีวัดรอบ มีลายไม้ เกจ์ OMORI ชุดใหญ่ วัดรอบฝังแทนนาฬิกาเดิม พวงมาลัย NARDI Classic ก้านขาว
- ระบบถุงลม จาก ACC
- เฮดเดอร์ จาก “พี่พล คนทำท่อ” Featuring กับ “ช่างโรจน์” แห่ง แบงค์ ท่อไอเสีย
X-TRA ORDINARY
สำหรับ CORONA TT130 นี้ ย้อนไปเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นโฆษณาน้ำมันไร้สารตะกั่วแบรนด์หนึ่ง ใช้รถรุ่นนี้เข้าฉาก โดยมี “มนุษย์ตะกั่ว” Paint ตัวสีเงิน เกาะเต็มรถ นำทีมโดย “ดักแด้ เชิญยิ้ม” เปรียบว่ารถคันนี้เติมน้ำมันมีสารตะกั่วแล้ววิ่งไม่ออก คนเล่นรถในยุคนั้นเลยเรียกรุ่นนี้ว่ารุ่น “ตะกั่ว” เป็นอันรู้กัน…
Special Thanks : “วัฒน์ มหาชัย” เจ้าของรถ