รวมสเตป F55 แห่งชาติ 5 คัน 5 สไตล์ by POWER LAB & คลองตัน ดีเซล / JOB MONTRI / T-SPEED / Diesel Performance & Tuned by ART / Panda Zing

 

TOYOTA VIGO by POWER LAB & คลองตัน ดีเซล  

Max Power : 372.76 PS @ 3,200-3,600 rpm

0-402 m : 15.26 sec. @ 158.83 km/h 

First Step : VIGO F55 by POWER LAB & คลองตัน ดีเซล 

TOYOTA คันแรก เป็น VIGO Pre Runner จาก “คลองตัน ดีเซล” และใช้กล่องของ “POWER LAB” ที่เป็นอีกหนึ่งสำนักที่เชี่ยวชาญ TOYOTA เหมือนกัน รถคันนี้มาในสภาพบ้านๆ เป็นรถใช้งานจริงๆ ใส่หลังคาครอบกระบะมาเต็มๆ “ชอบครับ แปลกดี” ถือว่าตรงตาม Concept ที่ครั้งนี้เราต้องการรถวิ่งถนนได้จริง แต่งเป็นแนวตัวสูง แอร์เย็นเพลงเพราะ เบาะนุ่มน่านอน แต่เวลาที่ได้ก็ไม่ขี้เหร่นะครับ เพราะตัวรถก็ดูแล้วน่าจะหนักที่สุดในหมู่รถทดสอบครั้งนี้ เอาเป็นว่า ใจถึงพร้อมก็มาได้…

 

Max Power : 372.76 PS @ 3,200-3,600 rpm

Max Torque : 789.44 N-m @ 3,200 rpm

                สำหรับแรงม้าที่ได้ กับบูสต์ 35 ปอนด์ ในเครื่องที่ไม่ได้ทำไส้ใน ถือว่าเยอะใช้ได้อยู่นะครับ ก็น่าจะเคลียร์สำหรับคนที่ลังเลในการโมดิฟาย TOYOTA 1KD-FTV กราฟแรงม้า (สีน้ำเงินเข้ม) สไตล์ดีเซลครับ เริ่มถีบตั้งแต่ 2,500 rpm ขึ้นนอนราบตั้งแต่ 3,000-4,200 rpm เลยครับ นับเป็นข้อดีที่เครื่องดีเซลมีกำลังที่ดีในรอบต่ำ ส่วนกราฟแรงบิด (สีน้ำเงินอ่อน) ถีบทะยานตั้งแต่ 2,200 rpm ไปสู่จุด Peak ที่ 3,200 rpm ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการอัตราเร่งพอดี สังเกตว่าเครื่องดีเซลแรงบิดจะมหาศาลจริงๆ ครับ เหมาะมากสำหรับรถหนัก ล้อโต จะช่วยเรื่องอัตราเร่งให้ดีกว่าเดิมเยอะเลย…

0-100 km/h : 7.31 sec. @ 109.63 m 

0-402 m : 15.26 sec. @ 158.83 km/h 

                กราฟ Test Run คันนี้ก็ไม่เลวครับ อาการฟรีทิ้งมีไม่มากนัก อาจจะเป็นจากใช้ช่วงล่างนิ่ม ล้อโต (สังเกตจากการออกตัวนะครับ) ส่วนอัตราเร่งจะไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ถึงกับถึงกระโชกโฮกฮากนักแบบรถที่เน้นทำเวลา เป็นเรื่องดีสำหรับรถสเต็ปใช้งานเป็นหลัก ควบคุมได้ง่ายครับ อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ในเวลา “7.31 วินาที” เช็คบิล 402 ม. ที่ “15.23 วินาที” ที่ความเร็ว 158.83 km/h นับว่าใช้ได้ครับ สำหรับรถสไตล์บ้านๆ ของครบแบบนี้…

 

Comment : ธวัชชัย สีประดิษฐ

                รถคันนี้ใช้งานทุกวัน ตัวเครื่องไม่ได้ทำอะไรมาก มีเทอร์โบ ระบบน้ำมัน ชุดคลัตช์ ที่ปรับแต่งใหม่ ส่วนระบบส่งกำลัง เกียร์เดิม เฟืองท้ายเดิม ไม่ได้เน้นออกตัวแบบควอเตอร์ไมล์มากนัก ส่วนเวลา แรงม้า ก็ถือว่าพอใจครับ เพราะรถหนักด้วย (มีหลังคาครอบ) และผมก็ไม่ได้บูสต์เยอะ อยู่ที่ 35 ปอนด์ เท่านั้น สำหรับงบประมาณในการทำเครื่องและระบบส่งกำลัง ประมาณ “300,000 บาท” นิดๆ ครับ ฝากขอบคุณ พี่ปึก พี่แมน POWER LAB, EGR SHOP ปทุมธานี ด้วยครับ…

Comment : XO AUTOSPORT   

                คันนี้แม้จะไม่ได้แต่งอะไรมากมาย แต่หลายคนก็ Surprise เพราะมาในสภาพรถบ้านจริงๆ ที่นอนหมอนมุ้งครบ แจ๋วจริงๆ สำหรับงบประมาณที่ทำไป ก็อยู่ในเกณฑ์ปกติของการโมดิฟาย F55 สเต็ปใช้งาน ไม่ต้องยุ่งกับไส้ใน แรงม้าที่ได้ก็สมน้ำสมเนื้อครับ ส่วนเวลาที่วิ่งได้ก็ไม่เลวนะครับ สำหรับรถน้ำหนักกว่า 2 ตัน ก็เป็นตัวอย่างสำหรับคนที่อยากได้สเต็ป F55 แต่เน้นใช้งานได้ทุกวัน ทนๆ บูสต์ไม่หนักมาก อะไรประมาณนี้แหละ…

Credit

POWER LAB

Contact : www.facebook.com/powerlabthailand, Tel. 081-489-2008 (แมน), 081-835-4044 (ปึก)  

TOYOTA VIGO

ทีม : POWER LAB & คลองตัน ดีเซล

ภายนอก

เครื่องยนต์ BY คลองตันดีเซล

ระบบส่งกำลัง

ช่วงล่าง

ภายใน

 

First Step : ISUZU D-MAX by JOB MONTRI

 

D-MAX ขาวนวลชวนสยิว จาก JOB MONTRI ที่มาแบบเรียบๆ ซ่อนความแรงไว้ในห้วงปรารถนา เรียกว่าสไตล์เรียบๆ “คลีน” นี้ก็ดีไปอย่าง ไม่ค่อยจะล่อตาล่อใจมากนัก มีล้อชุดนึง ขนาดกำลังพอดีๆ ขับใช้งานได้ไม่ยาก ส่วนการโมดิฟายก็เน้นจัดเต็มในสเต็ปที่ยังขับใช้งานได้ เปลี่ยนเกียร์เป็นรุ่น 3000 VGS ที่ราคาถึง “65,000 บาท” (เห็นมั้ย เราไม่ได้หลอก) ลองดูครับว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง…

 

Max Power : 383.65 PS @ 4,500 rpm 

Max Torque : 606.09 N-m @ 3,500 rpm

                สำหรับคันนี้ ก็มาแนวเน้นพลังอีกคัน สไตล์ JOB MONTRI สำหรับกราฟแรงม้า (สีแดงเข้ม) จะเน้นกำลังที่ค่อนไปรอบปลาย ทั้งนี้ก็อยู่ที่การเซ็ตแคมชาฟต์ด้วยครับ ที่นิยมใช้แคมชาฟต์โมดิฟายด้านไอเสีย น่าจะเป็นเพราะต้องการให้ไอเสียออกมากขึ้น เพิ่ม Overlap ให้มากขึ้นกว่าแคมชาฟต์เดิม ส่วนกราฟแรงบิดคันนี้ “มาสวยครับ” โดดขึ้นตั้งแต่ 2,300 rpm เป็นมุมชัน ก่อนจะนอนเป็น Flat Torque ตั้งแต่ 3,000-4,500 rpm การตอบสนองจะทำได้ดีอย่างต่อเนื่องครับ ตรงนี้จะอยู่ที่สไตล์การปรับเซ็ตเครื่องยนต์ของแต่ละอู่ครับ…

 

0-100 km/h : 7.77 sec. @ 94.76 m 

0-402 m : 15.35 sec. @ 179.99 km/h 

                คันนี้น่าจะออกแนวไปแบบประคองๆ เหมือนกัน ออกหนักไม่ได้มากนักจากความแรงของเครื่องยนต์ ตอนแรกเจ้าของรถเองก็ไม่เคยขับสไตล์จับเวลามาก่อน ออกแรงจนฟรีทิ้งเยอะ ช่วงหลังๆ ก็ค่อยๆ ปรับลงมา ก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้เอาเวลามาจัดอันดับ ถือว่ามาร่วมขับกันสนุกๆ นะครับ อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ “7.77 วินาที” เลขสวยแฮะ ส่วนอัตราเร่ง 402 ม. เช็คบิลที่ “15.35 วินาที” ที่ความเร็ว 179.99 km/h ความเร็วปลายเยอะด้วยเหตุผลเดียวกับคันที่แล้ว…

Comment : กิตติธัช เสี่ยงบุญ

เป็นครั้งแรกของผมจริงๆ ที่นำรถมาวิ่งแดร็ก และขับจับเวลาแบบแดร็ก ปกติจะใช้ขับบนถนนสนุกๆ ใช้งานทุกวันมากกว่า ถือว่าสนุกดีครับ พอใจกับเวลา และแรงม้าในครั้งแรกครับ งบประมาณทั้งหมดในส่วนของเครื่องและระบบส่งกำลังประมาณ “500,000 บาท” เป็นราคาที่รวมตัวเครื่องรุ่น 3000 ที่ซื้อมาวางใหม่ ฝากขอบคุณ ทีมงาน จ๊อบ มนตรี ดีเซล ในส่วนของการโมดิฟายทั้งหมด, ทีมงาน XO AUTOSPORT ที่ทำคอลัมน์พิเศษนี้ให้พวกเราได้มาร่วมสนุกกัน…

Comment : XO AUTOSPORT   

                เห็นเงียบๆ แต่ “จัดหนัก” เหมือนกันนะ เพราะเล่นซื้อเครื่อง 3000 มาเปลี่ยนทั้งตัวเลย แค่เฉพาะเกียร์อย่างเดียวก็ปาเข้าไปเกินครึ่งแสนแล้ว โดยรวมคันนี้เราว่าแต่งเป็นแนวเรียบร้อยดีไปอีกแบบ ส่วนแรงม้าที่ได้ก็เป็นแนวจัดหนักอีกคัน แต่ที่ชอบ คือ “กราฟแรงบิด” คันนี้มายาวเลยอย่างที่เห็น ส่วนเรื่องเวลาเราไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าคนขับมีโอกาสฝึกฝนบ่อยๆ ก็จะทำเวลาได้ดีขึ้นอีกเยอะครับ…

 

Credit

JOB MONTRI

Contact : www.facebook.com/job.montri, Tel. 090-986-7716

ISUZU ALL NEW D-MAX

ทีม : JOB MONTRI

ภายนอก

เครื่องยนต์ BY JOB MONTRI

ระบบส่งกำลัง

ช่วงล่าง

ภายใน


First Step : MITSUBISHI TRITON by T SPEED

 

อีกคันจาก “T-SPEED” แต่มาคนละแนวกับคันตะกี้ เพราะเป็นการ “ผสมข้ามพันธุ์” กันระหว่าง MITSUBISHI TRITON เมินเครื่องเดิม หันมาแรงทางลัด ด้วยการยัดเครื่อง 4JJ1-TCX จาก ISUZU คันนี้มาแนว “ตัวเตี้ย” ทำไว้วิ่งถนนบ้าง ขับในสนามแข่งบ้างแบบมันส์ๆ เป็นอีกแนวหนึ่งที่ “ไม่สนใจอนุรักษ์เผ่าพันธุ์เดิม” ก็แปลกดีไปอีกแบบครับ…

 

 

Max Power : 364.30 PS @ 120 km/h

Max Torque : 678.73 N-m @ 105 km/h

                มาสายเน้นพลังอีกคัน เจออาการฟรีทิ้งเหมือนๆ กันนะเนี่ย ทาง “ตุ้ม” T-SPEED บอกว่ารถคันนี้น่าจะได้ระดับ 400 PS ที่บูสต์ 55 ปอนด์ แต่พอวัดแล้วฟรีทิ้งมาก เลยต้องประคองเพื่อลดอาการฟรีทิ้ง ได้มา “364.30 PS” (น่าเสียดาย ที่ตัวจับสัญญาณรอบเครื่องเริ่มจะไม่เสถียร เลยจับรอบไม่ค่อยได้) ส่วนแรงบิดได้มา “678.73 N-m” เสียดายที่ไม่สามารถจัดเต็มได้ ก็คงต้องลดอาการฟรีทิ้งก่อนอย่างอื่น วัดอีกทีแรงม้าน่าจะดีกว่านี้เยอะ แต่น่าเสียดายที่เวลาไม่พอแล้ว ก็เลยต้องว่ากันตามนี้ก่อน…

 

0-100 km/h : 7.37 sec. @ 91.03 m 

0-402 m : 15.44 sec. @ 170.85 km/h 

                งานนี้ก็ต้อง “ประคอง” ไปครับ แต่ยังดีที่พอจะควบคุมอาการฟรีทิ้งได้ กราฟ Test Run เลยไม่ห้อยมาก อัตราเร่ง 0-100 km/h ใช้เวลา “7.37 วินาที” ในระยะ 91.03 เมตร ซิ่งไม่มากนักแสดงว่าพอจับถนนได้ก็มาไวเลย  ส่วน 402 ม. เช็คบิลที่ “15.44 วินาที” ที่ความเร็ว 170.85 km/h เหตุที่ความเร็วปลายค่อนข้างสูงผกผันกับเวลาวิ่ง เพราะช่วงต้นหากรถฟรีทิ้งเยอะ มันจะไม่โดดออกเร็วครับ ทำให้ระยะที่เหลือนั้นเยอะ เลยทำให้มีช่วง Shoot ความเร็วปลายเยอะ แต่ออกตัวช้าหน่อย ถ้ารถออกตัวดีๆ นึกภาพ “กบกระโดด” โดดมาปุ๊บได้ระยะทางออกตัวเยอะ แต่ระยะทางที่เหลือน้อย จึงได้เวลาควอเตอร์ไมล์ดี แต่ความเร็วปลายไม่เยอะครับ…

 

Comment : จักรพันธ์ โกสาทอง

รถเพิ่งจะทำเสร็จ เลยยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร เครื่องทอร์คเยอะ ทำให้ฟรีทิ้ง เฟืองท้ายยังเซ็ตไม่ลงตัว แรงม้าออกมายังไม่พอใจ ตั้งใจไว้ 400 แรงม้า ++ ครับ ต้องกลับไปเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย รถคันนี้เป็นรถ MITSU TRITON เครื่อง ISUZU D-MAX ค่าเครื่อง ค่าดัดแปลงเครื่องข้ามสายพันธุ์ ชุดสายไฟ ชุดอินเตอร์ฯ เทอร์โบ ประมาณ “400,000 บาท” ฝากขอบคุณ คุณตุ้ม T-SPEED WORK SHOP ดัดแปลงเครื่องยนต์และปรับแต่งทั้งหมดครับ…

 

Comment : XO AUTOSPORT   

                แปลกดีครับ แต่ก็เป็นสไตล์ผสมข้ามพันธุ์ที่คนไทยถนัด เครื่องไหนแรงก็เอามาใส่ซะเลย การทำแบบนี้ จะเป็นคนที่มีรถอยู่แล้ว แต่อยากจะแรงทางลัด ไม่อยากซื้อรถคันใหม่ ก็เลยต้องจ่ายงบประมาณเพิ่มสำหรับ “ค่าเครื่อง” และ “ค่าวางเครื่อง” อะไรต่างๆ ที่พิเศษไปกว่าการโมดิฟาย ก็แล้วแต่คนชอบครับ เพราะรถกระบะโครงสร้างไม่ซับซ้อน และรูปแบบมันจะเหมือนๆ กัน สามารถโยกย้ายของแต่งข้ามค่ายกันได้ง่ายครับ ตั้งแต่เครื่องไปยันเฟืองท้ายเลย…

 

Credit

T SPEED

Contact : www.facebook.com/T-Speed-Work-Shop, Tel. 089-000-0628

MITSUBISHI TRITON

ทีม : T SPEED

ภายนอก

เครื่องยนต์ BY T SPEED WORK SHOP

ระบบส่งกำลัง

ช่วงล่าง

ภายใน


First Step: TIGER F55 by Diesel Performance & Tuned by ART    

Max Power: 323.16 PS @ 135 km/h

0-402 m: 13.89 sec. @ 165.81 km/h

 

TOYOTA TIGER D-4D ที่เป็นรุ่น “ยกสูง” คือ Pre Runner มา “กดเตี้ย” โดย “ช่างนุ” แห่ง Diesel Performance คลอง 12 และเจ้าของรถ คือ Tuned by ART ที่บอกตรงๆ ว่าดู “ลงตัว” ดีเหมือนกันครับ เพราะตัวรถ TIGER D-4D รุ่น PreRunner หรือ Sport Cruiser ที่เป็นตัวสูง ตัวรถจะสั้นกว่ารุ่นปกติ ทำให้ดู “ทะมัดทะแมง” ดี แนวนี้เป็นการประยุกต์นำรถกระบะรุ่น 10 กว่าปีที่แล้ว นำมาชุบชีวิตใหม่ให้เปรี้ยวซ่ามากขึ้น เป็นการปรับปรุงที่น่าสนใจไปอีกแบบ เหมาะสำหรับคนที่อยากทำอะไรมันส์ๆ ประหลาดๆ ไว้แก้คัน โดยไม่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่ก็ได้…

Max Power : 323.16 PS @ 135 km/h

                สำหรับคันนี้ แรงม้าอาจจะไม่ได้เยอะมากนัก เพราะเครื่องก็เพิ่งจะทำเสร็จ อาจจะยัง “ตึงๆ” อยู่ แต่ !!! “วิ่งดีที่สุด” ก็ไม่แน่นะครับ แรงม้าพอดีๆ ฟรีทิ้งก็น้อย ขับง่าย เครื่องก็ทนทานกว่า มันมีความลงตัวของมันอยู่ เพราะคันนี้ใส่ “ล้อโต” ด้วย ทำให้ Traction การยึดเกาะทำได้ดี กราฟแรงม้าก็มาแบบสไตล์รถดีเซล คือ “มาก้อนเดียวช่วงรอบกลางๆ” พูดง่ายๆ ก็ใช้ “แรงบิด” ในการวิ่งนั่นแหละครับ ซึ่งแรงม้ามากน้อยก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่อยู่ที่ “สไตล์การเซ็ตรถของแต่ละคน” อาจจะชอบม้าพอประมาณ แต่ขับง่ายก็ได้ครับ ไม่ผิดกติกาอย่างใด…

 

หมายเหตุ : คันนี้จะวัดได้เฉพาะแรงม้าและความเร็ว เนื่องจากวันทดสอบ สายจับสัญญาณวัดรอบที่แท่น Dyno มีปัญหาจับสัญญาณวัดรอบไม่ได้ จึงไม่มีค่า rpm และ Torque มาให้ชมกันครับ…

 

0-100 km/h : 5.68 sec. @ 85.75 m 

0-402 m : 13.89 sec. @ 165.81 km/h 

                อัตราเร่งของคันนี้ ช่วง 0-100 km/h ทำเวลาได้เร็วมาก อยู่ที่ “5.68 วินาที” แสดงถึงการออกตัวและทำอัตราเร่งได้ดีจริงๆ เช็คบิล 402 ม. ด้วยเวลา “13.89 วินาที” ที่ความเร็ว 165.81 km/h อย่างที่บอกว่า แม้แรงม้าไม่มากมายนักแต่ไปได้เร็ว สำหรับเส้นกราฟ Test Run “เนียน” แทบไม่เห็นรอยต่อในการเปลี่ยนเกียร์เลย แสดงถึงว่า เจ้าของรถขับแบบรู้อาการรถ แทบจะไม่ฟรีทิ้ง กราฟจะเนียนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราไม่ได้อวยอะไรพิเศษกับอู่นี้นะครับ “กราฟมันฟ้องเอง” จากเครื่องมือวัดครับ ก็นับเป็นรถที่เซ็ตระบบต่างๆ ได้ลงตัวด้วยครับ…

Comment : จักรพันธ์ วรรณารัตน์

                รถเพิ่งทำเครื่องเสร็จใหม่ๆ เปลี่ยนลูกสูบโอเวอร์ไซส์จากเดิม 1.00 มม. (เป็นขนาด 97.0 มม.) เพิ่งจะหมดรันอินไปไม่นาน ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แต่เวลา และแรงม้าออกมา ถือว่าพอใจครับ ไว้พัฒนาต่อไปในอนาคต คันนี้ใช้งบประมาณการโมดิฟาย “300,0000 กว่าบาท” ก่อนโมดิฟายสเต็ปใหม่ คันนี้เคยทำเวลาได้ดีสุด “12.3 วินาที” ถ้าเครื่องใหม่ตัวนี้วิ่งได้เข้าที่ เวลาก็ต้องได้ตามเป้า ฝาก ขอบคุณช่างนุ Diesel Performance คลอง 12, ชาย อินเตอร์ พุทธมณฑล, TUNED BY ART ปราจีนบุรี…

Comment : XO AUTOSPORT

                คันนี้ก็เป็นแนวที่แปลกประหลาดดีครับ ผมว่าเป็นแนวปรับปรุงที่เอารถที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงให้แรงและสวยงามแบบร่วมสมัยได้ จริงๆ แล้วก็ใช้เงินไม่แพ้กับซื้อรถใหม่เหมือนกันนะ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวจริงๆ แต่มีข้อควรระวัง เพราะการนำรถสูงมากดเตี้ย “คานหน้าจะอยู่ต่ำมากกว่าปกติ” ก็ต้องใช้ความระวังในการขับขี่เยอะหน่อย ในด้านความแรง จะแสดงผลในตอนวิ่งครับ ว่าเซ็ตมาได้ลงตัว รวมถึงคนขับก็รู้อาการรถด้วยครับ…

Credit

Diesel Performance by Nu

Contact : www.facebook.com/dieselbynu, Tel. 084-772-2432 

TOYOTA TIGER

ทีม : OU-MA-MI

ภายนอก

เครื่องยนต์ BY DIESEL PERFORMANCE (ช่างนุ คลอง12)

ระบบส่งกำลัง

ช่วงล่าง

ภายใน


First Step : ISUZU D-MAX by T SPEED & Panda Zing   

Max Power : 380.40 PS @ 3,250 rpm

0-402 m : 14.71 sec. @ 168.48 km/h 

 

คันสุดท้าย กับสไตล์โย่งๆ กับ All New D-MAX Hi-Lander แปลงหน้าเป็น MU-X (ชุดแปลงหน้า 35,000 บาท เชียวนะ) ก็ดูแปลกตาดีไปอีกแบบ คันนี้จากทีม Panda Zing (แพนด้าซิ่ง) และ Night Freedom มาไกลจาก จ.นครปฐม ที่ผ่านการโมดิฟายจาก “ตุ้ม T-SPEED” เป็นรถใช้งานแนวเฮ้วๆ หน่อยนะวัยรุ่น เน้นบูสต์มันส์ๆ แคมโมดิฟายอีกคู่นึง จะออกอาการแรงขนาดไหนก็ติดตามชมเลย…

 

Max Power : 380.40 PS @ 3,250 rpm

Max Torque : 829.01 N-m @ 3,100 rpm

                คันนี้จะออกแนวบ้าพลังหน่อยสไตล์วัยรุ่น บูสต์อยู่ 45 ปอนด์ ลักษณะกราฟก็เหมือนกับเครื่องดีเซลคันอื่นๆ การวัดแรงม้าจะมีอาการ “ฟรีทิ้ง” ในช่วง 3,100 rpm น่าจะเป็นช่วงที่รอบกำลังไต่พอดี เส้นกราฟที่จู่ๆ โดดแหลมขึ้นมานั่นแหละครับเป็นอาการ “ฟรีทิ้ง” ขนาดเอาสมาชิกหุ่นล่ำไปนอนถ่วงในกระบะ 2 คน ก็ยังฟรีทิ้งอยู่ แรงม้าสูงสุด “380.40 PS” ที่ 3,200 rpm ไม่เลวนะครับ ส่วนแรงบิด ตัวเลขแจ้งออกมาที่ “829.01 N-m” ที่ 3,100 rpm แต่ !!! เป็นค่าที่วัดได้ในขณะล้อฟรีทิ้งแล้วกราฟถีบขึ้นไป จึงไม่สามารถอ้างอิงเป็นค่าแรงบิดสูงสุดได้เต็มที่นัก ก่อนฟรีทิ้งอยู่แถวๆ 750 N-m ถ้าดูค่าเฉลี่ยตามกราฟ ก็น่าจะอยู่แถวๆ 780-800 N-m อะไรประมาณนั้นแหละครับ…

 

0-100 km/h : 7.43 sec. @ 118.10 m 

0-402 m : 14.71 sec. @ 168.48 km/h 

                กราฟ Test Run คันนี้ จะค่อนข้างเป็นลอนพอสมควร ต้นเหตุอย่างหนึ่ง เกิดจากอาการ “ฟรีทิ้ง” จากความแรงของเครื่องยนต์ซึ่งเป็นสไตล์ที่เจ้าของรถชอบ ในช่วงเกียร์ 2-3 กราฟจะห้อยลงอย่างชัดเจน เป็นอาการฟรีทิ้งจนความเร็วรถไม่เดินไปชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนี้ก็อาจจะต้องเซ็ตเกี่ยวกับยาง ช่วงล่าง เฟืองท้าย อะไรพวกนี้อีกที เพื่อลดอาการฟรีในช่วงนี้ ตัวรถจะไปได้เร็วกว่านี้อีกเยอะเลย อัตราเร่ง 0-100 km/h ใช้เวลา “7.43 วินาที” ส่วน 402 ม. เช็คบิลที่ “14.71 วินาที” ครับ…

 

Comment : คุณัชญ์ อบเชย

รถคันนี้ผมทำใช้งานทุกวัน เครื่องสมบูรณ์ไม่มีปัญหาอะไร เคยทำเวลาดีสุด 13.2 วินาที ส่วนเวลาที่ทำได้ในวันนี้ อาจจะไม่ตามเป้าที่เคยทำ แต่ไม่คิดมากครับ ขำๆ ส่วนแรงม้าถือว่าพอใจครับ ส่วนการปรับแต่งเครื่อง พร้อมชุดคลัตช์ ราคาประมาณ “200,000 บาท” ท้ายสุด ฝากขอบคุณ พี่ตุ้ม T SPEED WORK SHOP, ทีม PANDA ZING, ทีม NIGHT FREEDOM นครปฐม, HPD ตกแต่งห้องเครื่อง…

Comment : XO AUTOSPORT   

                สำหรับคันนี้ ก็มาสไตล์ซิ่งตามแนววัยรุ่น ตัวรถโย่งๆ หน่อย ก็ใช้งานทั่วไปได้แบบไม่กังวล พูดถึงแรงม้าก็เยอะดีครับ เยอะจนฟรีทิ้งกระจายเลยบนแท่น Dyno เรื่องความแรงเราว่าน่าจะหยุดอยู่ประมาณนี้ ที่เหลือก็น่าจะเป็นการปรับ Traction ยาง ช่วงล่าง ให้สามารถยึดเกาะได้ดีกว่านี้ ตัวรถก็จะสามารถใช้กำลังที่มีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าฟรีทิ้งถือว่าใช้แรงม้าที่มีไม่คุ้มครับ ก็ขอฝากไปลองพิจารณาดู ด้วยความปรารถนาดี อยากให้รถวิ่งดีๆ ครับ…

 

Credit

T SPEED

Contact : www.facebook.com/T-Speed-Work-Shop, Tel. 089-000-0628

ISUZU D-MAX

ทีม : NIGHT FREEDOM & PANDA ZING & T-SPEED

ภายนอก

เครื่องยนต์ BY T- SPEED WORK SHOP

ระบบส่งกำลัง

ช่วงล่าง

ภายใน