The Giant Killer – STARLET KP61 TRD Race Version – XO – AUTOSPORT : THAILAND TUNING CARS MAGAZINE

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)

The Giant Killer

STARLET KP61 TRD Race Version

จัดเต็มกระชากอดีตอันดุดัน

คันนี้จัดหนักพิเศษๆ ให้ “ส่งท้ายปี” ก่อนจะบันเทิงกับงาน Souped Up Thailand Records 2018 สำหรับ Retro Full Race ที่สร้างตำนาน The Giant Killer ทั้งในต่างประเทศและ “ไทยแลนด์” เรียกว่าแม้ตัวจะเล็ก หัวใจจะน้อย แต่ “พลัง” ที่ออกมานั้น รวมถึง “สมรรถนะ” ที่ไม่น่าเชื่อ ว่ามาจากรถพื้นฐาน “จ่ายกับข้าว” คันจ้อย หน้าตาเชยๆ ใครจะคิดว่าพอถูกโมดิฟายแล้ว จะอาละวาดขนาดที่ “ชกข้ามรุ่น” ไปกวาดแชมป์จากรุ่นใหญ่กว่ามาได้ รถที่ว่านี้ก็คือ TOYOTA STARLET KP61 ที่เมืองไทยมีไม่มากนัก และนี่ก็เป็นเพียงไม่กี่คันที่ “เหลือรอด” มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นรถของ “พี่บอย RX” สาย Retro เต็มระบบ แบบ “ตัวไม่นิยมออกสื่อ” แต่สื่อด้วย “รถ” ที่ตั้งใจทำจน “สุด” ทุกคัน ซึ่งเป็นการแต่งตามแบบค่าย TRD ในอดีตเต็มทุกเม็ด ไม่เชื่อก็ลองชม ที่นี่ !!! ที่เดียว !!!

โฉม KP61 คือ “ไฟเหลี่ยม” ที่แม้จะดูเชยๆ แต่ก็เป็น “เสน่ห์” ของรถเก่า ลิ้นหน้า TRD จะเป็นทรงนี้ มีสองรูกลมๆ เอาไว้ดักลมเข้าไปเป่าชุดเบรกหน้า

ความไร้เสน่ห์ คือ ความมีเสน่ห์

บุคคลทั่วไปส่วนมากแล้ว ก็ไม่มีใครมองเจ้า STARLET KP60/61 นั้น “สวย” เลย รถอะไรก็ไม่รู้ กล่องๆ เหลี่ยมๆ ไร้ซึ่งดีไซน์ ดูแล้วคือรถบ้านธรรมด๊า…ธรรมดา…แลไร้พิษสงอันใด แต่ความไร้เสน่ห์เชยๆ ของมัน กลับกลายเป็นความ “มีเสน่ห์” อย่างบอกไม่ถูก เมื่อมันถูกนำไปทำเป็นตัวแข่งเซอร์กิต มีการ “เสริมกล้าม” ให้ดูใหญ่โตมากขึ้น ด้วย “โป่งล้อ” และ “ล้อขอบเล็ก กว้างเยอะ” ที่เปลี่ยน “ลุค” ของรถให้ดูสวยงามโดดเด่น “พร้อมรบ” ขึ้นมาทันใด จนไม่น่าเชื่อว่า นี่มันเป็นความมีเสน่ห์ มาจากความไร้เสน่ห์อย่างแท้จริง…

สำหรับ KP60/61 นั้นเป็น “ดาวดวงน้อย” Gen.4 เกิดขึ้นในปี 1978 ต่อจากตัวดังอย่าง STARLET PUBLICA KP47 อันโด่งดังในสายเซอร์กิตเช่นเดียวกัน ในตัว KP60 นั้น จะเป็นรุ่นแรก เอกลักษณ์ของมันก็คือ “Bug Eye” หรือ “ไฟกลม” เหมือนตาของแมลง ดูมันบ้องแบ๊วคลาสสิกดี ซึ่งรุ่นนี้เราก็เคยนำเสนอไปใน XO SPECIAL RETRO CAR Vol.2 เป็นรถของ “คุณเอ GT” ที่ทำครบสูตรสไตล์ TOM’S กันแล้วครั้งหนึ่ง ย้อนมาถึงตัวรถ สำหรับตัวถังของมัน จะเป็นรถแบบ Hatchback ซึ่งเป็นเอกลักษณ์แบบรถ “2-Box-Car” หรือ “รถแบบสองกล่อง” ไม่มีท้ายยื่นแบบรถ “สามกล่อง” หรือ 3-Box-Car หรือ “ซีดาน” และมีจำนวนประตู 3 และ 5 ประตู และแบบ Wagon ที่ไม่คิดว่ามันจะมีด้วย แต่สังเกตดูว่า ทรวดทรงของมันจะคล้ายคลึงกับ DAIHATSU CHARADE อย่างมาก เพราะในช่วงนั้น DAIHATSU โดน TOYOTA กวาดซื้อหุ้นมหาศาลไป ซึ่ง TOYOTA เอง ก็อาศัย DAIHATSU ที่เชี่ยวชาญในรถเล็กมานาน ช่วยออกแบบรถเล็กให้กับ TOYOTA มาตั้งแต่บัดนั้น จนถึง “บัดนาว” ก็ยังเป็นอยู่…

ชุดโป่งรอบคัน TRD N2 จาก “พี่ชายที่แสนดี” เปลี่ยนลุคจากหนุ่มผอมแห้ง ให้ “มีกล้าม” ขึ้นมาทันใด

เชย…แต่ก็มีดีนะ…

สิ่งที่ติดตั้งมาในรถรุ่นนี้ จริงๆ แล้วก็มีอุปกรณ์ทันสมัยในยุค “ปลาย 70” มาเยอะเหมือนกันนะ ซึ่งปกติแล้วรถระดับนี้ก็จะ “เบๆ” ไม่ค่อยมีอะไรมาให้สักเท่าไร มีเฉพาะของจำเป็น ซึ่ง KP6X ก็จะมี “อุปกรณ์ไฟฟ้า” แบบครบครัน มี “ดิสก์เบรกหน้า” เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพราะสมัยก่อนรถเล็กก็ยังเป็น “ดรัมเบรกสี่ล้อ” เพราะเน้นใช้ในเมืองที่ความเร็วไม่สูงนัก และที่สำคัญ “ช่วงล่างหลังเป็นคอยล์สปริง” แทนระบบ “แหนบ” ที่นิยมกันมาแต่ดั้งเดิม จึงทำให้ Handling นั้นโดดเด่นกว่ารถรุ่นก่อนๆ มาก จนทำให้ “โมดิฟาย” แล้วได้เปรียบ…

ลวดลายครั้งยัง “อดีต” ที่ออกอาละวาดในสาย “ทางเลี้ยว”

ย้อนตำนาน “แข่งไทย” สอยรุ่นใหญ่ราบคาบ

สำหรับตำนานการแข่งขันของรถรุ่นนี้ในเมืองไทย ย้อนไปยุค “สนามบินลพบุรี” ที่ปิดสนามบินแข่งรถ เพราะตอนนั้นสนาม “พัทยา เซอร์กิต” หรือ “พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ในปัจจุบันนั้นยังไม่เกิด ก็เป็นยุคที่ KP61 และเหล่า TE71 Lift Back ของค่าย TOYOTA กำลังออกอาละวาด ไม่น่าเชื่อว่ารุ่นที่แข่งคือ “เรซซิ่ง 1,400 ซี.ซี.” ความจุไม่เกินนี้ เพราะในคลาสนี้โดยมากก็เป็นรถ “พันสาม” อย่าง STARLET หรือ “พันสอง” อย่าง DATSUN SUNNY 1200 Coupe KHB310 หรือ “ซันนี่ ซิตี้บอย” ที่เอาเครื่อง A12 มาระเบิดไส้ให้เต็มพิกัดการแข่งขัน ก็เป็นคู่กัดตลอดกาล และยัง “หมัดหนัก” เกินตัว สามารถขึ้นรุ่นใหญ่ในอันดับ Over All ได้หลายครั้ง สำหรับทีมที่ใช้ STARLET KP61 แข่งในตอนนั้น แบ่งเป็นทีมหลักๆ ที่มี “ผลงาน” ดังนี้…

TOM’S-SINGHA BEER TEAM : ทีม “ทอมส์ เบียร์สิงห์” กับ KP61 ตัวแข่ง “Group 5” เบอร์ 9 เครื่องยนต์ 4K “ตั้ง” โมดิฟาย ได้แรงม้า (เคลม) ไว้ที่ 145 PS แต่เอาเข้าจริงๆ ยังไงก็เกิน เพราะเครื่องพวกนี้หมุนกันเกิน “หมื่น” อยู่แล้ว แรงม้าจริงๆ “สายเก๋า” คาดการณ์กันไว้ว่าต้องมี 170-180 PS แน่นอน ส่วนนักขับก็เป็นระดับ “ตำนาน” ทั้งสิ้น คนแรก “คุณเกี๋ยง” เกรียงไกร ลิ้มนันทรักษ์ คนนี้สาย Retro ปีลึก ถ้าใครไม่รู้จักถือว่า “ตัวปลอม” ฉายา “เบาลึก” เบรกหนัก เสียบโค้งไว อีกคนหนึ่งเป็นแวดวงไฮโซ “คุณเอ็กซ์” ธีระเดช จิราธิวัฒน์ ทายาทห้างเซ็นทรัล ที่ตอนนั้นก็ถือว่าเป็นนักแข่งดาวรุ่งมาแรง ที่เก่งเพราะเป็น “ศิษย์อาจารย์เกี๋ยง” นั่นเอง…
TEAM PAC SPEED : ของ “เฮียตี๋ หนองใหญ่” มงคล เสถียรถิระกุล นักแข่งสุดเก๋า ที่เปิดร้านขายของแต่ง ของโมดิฟาย ที่สมัยก่อนเรียกเท่ๆ ว่า “Speed Shop” นามว่า “PAC SPEED” (จะเอาเบอร์โทรด้วยไหม มีนะ) เฮียตี๋ เอง ขับตัวแข่ง COROLLA Liftback TE71 ตัวแข่ง Group 5 แท้ๆ เครื่อง 16 วาล์ว Race Engine เต็มระบบ น่าจะเป็น 18R-G ขนาด 2.0 ลิตรนะ เพราะในข้อมูลบอกเครื่อง 2.2 ลิตร (ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงต้องใช่) ส่วนคนที่ขับ KP61 Group 5 เบอร์ 59 โมดิฟายจาก TRD ก็ไม่ใช่ใคร “คุณประเสริฐ อภิปุญญา” ที่ตอนนั้นยังเป็นนักแข่งดาวรุ่งที่ “งานละเอียด” จนใครๆ ก็จับตามอง…

บอดี้ปรุงผ่านฝีมือสายเก๋าอย่าง “เฮียปุ๊ย โรตารี่” งานนี้ไม่มีเสียทรง

Comment : Boy RX

สาเหตุที่เล่นรถรุ่นนี้น่ะเหรอ…ก็คงเป็นธรรมดาสำหรับช่วงวัยเด็กที่เห็นรถแข่งพวกนี้แล้วรู้สึกชอบ มันเป็นความฝังใจอีกรุ่นหนึ่ง รถจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นรุ่นแพงอะไร แต่มันมีเสน่ห์โดยเฉพาะถ้าเป็น “รถมีโป่ง” ผมมี Idol คือ KP60 ของ “คุณเอ GT” นี่แหละ อยากได้เลย พอหามาได้ก็แต่งแบบ TRD เพราะของ คุณเอ เป็น TOM’S ไปแล้ว เลยอยากมีสองเวอร์ชัน พอทำแล้วรู้สึกว่าจากเดิมมันก็คือรถบ้านๆ ธรรมดา กลับกลายมาเป็นรถที่ขับสนุกมาก เข้าโค้งดี โดยเฉพาะโค้งรัศมีไม่กว้างนัก Handling คม ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่ามันจะไปได้ ส่วนเครื่องรออีกหน่อย จะเป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งที่ “แรงกว่านี้” คันนี้จะสำเร็จลงไม่ได้เลย หากไม่มีพี่ทั้งสองท่าน คือ “พี่ต่าย” ล่องลม บุนนาค “The Big Rabbit” ที่ช่วยเหลือทุกด้าน ในด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบ Mechanic โดยรวมทั้งคันเลย ประสบการณ์พี่เขาเพียบพร้อมจริงๆ และ”พี่เอ GT” ที่ช่วยเหลือในด้าน Parts ต่างๆ โดยเฉพาะ “โป่ง” ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้รถเป็น Racing Look ซึ่งรู้กันว่า เจ้า KP60-61 มันขาดโป่งไม่ได้จริงๆ ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านไว้ที่นี้ด้วยครับ…

XO AUTOSPORT’s Thanks

คุณบอย RX เจ้าของรถ
คุณเอ A.GT สถานที่ถ่ายทำ
คุณต่าย ล่องลม บุนนาค สำหรับข้อมูลการโมดิฟาย

X-TRA Ordinary

สำหรับเครื่องตระกูล K “โตต้า” ก็น่าแปลกอยู่อย่าง มาเดิมๆ ใครก็ว่ามันไม่แรง เครื่องโบราณ เครื่องสูบน้ำ สารพัดจะคิด แต่ถ้ามันถูก “ลงมือ” อย่างถูกต้องแล้ว สมรรถนะนั้น “จัดจ้าน” คนละเรื่อง ด้วยชุดโมดิฟายจาก “ญี่ปุ่น” สำนักดัง เช่น TOM’s, TRD เป็นต้น หรือแม้แต่ตอนนี้ “สำนักไทยๆ” นี่แหละก็โคตรแรง เนื่องจากว่า เครื่อง K โดยเฉพาะ 4K 1.3 ลิตร นั้น ยอดนิยมมากๆ คนไทยคุ้นเคยกันดี และมีการนำไป “วางเรือหางยาว” แข่งกันเป็นเรื่องราว ก็แปลกที่เครื่อง 4K วางในเรือหางยาวแล้ว “มันลงตัว” อย่างบอกไม่ถูก ถ้าโมดิฟายก็จัดเต็ม หมุนรอบเกิน 10,000 rpm คนไทยมีของเพียบ อยากแรงสูตรไหนก็จัดกันไปตามสะดวก…

TECH SPEC

ภายนอก

ชุดพาร์ท : TRD N2 Full Set

ภายใน

วัดรอบ : TRD by NIPPON DENSO (ND) SPORT PARTS

วัดส่วนผสม A/F : AEM

เบาะ : TRD

เข็มขัดนิรภัย : WILLANS

พวงมาลัย : TRD

โรลบาร์ : Custom Made for Racing

เครื่องยนต์

รุ่น : 4K Mod by The Big Rabbit

ฝาสูบ : มานพ ยนตรการ

วาล์ว : มานพ ยนตรการ

แคมชาฟต์ : TRD Custom 007 “สูตรผีบอก”

เฟืองแคมชาฟต์ : TRD

ลูกสูบ : WISECO Custom Made แบบ 3 แหวน ขนาด 79 มม.

ก้านสูบ : CARILLO

แบริ่งชาฟต์ : WPC

เฮดเดอร์ : TRD Pattern by RC TURBO

คอไอดี : TRD for 4K แท่นตรง

คาร์บูเรเตอร์ : WEBER 45 DCOE x 2

สายหัวเทียน : MSD

คอยล์จุดระเบิด : MSD 6AL-2

หม้อน้ำ : RC TURBO

ระบบส่งกำลัง

เกียร์ : T50 Model 5 Speed From CELICA TA22

คลัตช์ : TRD

หัวหมูเกียร์ : Custom Made สำหรับเครื่อง K ตั้ง

เพลาท้าย : LEVIN/TRUENO AE86

เฟืองท้าย : TRD 4.3

ลิมิเต็ดสลิป : TRD

ช่วงล่าง

โช้คอัพ : TEIN FLEX for AE86

อุปกรณ์ช่วงล่างทั้งหมด : Racing Spec for AE86

ล้อหน้า : ENKEI APACHE-1 ขนาด 8 x 13 นิ้ว

ล้อหลัง : ENKEI APACHE-1 ขนาด 9 x 13 นิ้ว

ยางหน้า : TOYO PROXES R888 ขนาด 185/60R13

ยางหลัง : TOYO PROXES R888 ขนาด 205/60R13

เบรก : WILLWOOD

สุดยอดคลาสสิก ENKEI APACHE-1 (อาปาเช่ วัน) ขอบ 13 “หน้าแปด” ลึกพอดีโป่งกำลังสวย ชุดเบรก WILLWOOD แบบ “พอดี” และ “อยู่เป็น” แบบไม่น่าเชื่อ

ล้อหลังอวบอูมด้วย “เก้านิ้ว” ยิ่งเจอขอบ 13 นิ้ว จะยิ่งดู “ลึก” และ “อ้วน” เหมือน Fat Boy ตัวเล็ก เต็มโป่งสวยพอดียิ่งยวด เป็นของแต่งจาก AE86 ทั้งหมด เชื่อได้ว่า “เลี้ยวเป็น” แน่นอน

สปอยเลอร์หลัง TRD ที่พอใส่แล้วดูมีมิติขึ้นเยอะเลย

ดิบๆ แบบนี้แหละ “เรโทร”

ดูแค่ชื่อ “เจ้าของ” ก็พอ ไม่ขอออกสื่อ

รถมาขั้นนี้ ภายใน TRD สิครับ รออะไร

ไม่ต้องบอกนะ ของอะไร พูดมากเดี๋ยวเจ็บคอ

เห็นแบบนี้ รู้กันครับ ND NIPPON DENSO SPORT PARTS รอบมาขนาดนี้ TRD แน่นอน ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ คันนี้ “ครบ” แม้ “วิทยุเดิม” กับ “นาฬิกา” ก็ยังอยู่ครบถ้วน

เกจ์วัด A/F จาก AEM และ Water Temp กับ Oil Press เอาไว้ “จูน” (ติดไว้เพื่อให้เห็นได้ชัด เสร็จกิจก็จะนำลงมาติดด้านล่างให้เรียบร้อย) แม้จะเป็น “คาร์บู” ก็ต้องมี “ค่าการวัดส่วนผสม” เป็น “ขั้นพัฒนา” แล้วววว

จุดความแรงกันหน่อย ในรอบสูง เครื่องยนต์มีกำลังอัดสูงมาก โดยเฉพาะเครื่องโมดิฟาย ถ้า “แรงดันกระไฟ” (Voltage) แรงไม่พอ กระแสไฟจะ “ไม่โดด” ไปจุดระเบิด จึงต้องพึ่ง CDI แบบ High-Voltage ให้สามารถจุดระเบิดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ “หัวเทียน” ต้อง “เจ๋งพอ” ที่จะทนไฟแรงจัดๆ โดยที่ไม่ “ละลาย” หรือ “เขี้ยวหัก” ลงมาทำร้ายเครื่องซะก่อนนะครับ

โรลบาร์ 4 จุด สร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับรองรับการแข่งขันได้จริง

4K จัดเต็ม โมดิฟายโดย “พี่ชายใหญ่” The Big Rabbit ฝาสูบโดย “มานพ ยนตรการ” สายเก๋ารู้กันว่า คือ “โรงกลึงเฮียก๊อง สุทธิสาร” ซึ่งเครื่อง K ที่โมดิฟายนี้ จะถูกจับ “ตั้ง” ขึ้นมา ที่เรียกกันว่า “เคตั้ง” หรือ “เคตรง” จากเดิมที่เครื่องจะ “เอนซ้าย” พอร์ตไอดีไอเสียจะ “ทิ่มลง” ใช้คาร์บู “ตั้ง” แต่พอมาทำแข่ง ต้องใช้คาร์บู “นอน” จึง “ผิดทรง” เลยต้อง “ปลุก” ให้ “ตั้ง” ขึ้น ด้วยชุดแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ ที่สร้างมาโดยเฉพาะ หัวหมูเกียร์ก็ต้องสร้างใหม่ ที่สำคัญ “ระบบหล่อลื่น” ที่ต้องมีเทคนิคพิเศษ สร้างให้เหมาะสมตามองศาของเครื่องที่เปลี่ยนไป อันนี้ “สุดจัด” แต่ “พี่ใหญ่ไม่บอก” ขอเป็น “เทคนิคส่วนบุคคล” อย่าโกรธกันเลย

คาร์บูคู่ “นอนเห่า” นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมต้องทำให้เครื่องตั้งตรง ถ้ามันเอนจะใส่คาร์บูนอนแบบนี้ไม่ได้ เห็นแบบนี้ “จูนไดโน” นะครับ (DYNO by KS RACING เจียงใหม่) และมีการวัด A/F จริง เพื่อ “เป็นค่ามาตรฐาน” ไม่ใช่ “สาดทิ้งวิ่งไม่ออก” ถมหนาเข้าว่า