Group B Nostalgia

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)

Group B Nostalgia

ย้อนรำลึกตัวแรงทางฝุ่นสุดโหด

#แก๊งม้าหินจัดให้

Group B Rally…The Rally Supercar สุดยอดความแรงในทางฝุ่นแบบไร้ขีดจำกัด ในกลางยุค 80 มีการสร้างรถแข่งสำหรับ Group B แบบเฉพาะทางขึ้นมา และต้องมีรถถนนที่ขายตาม Homologate ของกฎการแข่งขันอีก พวกนี้ถือเป็นรถพิเศษที่มีคุณค่าสูงและหาดูได้ยากยิ่ง การแข่งขันก็เต็มไปด้วยความดุดัน รถแต่ละคันเร็วและแรงสุดๆ จนคิดกันว่าน้าๆ เขาขับกันได้อย่างไรก็ต้องลองดูคลิปการแข่งขัน Group B Rally ในอดีต ซึ่งผมเองก็ติดตาด้วยความที่รถมีความแปลกและสวยงามมาก ส่วนความแรงในรุ่นคลาสใหญ่ๆ แต่ละคันก็พกแรงม้ามาไม่ต่ำกว่า 600 PS กับเครื่องเทอร์โบความจุตั้งแต่ 1.8-2.2 ลิตร และในช่วงควอลิฟาย ข่าวว่าก็ไม่ได้ต่ำกว่า 1,000 PS สรุปแล้วแรงม้ามันใกล้เคียงกับ F1 เลยนะ และอยู่บนทางฝุ่นมันไม่ใช่เรื่องง่าย จนได้ฉายาว่า Rally Supercar ซึ่งยอดมนุษย์นักขับและนักนำทาง ทุกเสี้ยววินาทีต้องโฟกัสที่การแข่งขัน รถก็ดิบๆ ไม่มีระบบ Traction ช่วยแม้แต่น้อย ถนนหนทางก็แคบๆ ที่พร้อมจะหลุดได้เสมอ คนดูเสี่ยงตายยืนกันริมทางเป็นแถวๆ แบบไม่มีอะไรกั้น แม้จะมีอุปสรรค แต่เรียกว่าไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ ถึงแม้จะเก่งกาจเพียงไร รถแข่งจะแรงและพร้อมขนาดไหน Group B Rally ก็ต้องแลกด้วยความตายที่ร้ายแรงที่สุด คือ LANCIA DELTA S4 สังกัดทีม MARTINI RACING ขับโดย Henri Toivonen ชาวฟินแลนด์ (ประเทศนี้จะขับแรลลี่เก่ง เพราะเส้นทางขึ้นลงเขา หิมะตกประจำ) และนำทางโดย Sergio Cresto เกิดอุบัติเหตุขณะแข่งรายการ Tour De Corse 1986 ที่เกาะ Corsica ประเทศฝรั่งเศส ก็จะเป็นทางแคบๆ ตามเขา แต่เกิดข่าวร้าย เจ้า DELTA S4 พร้อมทั้งสองคนหลุดไปชนจนเกิดระเบิด ไฟไหม้ตายคาที่ทั้งคู่ รถก็เหลือแต่เฟรม” (ในยุคท้ายๆ Group B Rally ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Spaceframe) ก็เลยต้องปิดตำนาน “The End of Group B” ไปอย่างถาวร

“TTE” CELICA TA64 Group B

ปกติใน Group B Rally จะเป็นรถฝั่งยุโรป แต่ว่าค่ายญี่ปุ่นก็จะมีคู่กัดกันระหว่าง TOYOTA CELICA TURBO กับ NISSAN 240 RS ซึ่ง TOYOTA ก็ผลิต CELICA GT-TS TWINCAM TURBO รหัส TA64 ซึ่งเป็นรถ Group B Rally ที่ผ่านการโมดิฟายจาก TTE หรือ TOYOTA TEAM EUROPE ซึ่งปกติแล้ว ถ้าเป็นรถบอดี้ในในญี่ปุ่น ตัวท็อปจะเป็น GT-T เครื่องยนต์ 3T-GTE “ทวินแคม ทวินปลั๊กสองหัวเทียนต่อสูบ ซึ่งยุค 90 ฮิตกันมากๆ ให้พลัง 160 PS อันนี้มีเฉพาะ JDM อย่างเดียว แต่ถ้าเป็นตัว TA64 จะเป็นเครื่อง 4T-GTE หน้าตาเหมือน 3T-GTE เป๊ะเลย แต่ท่อนล่างขยายความจุมาอีก 20 c.c. จากการขยายลูกสูบ 0.5 มม. รวมเป็น “1,791 c.c.” เพื่อให้ผ่านข้อบังคับของ FIA ที่กำหนดความจุในรุ่นที่ CELICA ต้องการจะแข่งไว้ที่ 2,501-3,000 c.c. ถ้าเครื่องเทอร์โบ จะต้องคูณด้วย 1.7 ซึ่ง 3T-GTE คูณแล้วไม่ถึงเกณฑ์ ก็เลยต้องผลิต 4T-GTE ออกมา เพื่อให้คูณแล้วผ่านเกณฑ์ เครื่อง Production จะมีทั้งหมด 200 ตัว ในรถ Production รุ่นพิเศษ “Limited Edition” จำนวน 200 คัน เพื่อให้ผ่าน Homologate ของการแข่งขัน Group B Rally แต่การแข่งขัน เครื่องจะถูกขยายความจุไปถึง “2,090 c.c.” อัดอากาศด้วยเทอร์โบในตำนาน KKK Turbolader K27 เบ่งแรงม้าได้ 326 PS ใน Group B Rally ถ้าเป็นในทางเรียบ พวก Group C หรือ IMSA หรือ Group 4-5 ก็จะขยี้ม้าได้ถึง 600 PS !!! ซึ่งตอนแรกหลายคนก็ว่า TOYOTA คิดยังไงถึงเอารถขับหลังมาวิ่งกับขับสี่ทั้งหลาย ยังไงก็เสียเปรียบ ทำไมไม่สร้างขึ้นมาใหม่ (เดี๋ยวมีคำตอบว่าสร้างหรือไม่สร้าง ในตอนท้ายเรื่อง) แต่ด้วยฝีมือของยอดนักขับแรลลี่ในตำนานอย่าง Bjorn Waldegard, Per Eklund และที่คุ้นหูกันอย่าง Juha Kankkunen ที่ชนะ Safari Rally ถึง 3 ครั้ง และ Rally Cote d’Ivoire ในปี 1983-1986 จนได้รับฉายาว่า King of Africa !!!

แก๊งม้าหิน รำลึก Group B

จากการที่เราได้ไปถ่าย Live ช่วงสาระเร็วและคอลัมน์ Street Style ที่เปลี่ยนแนวนำกลุ่มแรลลี่คลาสสิกในเมืองไทยมานำเสนอ และเมื่อเราได้เห็นกับเจ้า CELICA TA63 Group B Replica คันนี้ เลยขอแยกมาลงต่างหาก เพราะมันแปลกดีจริงๆ ตัวผมเองก็เคยลงรถแรลลี่คลาสสิกแบบนี้มาครั้งหนึ่ง ในนิตยสารระดับตำนาน “Tuned by…” ตอนนั้นจำได้ว่าลงรวดเร็ว 7 คัน !!! แล้วก็ห่างหายไปเกือบ 10 ปี จนมาหวนเจอพี่ๆ แก๊งเดิมเลยอยากหวนความทรงจำตัวแรงทางฝุ่นอีกสักครั้ง รถคันนี้เป็นของเฮียโตคุณพงษ์เทวัญ มีวัฒนะ ส่วนเนว์คือ คุณเป็นหนึ่ง จีนเชื่อม สำหรับการทำคันนี้ เฮียโต บอกว่า ตอนแรกก็จะหา CELICA TA40 “Aero” มาทำ แต่พอเจอ TA63 คันนี้ที่มีสายรายงานว่าขาย ก็เลยจัดการนำมาทำ Group B Style เพราะมันแปลกดี เป็นคันแรกในเมืองไทยแน่ๆ สิ่งที่ยากก็มีหลายอย่าง ประการแรกงานบอดี้จะต้องปั้นใหม่ทั้งหมดโดยเอารูปตัวแข่งให้ดู ไม่มีของขายแน่ๆ ประการที่สองอะไหล่บอดี้ที่ญี่ปุ่นเองก็หาได้ยาก มาเมืองไทยก็ยิ่งโคตรมหายากรถมีน้อยมาก (สมัยก่อนที่พ่อผมยังทำอู่ ลูกค้าพ่อที่สนิทกันซื้อรุ่นนี้มา เป็นรถพวงมาลัยซ้ายแล้วย้ายมาขวา มีซันรูฟ วางเครื่อง 7M-GTE จากป๋าหรั่ง ชัยศิริยนต์และเกิดเบื่อถนนวิ่งลงข้างทาง กระจกหลังแตกก็ต้องดัดสดไม่เท่าไรไฟท้ายแตกงานมา หาอะไหล่กัน 3 เดือน จนท้อ เหมือนมีอะไรทัก ดันไปเจอซากรุ่นนี้ใน Junk แถวๆ ฉะเชิงเทรานี่แหละ ไม่รู้มาได้ไง ได้ไฟท้าย ฝาท้าย ส่วนกระจกแตกเหมือนกัน เพราะรถมันวางทับกันจนหลังคายุบกระจกแตก) คนเล่นรุ่นนี้ก็ต้องระวังกันสุดๆของหายากจริงครับ หายากกว่า Gen 1 อีก !!!

ทำเสร็จปุ๊บ ขึ้นแท่นปั๊บ !!!

หลังจากที่เราไป Live รายการสาระเร็วที่ลานหน้าเขาหินซ้อน .ฉะเชิงเทรา พร้อมกับถ่ายทำคอลัมน์นี้ไปด้วย เจ้า CELICA จำแลงแปลง Group B Rally คันนี้ ก็ไปแข่งในรายการ F2 Thailand Rally Championship 5 ในปลายเดือน ..ที่ผ่านมา เทศบาล .ลานหอย .สุโขทัย คันนี้ก็ได้อันดับ 2” ในรุ่น F8 2,000 c.c. นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับรถที่เพิ่งทำเสร็จ งานนี้ต้องลงตัวทุกอย่างเช่น รถ คนขับ และคนสำคัญที่โลกลืมเนว์ผู้นำทาง คนจะจำแต่คนขับ แต่ เนวิเกเตอร์นั้น คนไม่ค่อยสนใจ แต่หารู้ไม่ว่า เนว์จะต้องช่วยเหลือคนขับ เช่น ขานเส้นทาง ช่วยเปิดปิดสวิตช์ต่างๆ ในรถ คอยเช็กระยะทางบน Twin Trip เหมือนผู้จัดการซึ่งต้องใช้สมาธิสูงมาก และต้องแยกประสาทสำคัญที่สุดทั้งเนว์และคนขับต้องจูนให้เข้ากันเนื่องจากการสื่อสารบนรถมันต้องสั้นและถูกต้องที่สุด จะต้องมีภาษาแรลลี่ย่อๆ หลักการเดียวกับภาษาชวเลขเพราะรถวิ่งไปด้วยความเร็ว ไม่มีเวลาผิดแล้วมาทวนหรือยึกยักแน่ๆ เพราะมันทำให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงได้ นี่แหละครับ เราต้องให้ความสำคัญของทั้งคู่พอๆ กัน แรลลี่ขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้แน่นอน

Special Thanks

คุณสุพจน์ กสิกรรม K45 และ สมาชิกแก๊งม้าหินทุกท่าน ที่มาร่วมความมันส์ 

ติดตามข่าวสาร

Facebook/F2 Thailand Rally Championship

X-TRA ORDINARY

หลังจากที่ Group B ถูกยกเลิกอย่างถาวรไป ซึ่งมัน Too Fast Too Race หรือเร็วเกินกว่าที่จะแข่งได้จนมีคำพูดเท่ๆ ว่า “WRC is for BOY, Group B was for MEN (and one FAST WOMAN)” ก็คือ WRC สำหรับเด็กๆ ส่วน Group B สำหรับลูกผู้ชาย เพราะต้องฝีมือกับรถแรงแบบบ้าคลั่งบนทางที่ไม่น่าจะไว้ใจ ส่วนคำในวงเล็บก็จะหมายถึงนักแข่งหญิงคนเดียวใน Group B ฝีมือมหาโหด คือ “Michele Mouton” (มิเชล มูตอง) ขับในทีม AUDI ที่ฝีมือทัดเทียมผู้ชาย พอยกเลิก Group B ก็มีโครงการเริ่ม Group S มาแทน ลักษณะรถจะคล้ายๆ กัน แต่จำกัดแรงม้าไว้เพียง 300 hp เพราะลดการเสี่ยงอันตราย TOYOTA/TRD Europe ก็ผลิตตัวแข่งใหม่ เป็น 222D โดยใช้พื้นฐาน MR2 AW11 มาทำขับสี่ เครื่องวางกลาง รถมันดูแปลกตาและไม่เหมือนใครจริงๆ ใช้เครื่องยนต์ 503E มันก็คือ 3S-GTE ที่เป็นเครื่องแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งว่ากันว่า ผลิตแรงม้าได้ถึง 750 hp ได้ ถ้าต้องการ แต่ยังไงไม่รู้ Group S ก็ถูกยกเลิกไปอีก ทำให้รถตัวนี้ไม่ได้แข่ง และถูกเก็บสะสมไว้วิ่งโชว์ในงาน Good Wood Festival ในข้อมูลบอกว่าออกมาวิ่งโชว์ ปี 2006 แล้วก็เก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ไป