s
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : Zentrady Oat
หลังจากที่ Liberty Walk by Infinite Motorsport ได้เปิดคอนเซปต์ในการ “ห่อหุ้มลาย” ใหม่ คือ ธีมของ Old Race Car Inspire จะเป็นการแต่งลายสติกเกอร์ตามแบบ “ตัวแข่งดังในครั้งอดีต” อย่างที่เห็น MERC C Coupe ที่ขึ้นปก โดยเป็น 80’s Race Car Inspire กันแล้ว แต่ในครั้งนี้เราย้อนไป “ปีลึก” กว่านั้น ด้วย NISSAN GT-R แพ็กคู่ “T1-T2” ที่ทรงเครื่องพาร์ท LB ใน Type 1 และ 2 รวมถึงการแต่งสติกเกอร์โดย Wrap Icon ที่เป็นธีม “70’s Race Car” แถมยังพ่วงด้วย “พลังแรง” จากเครื่อง VR38DETT โมดิฟายในระดับ 800-1,000 PS ++ ทั้งสองคันนี้จึงมาโชว์โฉมในคอลัมน์ Souped Up Special จนได้ครับ…
- โหยหา “ไกลรำลึก” ตัวแข่งดังในอดีต Nostalgic Race Car ทั้งคู่นั้นเป็น “70’s Race Car Inspire”
อันโด่งดังระดับโลกในยุคนั้น และมีตำนานกล่าวถึง ณ ปัจจุบัน
T1 “BRE RACING” No. 46
By “New Infinite”
มาดูคันแรกกันครับ มาในลวดลายตัวแข่งจากทีม BRE RACING ซึ่งโด่งดังมาจากตัวแข่ง DATSUN BLUEBIRD SSS 2 Doors Sedan รหัส P510 หรือ “ไฟว์-เท็น” ระบือโลก ที่ได้รับสมญานามว่า Poor Man BMW จุดดีเด่นด้วยระบบช่วงล่างหลังแบบ “เพลาลอย” หรือ “อิสระ เซมิ-เทรลลิ่ง อาร์ม” ที่ทำให้ Handling ได้เปรียบรถญี่ปุ่นแบรนด์อื่น ที่เกือบทั้งหมดเป็น “แหนบ คานแข็ง” ซึ่ง BRE นั้น จะมาจากคำว่า Brock Racing Enterprise ของ Peter Brock ซึ่งในยุคแรกที่ใช้ DATSUN แข่งขัน คือ FAIRLADY 2000 Roadster (ก่อนจะเป็น Z-Car) ตัวนี้แจ๋วมาก เพราะชนะรายการแข่งขัน SCCA DP Southern Pacific Division Championship ในปี 1968 ขับโดย Frank Monise…
ในปี 1971 ตลาดรถ Import ในอเมริกากำลังร้อนแรง SCCA (Sport Car Club of America) ที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนและควบคุมเรื่องการแข่งขันในอเมริกา ตอนนั้นมีการแข่ง Trans-Am (Trans American Championship) ซึ่งก็มีทีมแข่งที่ต้องการใช้รถ Import โดยมากก็จะเป็น “รถญี่ปุ่น” หรือ “รถยุโรป” แบรนด์ดังๆ ซึ่งต้องการวิ่งแยกรุ่นต่างหาก เพราะโดยมากเป็นรถเครื่องเล็ก ไปสู้ Big Block รถอเมริกันคันโตๆ คงโดนบี้ราบคาบ ทาง BRE ได้เลือก BLUEBIRD SSS 2 Doors Sedan P510 เป็นตัวแข่ง โดยมีคู่แข่งฝั่งยุโรปพิกัดเดียวกัน อย่าง ALFA ROMEO, BMW, BRITISH LEYLAND ที่ใช้รถ TRIUMPH (ไทรอัมพ์) สำหรับเจ้า Five-Ten ในทีมจะมีทั้งหมด 3 คัน คันที่โด่งดังและเป็น Iconic Race Car ที่คนจดจำมากที่สุด คือ เบอร์ 46 (เบอร์เดียวกับพ่อหมอรอสซี่) ที่มีนักขับฝีมือสุดเฉียบคู่บุญของ Brock ก็คือ “John Morton” ที่คว้าแชมป์ SCCA Trans-Am 2.5 ในปี 1971-1972 สองปีซ้อน เลยเป็นตำนาน Racing อันโด่งดังของ DATSUN 510 ตลอดมา…
- ความ BRE 46 นั้น คือ Brock Racing Enterprise ทีมแข่งในอเมริกา ที่ใช้รถค่าย DATSUN
ในการแข่งขัน และมาโด่งดังสุดๆ ในตัว Five-Ten จนต้องมาสถิตบนตัวถัง R35
- ฝากระโปรงหน้า Type 1 ยังใช้ของเดิม ที่มีช่องลมสไตล์ NACA Duct ส่วนกระจังหน้าก็ยังเป็นแบบรุ่นปี 2008-2016
- หางหลัง Type 1 เป็น Swan Neck ส่วนโป่งก็เป็นแบบเรียบๆ
- ไม่มีสเกิร์ตข้าง ทำให้ภาพของ Type 1 นั้น ดูไม่หวือหวามากนัก ออกแนว Classic ซึ่งพอใช้ลวดลายแนวนี้ มันเลยกลายเป็น Mood & Tone ที่ยอมรับได้
- ไฟท้ายถ้าเป็นของ LB จะใช้ของ VALENTI แต่คันนี้ใช้ของ NISMO เป็น LED เม็ด
อันนี้แล้วแต่นิยม ไม่ยาก เพราะไฟท้าย VALENTI เป็น Choice ที่ LB ให้เลือก
LB Performance Type 1 for R35
สำหรับพาร์ท LB สำหรับ R35 นั้น จะอิง “Previous Model” รุ่นก่อนปี 2018 ซึ่งชุดพาร์ท Type 1 จะออกแนวเรียบๆ ไม่หวือหวามากนัก ซึ่งเจ้าของรถ และเจ้าสำนัก Infinite Motorsport คือ “นิว” มองว่ามันออกแนว “คลาสสิก” ก็เลยทำสติกเกอร์เป็นลายตัวแข่ง BRE ที่คลาสสิกเช่นเดียวกัน ทำให้ออกมาเป็นโทน Vintage Racing ในยุค 70 สำหรับพาร์ท LB Type 1 มีจุดสังเกต ดังนี้…
< Material : วัสดุจะเป็น FRP ทั้งหมด ยังไม่มี Carbon แต่อย่างใด…
< Front Bumper : กระจังหน้าจะเป็นรุ่นก่อนปี 2018 ตรงช่องลมใหญ่เป่าอินเตอร์ จะมีช่องลมสี่เหลี่ยมจัตุรัสสองฝั่ง (เหมือนดักลมเป่าเบรก) ไม่มี Canard จะเป็นทรงเรียบๆ คลาสสิก…
< Wide Fender : ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีครีบหรือช่องลมใดๆ…
< Rear Diffuser : จะเป็นชิ้นต่อจากกันชนหลังลงมา ยังไม่ได้เปลี่ยนกันชนทั้งชิ้นเหมือน Type 2…
< Rear Spoiler : จะเป็นทรง Swan Neck ยึดติดบนฝาท้าย และมีให้เลือกอีกแบบ เป็น “ตูดเป็ด” (Trunk Spoiler) ทรงเตี้ย…
< Side Skirt : Type 1 ไม่มีครับ…
- PUR LX04 ก้านสี Modern Black ขอบดูจะสีมอๆ หน่อย ไม่ใช่ปล่อยให้หม่นหมอง แต่เป็นสี Gloss Lumiere Grey แปลกไปอีกแบบหนึ่ง
ส่วนวัสดุทำขอบ จะเป็นแบบ Aerospace-Grade 6061-T6 Forged Aluminum
ขุมพลัง 4.1 ลิตร บิดมหาศาล
จากเดิม 3.8 ลิตร “เสี่ยไม่พอใจ” ต้องแรงและโหดกว่านี้ เลยจัดหนักด้วยการสั่งชุดโมดิฟายจากสำนัก AMS PERFORMANCE หรือ ALPHA PERFORMANCE ซึ่งเป็นสำนักโมดิฟาย GT-R R35 ชั้นแนวหน้าระดับโลก และให้ทาง GT TUNING Thailand เป็นผู้จัดการบรรเลงความแรงให้ ซึ่งก็จะมี “สเต็ป” ให้เลือก ดังนี้
< 3.8 L : เป็นความจุเท่าเดิม แต่ “อัปเกรด” เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน โดยการร่วมวิจัยและพัฒนากับ MANLEY บริษัทเจ้าดังในการผลิตไส้ในเครื่องยนต์ระดับโลก ให้รับแรงม้าได้สูงขึ้น อายุการใช้งานยาวนาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนข้อเหวี่ยง สามารถรองรับรอบเครื่องได้กว่า 9,000 rpm ได้อย่างสบาย…
< 4.0 L : แม้ว่าความจุจะเพิ่มจากเดิมเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ จากการเปลี่ยน “ข้อ” ใหม่ เป็นแบบ Billet สิ่งที่ได้ตามมา คือ การตอบสนองที่รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะ “แรงบิด” ที่ “มา” ทั้งเร็วและมากกว่าเดิม จากการยืดช่วงชัก ทำให้ “กำลังอัด” เพิ่มขึ้นอีกด้วย ตรงนี้แหละคือจุดหลัก ช่วยให้แรงม้าและแรงบิดมาเร็วขึ้น ลดการรอรอบ ช่วยให้เทอร์โบบูสต์ได้เร็วขึ้น 300-500 rpm เมื่อเทียบกับเครื่อง 3.8 L เดิม…
< 4.1 L : พัฒนามาจาก “สนามแข่ง” ที่ AMS เคยส่งให้ GT-R เร็วที่สุดในโลก ในระยะควอเตอร์ไมล์ เป็นชุดที่สามารถใช้ร่วมกันทั้ง Street และ Racing ได้ ถ้าต้องการแรงม้าระดับ 1,000 PS ++ แต่ยังขับถนนได้ แรงบิดมหาศาล ตอบสนองไวและหนักหน่วง ต้องสเต็ปนี้เลย…
< 4.3 L : แรงสุดๆ ณ ตอนนี้ ที่ AMS ใช้สำหรับแข่งขันอยู่ ชุดนี้ก็จะมี Block โมดิฟาย ให้เลือก 2 แบบ คือ “Dry Sleeve” หรือ “ไลเนอร์แบบแห้ง” และถ้าต้องการแบบ “สุดลิ่มทิ่มประตู” ก็จะมีบล็อก Billet ที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งชิ้น ไว้รองรับความแรงระดับ “1,950 whp” !!! (ม้าลงล้อนะครับ) เรียกว่าถีบกันหน้าหงายเลยทีเดียว ขับให้ได้ก่อน ค่อยคิดถึงอย่างอื่น…
- เรียบๆ ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง
- NISMO คู่บุญยันชาติหน้า
- ยืดอกพกถุง ยืดได้หดได้ by AIRREX ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ได้สูงอีกต่างหาก ไม่ใช่แค่ยกขึ้นยกลงเท่านั้น
- ลายเซ็น “ศาสดา” ที่จารึกเอาไว้
- VR38DETT กับความขลังด้วยท่อร่วม BOOST LOGIC ดูเงียบๆ แต่ “มาเต็ม” ด้วยพลังจากความจุถึง 4.1 ลิตร “แว้ด” ทีเดียวรู้เรื่อง
TECH SPEC
ภายนอก
พาร์ท : Liberty Walk Type 1
กระจกมองข้าง : Craft Square
ไฟหน้า : Minor Change MY 2015
ไฟท้าย : Minor Change MY 2015
ภายใน
ตกแต่ง : หุ้มหนัง ALCANTARA และ CarbonFiber
เกจ์วัด : NISMO
เบาะนั่ง : OMP HTE-R400
โรลบาร์ : CUSCO
เข็มขัดนิรภัย : NISMO by WILLANS
เครื่องยนต์
รุ่น : VR38DETT Mod. By GT TUNING Thailand
แคมชาฟต์ : ALPHA
สปริงวาล์ว : ALPHA
ลูกสูบ : ALPHA
ก้านสูบ : ALPHA
ข้อเหวี่ยง : ALPHA 4.1 L
เทอร์โบ : HKS GT 1000 Kit
เวสต์เกต : HKS
อินเตอร์คูลเลอร์ : HKS
ท่ออินเตอร์ : BOOST LOGIC
ท่อร่วมไอดี : BOOST LOGIC
โบล์วออฟวาล์ว : TIAL
หัวฉีด : INJECTOR DYNAMIC 1,300 c.c.
รางหัวฉีด : ALPHA
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด : AMS PERFORMANCE
กล่อง ECU : COBB Tuning
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : GR6 Mod. By DODSON Stage 2
ช่วงล่าง
โช้คอัพ : AIRREX
ถุงลม : AIRREX
ล้อ : PUR WHEEL ขนาด 10.0 x 20 นิ้ว
ยางหน้า : TOYO PROXES R888 ขนาด 285/35R20
ยางหลัง : TOYO PROXES R888 ขนาด 315/30R20
ชุดเบรก : ENDLESS Monoblock 6 pistons
- Type 2 จะออกแนว Racing อย่างชัดเจน และมีวัสดุ CFRP ให้เลือกได้อีก
- พอออกแนวซิ่ง ก็จัดลวดลาย JPS No.12 ตัวแข่ง LOTUS 77 F1 เรียกว่าจัดแนว “เก่าแก่” กับแนว “โมเดิร์น” ได้อย่างกลมกล่อม
- Diffuser แนว Super GT ที่มาพร้อมกันชนหลังต้องเปลี่ยนทั้งชิ้น
Type 2 “JPS MK.II” F1
By “Tee V.12”
สำหรับคันนี้ ของรุ่นเดอะแห่งวงการ “พี่ตี๋ V.12” คงไม่ต้องฝอยกันมากถึงชื่อนี้ คันนี้แต่งลายสติกเกอร์เป็น JPS หรือ John Player Special MK.II F1 ซึ่งเป็นรถสูตรหนึ่งอันโด่งดังในอดีต เมื่อปี 1976 เป็นแชสซีของ LOTUS 77 เครื่องยนต์ COSWORTH DFV V8 3.0 ลิตร 1 ใน 3 นักแข่งชื่อดังก็คือ “Mario Andretti” (สัญชาติอิตาเลียน-อเมริกัน) ซึ่งดันมาขยี้ “ขึ้นโพล” เอาสนามสุดท้ายในฤดูกาล ที่ FUJI SPEEDWAY ประเทศญี่ปุ่นปุ๊นปุ๊น เหมือนกับรถเซตมาเหมาะกับสนามนี้อย่างไม่น่าเชื่อ จากการที่ออกแบบให้ตัวรถ “Slim” กว่าเดิมในรุ่น 72 และน้ำหนักเบากว่า รวมถึง “แบนกว่า” ทำให้รถเร็วขึ้นอย่างมาก ประกอบกับฝีมือการควบและเทคนิคแพรวพราวสุดเก๋า จาก Andretti ทำให้ JPS LOTUS 77 มีชื่อเสียงอย่างสวยงาม เสน่ห์ของ “ลวดลาย” จริงๆ แล้ว ถือว่าไม่มีอะไรเลย แต่จริงๆ มันมีลูกเล่น สีพื้นที่จะดำก็ไม่ดำ มันเทาดำพร้อม Metallic แถมด้วยการคาด “เส้นสีทองระยับ” ทำให้รถดูไม่มืดตัน ทั้งๆ ที่เป็นสีเข้ม โดยปกติรถแข่งจะต้องสีจัดๆ แจ๋นๆ เพื่อดึงดูดสายตา แต่นี่มาแปลก เลยเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ถูกเลือกมาอย่างเหมาะสมกับบุคลิก “รุ่นเดอะ” ที่ดูเคร่งขรึมและหนักแน่น…
- หางหลัง Type 2 จะเป็นแบบขาเกาะกันชน ไม่ใช่ Swan Neck
LB Performance Type 2 for R35
ชุดพาร์ท Type 2 นั้น จะอิงสเป็กรถปี 2018 ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงทรวดทรงพาร์ทรอบคันใหม่หมด รวมถึง “วัสดุ” ที่อัปเกรดให้แจ๋วขึ้น ซึ่งก็จะมีให้เลือกทั้ง FRP และ CFRP หรือ CarbonFiber Reinforcement Plastic สำหรับชุดพาร์ทของ LB นั้น สามารถ “ซื้อแยกชิ้น” เป็น Single Item ได้อีก เช่น กันชนหน้า, สปอยเลอร์หลัง, Diffuser แล้วแต่ความต้องการ…
< Front Bumper : ยกชิ้นมาพร้อมลิ้นล่าง และ Side Canard กระจังหน้าจะเป็นแบบ V-Version ตามรถปี 2018…
< Front Bonnet : จะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมช่องระบายลมขนาดใหญ่…
< Wide Fender : โป่งล้อหน้า ยังเป็นทรงเดียวกับ Type 1 แต่อัปเกรดให้มีครีบระบายลมด้านบน เสริมความเท่ในแบบตัวแข่ง และช่วยระบายความร้อน ที่เกิดจากการ “เบรกหนัก” รวมถึงระบายลมหมุนวนออกด้านนี้ได้ด้วย มันมีผลอย่างไร ให้ดูข้อต่อไป…
< Side Diffuser : เป็นครีบช่องลมด้านใต้โป่งหน้า วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ระบายลมจากซุ้มล้อให้ออกด้านข้าง ไม่ไปหมุนวนจนทำให้เกิด “แรงต้าน” (Resistance) ที่ล้อ และถ้าลมวนมากๆ ที่ความเร็วสูง จะเกิด “แรงยก” (Lift Force) ขึ้นได้มาก เจ้า Side Diffuser จะช่วยลดตรงนี้…
< Side Skirt : จะมี “สเกิร์ตข้าง” เพิ่มมา ทำให้ตัวรถดูต่อเนื่องและมีมิติมากขึ้น…
< Rear Bumper & Rear Diffuser : กันชนหลังมาพร้อม Diffuser โคตรซิ่ง เป็นทรง Super GT หรือ Time Attack ที่จะออกเวอร์วังอลังการหน่อย…
< Rear Spoiler : จะเป็น Ver.3 ทรง GT ยุคใหม่ (อันนี้ไม่ใช่แบบ Swan Neck) ตัวขายึดจะยึดที่กันชนหลังเลย โดยมีจุดยึดกับโครงในกันชนที่เป็นเหล็ก…
- ฝากระโปรงของ Type 2 คันนี้เป็น CFRP
- ครีบรีดลมที่โป่ง ระบายความร้อนออกจากซุ้มล้อ
- Side Diffuser สไตล์ Super GT
- FORGIATO ที่ดูเรียบๆ แบบ “เหี้ยมเกรียม”
FORGIATO ล้อแฟชั่นที่ “คิดได้ยังไง”
สำหรับ Type 2 ตัวโชว์ และ “ตัวจริง” ที่นำเสนออยู่นี้ จะใช้ล้อแบรนด์ FORGIATO ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ลวดลาย สีสัน มัน “วิจิตร” พิสดารพันลึก จนเกินกว่าจะเป็นล้อ และจนเราคิดกันว่า “มึงคิดได้ไง” มันหลากหลายจริงๆ ช่วงแรกๆ ทำออกมาเสิร์ฟรถแต่งแนว VIP American Hipster ก็พวก Celeb ผิวดำต่างๆ พวก Rapper, NBA Player อะไรพวกนี้ ที่เอารถหรูๆ มาใส่ล้อโตๆ กดเตี้ยๆ ติดพื้น อย่างรถที่ลงในนิตยสาร DUB City นั่นแหละ ตอนแรกก็ทำแนวนั้นก่อน จนเป็นที่ยอมรับ และเริ่มขยายสู่วงกว้าง แต่สไตล์อื่นก็ยังไม่ “อิน” พอตอนหลังก็เริ่ม “แตกหน่อ” มาเป็นลวดลายและรูปแบบสำหรับการแต่งรถสไตล์อื่นๆ ด้วย เช่น Original สไตล์หวือหวาแนว DUB, Exotic สำหรับ Super Car สายหล่อ, Racing สำหรับ Super Car สายซิ่ง แล้วก็อื่นๆ อีกมากมาย ไปหาในเว็บดูเถิด…
Semi-Gloss หล่อลึกแอบแฝง
ส่วนของคันนี้จะเป็นล้อ FORGIATO MAGLIA ECL ซึ่งอยู่ในหมวด FORGIATO 2.0 EXOTIC สีดำด้านถ้าดูเผินๆ แต่จริงๆ แล้ว มันจะเป็น “กึ่งเงา” หรือ Semi-Gloss ไม่เงาเด้ง แต่มีเงาฉาบๆ ถ้ามองล้อตรงๆ ก็เฉยๆ นะ แต่ถ้ามี “ล้อกับแสง” และ “มุมเฉียง” ความเงาฉาบๆ ของมันจะทำให้มิติขึ้นมาทันที (ถ้าเงาเด้งมันดูเจตนาจะเงาไปหน่อย) ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของสี “กึ่งเงา” หรือ “Semi-Gloss” ที่สร้างความหล่อแบบแอบแฝงครับ…
- รถระดับนี้ไม่ต้องอะไรเยอะ เพราะ NISSAN ตั้งใจทำมาให้อยู่แล้ว
ซึ่งลบจุดอ่อนใน SKYLINE GT-R ยุค R33-R34 ที่โดน Comment ว่าภายในเรียบและดูแข็งกระด้างเกินไป
- ดุดันด้วยงานคาร์บอนภายในทั้งหมด
- ที่นั่งหลัง เป็น Carbon Seat จริงๆ ข้างหลังก็ไม่ได้เน้นนั่งอะไรอยู่แล้ว เพราะเน้นเพียงแต่สองเราเท่านั้น
Tips
สำหรับขุมพลังของคันนี้ “พี่ตี๋” บอกขอแค่ 800 กว่าม้าก็พอแล้ว เลยยังคงความจุของเครื่องยนต์ไว้เท่าเดิม หรือ Stock Size แล้วอัปเกรดไส้ในให้แข็งแรงมากขึ้น สำหรับเทอร์โบจะเป็นแบบ Dual Ball Bearing (BB) Twin Turbo ซึ่งปกติแล้วเทอร์โบแบบ Ball Bearing ที่ใช้ “ลูกปืน” แทนบู๊ชแบบเก่า ส่วนใหญ่จะใช้ลูกปืนเพียงชุดเดียวตรงกลางแกน แต่กับแบบใหม่นี้ จะเป็น “ลูกปืนสองชุด” ติดกับใบไอดีและไอเสีย ทำให้มีความมั่นคงกว่าแบบลูกปืนชุดเดียว เพราะมัน “หามแกนกลาง” เอาไว้ ลดอาการแกว่ง ลดการรับภาระของลูกปืนได้มากครับ และทำให้บูสต์ติดเร็วขึ้นอีกด้วย ส่วน “ท่ออินเตอร์ฯ” คันนี้เป็นชุดของ ETS เพราะใช้อินเตอร์ ETS ซึ่งท่ออินเตอร์นั้น สามารถเลือก “หน้าแปลน” (Flange) ใส่ Blow Off Valve ยี่ห้อยอดนิยมได้หลากหลาย เช่น TIAL, GReddy, HKS, TURBOSMART เป็นต้น…
- VR38DETT คันนี้ความจุเท่าเดิม แต่เพิ่มความแข็งแรง พร้อมแรงม้าแบบ “กำลังดี” สยองพองขนกับท่อไอดี GReddy สีแดงเถือก
TECH SPEC
ภายนอก
พาร์ท : Liberty Walk Type 2 CFRP Full Set
กระจกมองข้าง : Craft Square
ไฟหน้า : NISMO MY 2015
ไฟท้าย : NISMO MY 2015
ภายใน
ตกแต่ง : หุ้มหนัง ALCANTARA และ Carbon Fiber
เกจ์วัด : NISMO
เบาะนั่ง : RECARO SPX
ที่นั่งหลัง : PASSWORD JDM Carbon Seat
โรลบาร์ : CUSCO
เครื่องยนต์
รุ่น : VR38DETT Mod. By GT TUNING Thailand
แคมชาฟต์ : JUN Hi-Lift Zeroshaft
ลูกสูบ : HKS 95.5 มม. (Stock Size)
ก้านสูบ : HKS H-Beam
เทอร์โบ : SSP GT820RR Dual Ball Bearing
เวสต์เกต : HKS
อินเตอร์คูลเลอร์ : ETS Race
ท่อร่วมไอดี : GReddy
ท่ออินเตอร์ : ETS
ท่อยางหม้อน้ำ : Forged
โบล์วออฟวาล์ว : HKS SQV
หัวฉีด : INJECTOR DYNAMIC 1,000 c.c.
รางหัวฉีด : GReddy
ชุดท่อไอเสีย : Tomei Expreme Titanium Full Set 102 mm.
กล่อง ECU : SYVEC by Toby & GT TUNING Thailand
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : GR6 Mod. By DODSON Sport Man
ช่วงล่าง
โช้คอัพ : AIRREX
ถุงลม : AIRREX
ล้อหน้า : FORGIATO MAGLIA ECL ขนาด 11.0 x 20 นิ้ว ออฟเซต -15
ล้อหลัง : FORGIATO MAGLIA ECL ขนาด 12.0 x 20 นิ้ว ออฟเซต -72
ยางหน้า : TOYO PROXES R888 ขนาด 285/35R20
ยางหลัง : TOYO PROXES R888 ขนาด 315/30R20
ชุดเบรก : ENDLESS Monoblock GT 6 pistons