เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ, อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ ทวีวัฒน์ วิลารูป
ห่างหายกันไปหลายฉบับกับรถ DRAG แรง ๆ ที่ซบเซาลงไปบ้าง นอกจากรายการแข่งใหญ่ ๆ ถึงจะเห็นรถแข่งประเภทนี้ออกมาโลดแล่นบนพื้นแทร็ก เบิร์นยาง ควันกลบตูด จังหวะที่เราไปทดสอบรถในคอลัมน์ VERSUS ที่สนามคลอง 5 ในวันนั้น ทางอู่ MONZA SPEED ที่นำทัพโดย พี่ตี้ ที่ขับมาะพร้อมกับ TOYOTA SUPRA เพื่อลองวิ่ง และจูนบนแทร็ก เป็นจังหวะที่ดี รถสมบูรณ์เรียบร้อย ทีมงานของเราจึงเข้าไปขอชักภาพกันซักเล็กน้อย มาพูดถึงรถคันนี้ซะหน่อย…จากการสอบถามกับพี่ตี้ รถคันนี้มีแรงม้าถึง 1,080 แรงม้า เป็นรถสปอร์ตใช้งาน รถถนน ซิ่งได้ทุกวัน แอร์เย็น เพลงเพราะ ตามแบบฉบับ ในวันที่ถ่ายคอลัมน์ คันนี้ก็ขับมาปกติ ไม่ได้ขึ้นรถสไลด์มา ขับมาสนามเหมื่อนรถปกติทั่วไป ส่วนรายละเอียดจะมีขั้นนตอนการตกแต่งอะไรบ้าง เชิญลองติดตามบรรทัดต่อไปได้เลยจ้า..
ภายนอก แต่งสไตล์แดร็ก ผสมงาน CARBONFIBER
ภายนอกมีส่วนประกอบที่ลดน้ำหนักไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับมากมายอะไรนัก ฝากระโปรงหน้าเป็นแบบ CARBONFIBER จาก TOP SECRET เสริมแรงกดท้ายอีกเล็กน้อยด้วย DUCKTAIL SPOILER แบบ CARBONFIBER ส่วนที่เหลือภายนอก ยังเดิมสนิม ทำให้รถคันนี้ลดน้ำหนักไปเพียงไม่กี่กิโล…
- ลดน้ำหนักลงบ้าง ด้วยฝากระโปรงหน้า CARBONFIBER แบบมีช่องระบายความร้อน
ภายใน ยังครบ รถสปอร์ตใช้งาน…
สมกับเป็นรถสปอร์ตใช้งาน ภายในยังเดิมสนิท เพิ่มเติมของแต่งบ้างบางส่วน และอัพเดทเพื่อความสวยงาม ปลอดภัย เบาะคู่หน้า BUCKET SEAT จาก BRIDE รุ่น CUGA พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด จาก TAKATA โรลบาร์สร้างใหม่แบบ 6 จุด พวงมาลัยแบบสปอร์ตสามก้าน หนังกลับสีดำจาก OMP เกจ์วัดตัวเดียวแบบมัลติฟังก์ชัน จาก AIM SPORTS MXL ปรับบูสต์ไฟฟ้าจาก GReddy PROFEC B SPEC II นอกจากนั้นยังมียังเครื่องเสียงคอยขับกล่อมด้วย HEAD UNIT จาก SONY รุ่น WX-7000MD
- รถสปอร์ตใช้งานได้จริง อุปกรณ์เลยครบอย่างที่เห็น แอร์ก็เย็น เครื่องเสียงก็มีให้เคลิ้ม…
- เบาะนั่งคู่หน้าบั๊กเก็ตซีตจาก BRIDE รุ่น CUGA เข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด จาก TAKATA
- แข็งแรงด้วยโรลบาร์แบบ 6 จุด เบาะผู้โดยสารตอนหลัง ยังมีขนผู้โดยสารไปตื๊ดได้…
2JZ + GARRETT GT47-88 + MOTEC M800
มีม้าลงพื้นพันกว่าตัว..
จากแรงม้าที่บอกกล่าวกันไปแล้ว ว่าเกินพันตัวนั้น ได้มาจากเครื่องยนต์ 2JZ-GTE 6 สูบ มาชำแหละ ใส่ของซิ่งเพื่อความทน และขยายตวามจุได้มากขึ้น โดยท่อนบน เปลี่ยนสปริงเป็นของ BC แคมชาฟท์ไอดี ไอเสีย ขนาด 280 องศา ลิฟต์ 10.5 มม. พร้อมตัวปรับเฟืองแคมสไลด์จาก BC ลดกำลังอัดด้วยปะเก็นขนาด 1.2 มม. จาก COMETIC ท่อนล่างเปลี่ยนลูกสูบมาใช้ของ CP ขนาด 87 มม. ก้านสูบ H-BEAM พร้อมแบริ่งชาฟท์ทุกตัวจาก ACL แล้วนำข้อเหวี่ยงเดิมไปปรับบาลานซ์ใหม่ พร้อมด้วย ATI SUPER DAMPER พูลเลย์ถ่วงดุลข้อเหวี่ยง ต่อมาส่วนสำคัญ การสร้างพละกำลังให้ได้แรงม้ากว่าพันตัว เทอร์โบจึงต้องมีขนาดที่ใหญ่ โดยเสตปนี้เลือกไปที่ GARRETT GT47-88 ติดตั้งบนเฮดเดอร์สเตนเลส และควบคุมแรงดันบูสต์สูงสุด 2.8 บาร์ด้วยเวสต์เกตแยก 2 ตัว ของ เหรียญชัย เทอร์โบ จนถึงหม้อพักไอเสียใบสุดท้ายจาก A’PEXi N1 ด้านไอดีขยายขนาดท่อทางเดินทั้งหมด พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์จาก TRUST พร้อมด้วยลิ้นปีกผีเสื้อขนาด 100 มม. และออกแบบท่อร่วมไอดีใหม่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับอากาศที่มากขึ้นจาก เหรียญชัย เทอร์โบ
- 2JZ-GTE (3,044 ซี.ซี.) เทอร์โบ GARRETT GT47-88 กล่อง MOTEC M800 กว่า 1,085 แรงม้า โดย ตี้ MONZA SPEED + ปอ จูนเนอร์
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนปั๊มน้ำมันมาใช้ของ AEROMOTIVE A1000 x 2 หัวฉีดหลักอีก 6 หัว ขนาด 1,600 ซี.ซี. จาก BOSCH พร้อมรางหัวฉีด และตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก AEROMOTIVE จากนั้นอัพเกรดระบบไฟจุดระเบิดตามไปด้วย โดยมีหัวเทียนเบอร์ 11 จาก NGK ชุดเพิ่มกำลังไฟ ด้วยจุดคอยล์ไฟจุดระเบิดจาก B&M NEW VOLT ควบคุมและสั่งการทำงานด้วย MOTEC M800 จูนโดยปอ วัฒนา ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงโซฮอล์ 95 + AV GAS ระบบส่งกำลังยังใช้เกียร์เดิม 6 สปีด พร้อมชุดคลัตช์ซิ่งของ OS GIKEN จำนวน 4 แผ่น อัตราทดเฟืองท้าย 3.2 พร้อมลิมิเต็ดสลิป TRD แบบ 2 WAY
- อัพเกรดระบบเบรกหน้า BREMBO แบบ 8 pot จานดิกส์เบรกขนาด 380 มม. ล้อ VOLK รุ่น CE28 ขนาด 19 นิ้ว ส่วนล้อและยางหลังสำหรับแข่ง จะใช้ของ WELD RACING ขนาด 15 นิ้ว ยาง HOOSIER DRAG SLICK ขนาด 26.0/10.0-15
ช่วงล่าง TEIN FLEX เบรก 8 pot
ล้อ VOLK RACING
ช่วงล่างเสร็จมาทั้งแบบขับถนน ควบคู่กับสนามแดร็กบ้าง โดยโช้คอัพเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวจาก TEIN รุ่น FLEX ค้ำโช้คหน้า CUSCO ระบบเบรกอัพเกรดใหม่จาก BREMBO คู่หน้า 8 pot คู่หลัง 4 pot จานดิสก์ขนาด 380 มม. และ 355 มม. พร้อมด้วยล้อจาก VOLK RACING รุ่น CE28 ขนาด 19 นิ้ว ยาง TOYO PROXES T1R ขนาด 255/35R19 ส่วนล้อที่ใช้แข่งจะเปลี่ยนล้อและยางหลังใหม่ โดยมีแม็กสำหรับแข่งจาก WELD RACING ขนาด 15 นิ้ว ยาง HOOSIER DRAG SLICK ขนาด 26.0/10.0-15
ขอขอบคุณเจ้าของรถ คุณเกี้ย คุณปอ จูนเนอร์ และ พี่ตี้ จาก MONZA SPEED โทร. 08-1901-4047
TOYOTA SUPRA (JZA80) มีระบบส่งกำลังด้วยเกียร์ ตามรหัสดังนี้ครับ เกียร์ธรรมดา 6-speed V160 & V161, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด W58 และ 4-Speed A341E automatic
MAX POWER : 1,085 PS @ 8,300 rpm
MAX TORQUE : 96.24 kg-m @ 7,500 rpm
สำหรับกราฟแรงม้าของคันนี้ เส้นสีแดงเป็นแรงบิด เส้นสีน้ำเงินเป็นแรงม้า ก็เป็นไปในสไตล์ของรถควอเตอร์ไมล์ ที่จะ “เชิดปลาย” เป็นหลัก ต้น ๆ ไม่ต้องดูครับ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ช่วงกำลังจะเริ่มเกิดตั้งแต่ 6,500 รอบขึ้นไป เป็นช่วงที่เทอร์โบเริ่มบูสต์ได้เต็ม ที่รอรอบเพราะใช้เทอร์โบที่เบอร์ GT47-88 ขนาดใหญ่โตเหลือเกิน หลังจากช่วงนี้ไป กราฟจะดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วง 6,500 รอบ แรงม้าอยู่แถว ๆ 600 PS แรงบิด 63 kg-m พอช่วง 7,000 รอบ แรงม้าก็ดีดขึ้นเป็น 800 PS แรงบิด 85 kg-m หลังจากนั้น 7,500 รอบ ก็ได้แรงม้า 1,000 PS พอดิบพอดี ส่วนแรงบิดนั้น ก็ขึ้นสู่ช่วง Peak ในระดับ 95-96 kg-m ช่วง 8,000 รอบ แรงม้าจะขึ้นสู่ช่วง Peak คือ แถว ๆ 1,085 PS หลังจากนั้น แรงบิดจะเริ่มโรยตัวลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เยอะ ส่วนแรงม้าก็ยังไม่ตก กราฟยังนอนต่อไปจนรอบตัดที่ 9,000 รอบ…
สรุปได้ว่า นิสัยเครื่องคันนี้คือ “รถแข่ง” โดยแท้จริง ในคราบของรถแนว Street Legal ที่ตัวรถและอุปกรณ์รอบคัน ยังคงวิ่งบนถนนได้ถูกกฎหมาย ซึ่งสไตล์อเมริกันนิยมกันมาก รถที่โมดิฟายเครื่องแรงม้ามาก ๆ วิ่งควอเตอร์ไมล์เลขตัวเดียว หรือจะวิ่งเซอร์กิต ดริฟต์ อะไรก็ตามแต่ (แต่ส่วนใหญ่สไตล์อเมริกันจะหนักไปทางควอเตอร์ไมล์) กลุ่มนี้จะนิยมทำภายนอกดูเรียบร้อยเหมือนรถสวยทั่วไป ในคราบ “เสือซุ่ม” และวิ่งถนนได้จริง แต่ลองคิดต่อว่า ถ้าเป็น Freeway ที่อเมริกา คงขับได้ไม่มีปัญหา เพราะรถไม่ติดและวิ่งยาว ๆ แต่ในบ้านเรา ก็คงจะต้อง “เลือกเวลา เลือกถนน” ที่จะขับกันหน่อยล่ะ อย่างคันนี้ ก็ขับมาสนามได้เอง โดยไม่ต้องขึ้นรถสไลด์ ถ้าทางนอกเมือง เวลาที่รถไม่เยอะมาก มันก็ไปได้สบาย มีแอร์ แต่ถ้าเป็นในเมืองย่านที่ Peak มาก ในชั่วโมงเร่งด่วน คงไม่มีใครเอารถระดับ 1,000 แรงม้า มาติดหนึบในถนนกรุงเทพฯ ให้ม้ามาก ๆ มันเครียดเล่นหรอก ใช่ไหมครับ…
