MAZDA SAVANNA RX-7 (FC3S) GP SPORTS BODY PART & ORIGIN WIDE FENDER

 

เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ / ภาพ ทวีวัฒน์ วิลารูป >>>

ย้อนยุคกับสปอร์ตสายพันธุ์โรตารี่กันอีกสักครั้ง MAZDA SAVANNA RX-7 (FC3S) ที่ดูภายนอกแล้ว มีรูปทรงและมิติของตัวรถที่ได้แรงบันดาลใจจาก PORSCHE 944 ไม่มีผิดเพี้ยน โดยเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา จนถึงปี 1991 และถูกพัฒนาต่อในปี 1992 ด้วยบอดี้ใหม่ FD3S ที่มีสายการผลิตยาวจนมาถึงปี 2002 กันเลยทีเดียว แต่ด้วยความนิยมของคนชอบเก็บ RX-7  SAVANNA (FC3S) ในบ้านเรายังพอมีให้เห็นกันบ้าง แต่ถ้าเป็นรุ่นที่สวยที่สุด ต้องเป็นรุ่นสุดท้ายปี 1992  ที่เรียกว่า โฉมไฟท้ายกลม คันนี้ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เด่นด้วยเม็ดสี เกล็ดเงิน ๆ SILVER COLOR จาก STANDOX รอบคัน ของนายกบ  หนึ่งในสมาชิกทีม NAGAOKA นี่เอง…

ภายนอก GP SPORTS + ORIGIN

ส่วนประกอบภายนอก นอกจากสีที่เด่นแล้ว ชุดบอดี้พาร์ทคือส่วนที่ทำให้ตัวรถนั้นเด่นขึ้นมาทีเดียว โดยชุดพาร์ทรอบคันจาก GP SPORTS รอบคัน พร้อมกับขยายในส่วนของ WIDE FENDER คู่หน้าและหลังขนาด 30 มม. และ 50 มม. จากค่ายแต่ง ORIGIN ฝากระโปรงหน้าเปลี่ยนมาใช้แบบ CARBONFIBER พร้อมช่องระบายความร้อนจาก D-MAX  ด้านข้างได้เปลี่ยนกระจกมองข้างเป็นของ VISION จากนั้นไฟคู่หน้าดัดแปลงจาก 200 SX มาใส่ จากค่าย SUPERMADE ด้านท้าย เปลี่ยนไฟท้ายเป็นแบบ LED ด้านในทรงกลม และฝาท้ายที่เรียกว่า ถาด  เป็นของแต่งจากญี่ปุ่นไม่ทราบสำนัก

ภายใน เปลี่ยนเบาะ เปลี่ยนเครื่องเสียง เพิ่มค้ำหลัง…

ในส่วนของภายในรถสปอร์ตที่ดีไซน์กว่ายี่สิบปี รูปทรงจะเหลี่ยม ๆ ไม่เหมือนรถสมัยนี้ อะไรก็ต้องมนๆ ลบเหลี่ยมกันไปหมด ลองมาดูย้อนยุคกันหน่อย คอนโซลหน้าถูกเคลือบด้วย CARBON สวยงาม พวงมาลัยเปลี่ยนมาใช้ของ PERSONAL พร้อม HUB คอพวงมาลัยจาก NRG คอพวงมาลัยแบบพับได้จาก WORK BELL หัวเกียร์ VERTEX เบาะฝั่งคนขับ BRIDE ZETA III  ฝั่งคนนั่ง BRIDE EURO II เบาะหลังถูกถอดออกและแทนที่ด้วยกล่องอเนกประสงค์จากรุ่น RX-7 FD3S พร้อมค้ำพื้นจาก TO-BOX นอกจากนั้นมีเกจ์วัด DEFI ZD ปรับบูสต์ไฟฟ้า GReddy  PROFEC B SPEC II และเครื่องเสียงขับกล่อม กำลังเพลิน….ด้วย  HEAD UNIT จาก ALPINE CDA-117E ทวีตเตอร์ HERTZ ซัฟรูฟเฟอร์ MTX AUDIO RT8T และ CAPACITOR จาก STATUS CP2200 เพาเวอร์แอมป์จาก KAMAZ BONN B-FOUR

เครื่องยนต์โรตารี่ 13B TURBO “หัวจรวด”

ยังอนุรักษ์เครื่องยนต์เดิมตรงรุ่นแบบโรตารี่ 13B ที่ระบบ AIRFLOW METER ที่เรียกภาษาบ้านเราว่ารุ่น “หัวจรวด” 205 แรงม้า ซึ่ง AIRFLOW METER จะเป็นตัววัดปริมาณอากาศในท่อร่วมไอดี โดยผ่านเพื่อส่งสัญญาณไปให้กล่อง ECU ประมวณผล เพื่อการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ รอบเครื่องยนต์และตำแหน่งการเปิดลิ้นปีกผีเสื้อ ส่วนเทอร์โบเป็นของจาก HITACHI รุ่น HT18S-2S ตั้งบูสต์ไว้ที่ 0.9 บาร์ พร้อมท่อทางเดินไอเสียจาก A’PEXi ส่วนระบบไอดีขยายอินเตอร์คูลเลอร์ให้ใหญ่ขึ้น และโบล์ว ออฟ วาล์ว จาก BLITZ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงปรับปรุงเล็กน้อย เพื่อให้แรงดันนั้นสม่ำเสมอ ด้วยตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก SARD ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง WALBRO ระบบไฟจุดระเบิดที่ทำงานควบคู่กันเป็นของ HKS เบอร์ 9 และ เบอร์ 10 ระบบน้ำหล่อเย็นเปลี่ยนหม้อน้ำเป็นแบบอะลูมิเนียมใหญ่ขึ้นจาก RONDAVIS ทั้งหมดควบคุมด้วยกล่องแต่งจากค่าย RACING BEAT ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมชุดคลัตช์ ACT รุ่น ZX2 XRT6

ช่วงล่าง TEIN TYPE HR

ล้อ W WORK XD9 ไซส์ต่างกัน…

ระบบการทำงานของช่วงล่างก็ไม่มีอะไรมาก เน้นสวยงามกับการโหลดเตี้ยด้วยโช้คแบบสตรัทปรับเกลียวของ TEIN TYPE HR ค้ำโช้คหน้า และค้ำหลังจาก CUSCO พร้อมด้วยล้อพ่นดำจา W WORK รุ่น XD9ขนาดคู่หน้า 17 x 9.5 นิ้ว คู่หลัง 18 x 10 นิ้ว ยาง BRIDGESTONE ADRENALIN ขนาด 225/45R17 และ DUNLOP DIREZZA DZ101 ขนาด 245/40R18

เจ้าของรถฝากขอบคุณ อู่สีช่างหรั่ง แจ้งวัฒนะ โทร. 08-7689-8267 ร้าน AEK GARAGE เกี่ยวกับของแต่ง โทร. 08-1821-4587 ร้านโชคชัย กระจก, ร้าน RED MANGO @ K VILLAGE และเพื่อน ๆ จากทีม  NAGAOKA

Photo by blog.hemmings.com

X-TRA ORDINARY

รุ่นครบรอบ 10 ปี  RX-7 ในปี 1988 ที่ผลิตขึ้นจำนวนไม่มาก LIMITED PRODUCTION เพียง 1,500 คัน ในพื้นฐานของ RX-7 TURBO II สีของรถจะเป็นแบบ CRYSTAL WHITE MONOCHROMATIC โลโกภายนอกจะเป็นสีทอง ภายในสีดำ  เบาะหนัง พวงมาลัย MOMO แม็กขนาด 16 นิ้ว 7 ก้าน