เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ
TOYOTA สปอร์ต 2 ที่นั่ง เครื่องวางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลัง คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ MR2 แน่นอน ตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปี 2007 ได้สิ้นสุดการผลิตลงไป สำหรับ MR2 (SW20) ที่เรานำมาเสนอในฉบับนี้ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ผลิตออกมาจำหน่ายในช่วงปี 1989-1999 โดยในญี่ปุ่นมีหลายเวอร์ชั่นให้เลือก อย่างรุ่น G จะเป็นเครื่องยนต์ 3S-GE มีกำลัง 165 แรงม้า มีทั้งเกียร์ออโตเมติกและธรรมดา, G-LIMITED เครื่องยนต์ 3S-GE, รุ่น GT-S และ GT เครื่องยนต์ 3S-GTE กำลัง 221 แรงม้า เกียร์ธรรมดา รุ่น GT จะเพิ่มความหรูหรา ด้วยหนัง ALCANTARA บริเวณแผงประตูด้านในและเบาะนั่ง ซึ่งในช่วงปี 1994-1995 รุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ 3S-GTE ได้ปรับแต่งให้กำลังมากขึ้นเป็น 245 แรงม้า และในรุ่นปี 1998 ได้ออกเครื่องยนต์รุ่นใหม่ไม่มีเทอร์โบ 3S-GE BEAM มีกำลัง 200 แรงม้า เป็นส่วนที่นำมาเล่าสู่กันฟังเล็กๆ น้อยๆ ส่วนการตกแต่งของคันนี้ มีอะไรบ้างต้องติดตาม….
ลำดับแรก มาแนะนำเจ้าของรถกันก่อน คุณตั้ม จากทีม WINGS จากการนั่งพูดคุยกัน ตั้ม ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงที่ใช้และชอบรถ MR2.ผมเชื่อว่าวัยรุ่นคนไทยส่วนใหญ่ทุกคน ความฝันของเขาคือ อยากครอบครองรถสปอร์ต 2 ประตูสักคัน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมอยากได้รถสปอร์ตมาตลอด จนกระทั่งมีโอกาสที่จะได้ซื้อ ผมไม่ลังเลที่จะซื้อ TOYOTA MR2 เพราะผมชอบอะไรที่ไม่เหมือนใคร รถในตลาดมีน้อย ผมคิดว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ราคาจับต้องได้ ที่สำคัญ รูปลักษณ์มันดูโฉบเฉี่ยวจริงๆ คุณลองคิดดู รถ 20 กว่าปีแล้ว ผมว่าผมยังมองมันสวยไม่สร่างอยู่เลย ชอบเวลา MR2 ออกตัวมาก MR2 เวลา TAKE OFF จะได้เปรียบกว่า เมื่อเทียบกับรถขับหลังรุ่นอื่นๆ ส่วนการโมดิฟายเครื่องนั้น ตอนแรกที่ได้รถคันนี้มาไม่มีอู่ประจำ เพราะผมเล่นแต่ฮอนด้า ไม่ได้จับรถเทอร์โบมานาน แรกๆ เครื่องทำสเต็ปแรก เทอร์โบ GT45 แรงม้าราวๆ 400 กว่า พอดีผมสนิทกับช่างภาพ คุณอ้วน AOUN PHOTO มาก เขาจึงแนะนำให้ไปปรึกษาน้าไก่ NV และ อ.ทูรย์ TOON ENGINE SHOP ได้รับรู้เรื่องเครื่องยนต์อยู่พักใหญ่ แล้วจึงค่อยๆ เก็บเงิน เพราะใจอยากทำเครื่องมาก ใครๆ ก็รู้ว่า อ.ทูรย์ เขาระดับไหน เราเปิดหนังสือรถ เห็นพี่เขาอยู่ในวงการรถตั้งแต่เรายังเด็ก วันนี้เรามาอยู่บ้านเขา ได้พูด ได้คุย ได้ปรึกษา ถ้าวันนึงเราได้ทำรถกับเขา ผมมั่นใจว่า มันจะต้องดีแน่นอน โดยมี พี่รุ่ง R-SPEC2 GARAGE ดูแลและเซ็ตอัพรถคันนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดี เห็น MR2ในสนาม ก็ต้องอู่นี้แหละ โดยผู้ดูแลประกอบเครื่อง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน TOON ENGINE SHOP โดยโจทย์ที่ผมให้ทางอู่ทำก็คือ “พี่ครับ รอบนี้ผมขอแรงม้าราวๆ 500 ขอวิ่งยืนพื้น แตะเลข 11 ผมพอใจ” นี่คือคำพูดของผมในตอนนั้น และ พี่รุ่ง กับ อ.ทูรย์ ไม่ทำให้ผมผิดหวัง กับตัวเลข 566 แรงม้า ทอร์คประมาณ 60 กก.-ม. น้ำมัน E20 (อ.ทูรย์บอก ถ้าใช้ E85 แรงม้าจะเพิ่มมาอีกเกือบ 100 ตัว) ซึ่งผมยิ้มแก้มปริ อีกไม่กี่วันเอาไปลองเวลามา ที่คลอง 5 FIRST RUN ทำได้ 11.7 วินาที ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ…
ส่วนปัญหาที่พบบ่อยหลังจากที่เราโมดิฟายเครื่องจนมีความแรงมากกว่าเดิม ก็คือ เพลาชอบขาด เนื่องจากผมชอบ MISSFIRING ออกตัว แล้วไม่อมคลัตช์ จึงขาดประจำ แต่ล่าสุดได้ใส่เพลาที่ R-SPEC2 โมดิฟายหัวเพลาขึ้นใหม่ ทนทานมากขึ้นครับ ฝากขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ที่ให้ผมมาตลอด ขอขอบคุณ พี่รุ่ง และทีมงาน R-SPEC2 GARAGE ที่ดูแลเซ็ตอัพรถคันนี้ทุกรายละเอียดครับ ขอขอบคุณ พี่ทูรย์ TOON ENGINE SHOP ที่ทำเครื่องดีๆ แรงๆ ทนๆ ให้ผมได้ขับได้ใช้ สุดท้ายนี้ TUM WINGS ขอฝากกิจการ ร้านแม็กซ์ ของร้านผมเอง ภายใต้ชื่อ “RACING SYSTEMS” เจ้าของสโลแกน ‘สีเปะก้านเด๊ะถูกสเปคเอวฟรี่ธิง” ใครสนใจล้อสวยๆ 08-6320-4990 line: tumcbo ด้วยครับ…
X-TRA ORDINARY
ในปี 1998 TOYOTA RACING DEVELOPMENT (TRD) ได้ออกแบบชุดบอดี้คิตขึ้นมาใหม่ เพื่อฉลองทีมแข่ง TRD 2000GT ที่ได้รับชัยชนะ ในรายการ GT-C JAPANESE RACING SERIES โดยชุดแต่ง 2000GT โดย WIDE BODY 100 มม. จึงมีช่วงล้อหน้าและหลังกว้างขึ้น 60 มม. (ทั้งนี้เป็นผลจากล้อและยางที่กว้างขึ้น) นอกจากนั้นยังมีชุดอัพเกรด เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ล้อ และภายในมาให้ครบเสร็จสรรพ เครื่องยนต์ รถเกือบทุกคันที่ออกจากโรงงานจะมีกำลังมากขึ้น โดยบางคันมีกำลังมากถึง 500 แรงม้า และมีน้ำหนักเบากว่า 1,100 กก. (2425 ปอนด์) คิดเป็นอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่น่าประทับใจมาก
TECH SPEC
ภายนอกชุดแต่ง : BORDER รอบคันตัวดักลม : BORDER CARBON FIBERโคมไฟหน้า : ASK SPORTไฟหน้า : RAYBRIGกระจกมองข้าง : CRAFT SQUAREFRONT CANARD : CARBON FIBER
- ภายใน ติดตั้งเกจ์วัดเพิ่มเติมอีก 7 ตัว จาก DEFI เรือนไมล์ และพวงมาลัย TRD
ภายใน
พวงมาลัย : TRD
เบาะคู่หน้า : RECARO LE MANS
เข็มขัดนิรภัย : SIMPSON
เรือนไมล์ : TRD
เกจ์วัด : DEFI 6 ตัว
ปรับบูสต์ไฟฟ้า : HKS
- ข้างกันชนหน้า เพิ่ม DOWN FORCE ด้วย CARBON CANARD เบรกคู่หน้าจาก TOYOTA SUPRA และล้อจาก VOLK RACING TE37 ขนาด 17 นิ้ว
ช่วงล่าง
โช้คสตรัทปรับเกลียว : TEIN SUPER STREET
เบรก : TOYOTA SUPRA
ล้อ VOLK RACING TE37 ขนาด 17×9.5 นิ้ว
ยาง : TOYO R1R หน้าขนาด 235/40/17 หลังขนาด 275/40/17
- ภาพมุมสูงของห้องเครื่อง ที่ถูกเจาะทะลุเพื่อการติดตั้งตั้งอินเตอร์คูลเลอร์ที่ย้ายมาไว้ด้านหลัง เป็นสูตรสำเร็จของ MR2 เนื่องจากห้องเครื่องไม่มีพื้นที่แล้ว การขยายอินเตอร์ให้ใหญ่ขึ้นก็เนื่องมาจากเปลี่ยนเทอร์โบใหม่ใหญ่และบูสต์มากขึ้น จำเป็นต้องขยายพื้นที่การระบายความร้อนให้กับไอดีให้ดีขึ้นตามไปด้วย โดยเทอร์โบ เป็นของ GReddy T78-33D
เครื่องยนต์ : 3S-GTEรีเทนเนอร์ วาล์ว : HKSสปริง วาล์ว : HKSแคมชาฟท์ ไอดี-ไอเสีย : HKS 272 องศา ลิฟต์ 9.2 มม. และ 272 องศา ลิฟต์ 9.15 มม.ลูกสูบ : 2JZ-GTEก้านสูบ : EAGLE
แบริ่งชาฟท์ : CARRILLO
นอตฝา +ก้านสูบ : ARP
เทอร์โบ : GReddy T78-33D
เวสต์เกต : TAIL 44 มม.
ท่อไอเสีย : TITANIUM
อินเตอร์คูลเลอร์ : TRUST
ลิ้นปีกผีเสื้อ : R SPEC2
ตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง : MALLORY
ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง : SARD
หัวฉีด : SARD 1,000 ซี.ซี.
กล่องควบคุม : HKS F-CON V PRO 3.1 VERSION
- เบาะนั่งตรงยุคกับ RECARO LE MANS พร้อมเข็มขัดนิรภัยจาก SIMPSON
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : ธรรมดา 5 สปีด
คลัตช์ : OS TWIN PLATE
ลิมิเต็ด สลิป : TRD