MR2 SUPER ORANGE SUPER WIDE BODY 3S-GTE + T67-25G @ 428 hp by R SPEC2

 

เรื่อง  พงศ์พล จันทรัคคะ / ภาพ  ทวีวัฒน์ วิลารูป

จาก SOUPED UP THAILAND RECORDS 2014 ที่ TOYOTA MR2 ของทีม R SPEC2 ทำลายสถิติรถแดร็กเมืองไทย มาอยู่ที่ 9.974 วินาทีเป็นคันแรก!!! เมื่อรถพร้อม คนขับพร้อม รถเซตอัพทุกอย่างลงตัว เวลาจึงออกมาดีตามที่ รุ่ง เจ้าของอู่ R SPEC2 ตั้งใจไว้ที่จะเห็นเลขตัวเดียวในบอดี้นี้  ด้วยประสบการณ์และการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ประสบความสำเร็จ ส่วนอะไรที่ผิดพลาดก็เป็นครู สำหรับอู่ R SPEC2 ยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ทั้งเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังสูตรใหม่ คาดว่าสิ้นปีนี้คงได้เห็นเลขตัวเดียวกันอีกครั้งแน่นอน…

นอกจากผลงานรถแข่งเซอร์กิตและแดร็ก ที่ทาง R SPEC2 ได้สร้างชื่อเสียงไปแล้ว จากพัฒนาการในสนามแข่ง นำมาปรับใช้กับรถถนน R SPEC2 ยังรับปรับแต่ง MR2 เพื่อการใช้งานทุกๆ วันตามที่ลูกค้าต้องการ รวมทั้งบอดี้ TOYOTA หรือ NISSAN บอดี้อื่นๆ ก็รับทำด้วยเช่นกัน สำหรับในฉบับนี้ ทางทีมงานได้จุดสนใจจาก MR2 คันสีส้มที่เห็นอยู่นี้ แค่ภายนอกก็อลังการด้วยชุดบอดี้พาร์ท WIDE BODY ที่ทางเจ้าของมีต้นแบบมาจาก SILVIA S15 ของทีม TOYO TIRES DRIFT WITH GP SPORTS มาผสมกับไอเดียเจ้าของรถเอง โดยโป่งด้านหน้าทำจากวัสดุเหล็กเคาะขึ้นรูป ส่วนโป่งหลังเป็นไฟเบอร์กลาส ด้านท้ายบนฝากระโปรงหน้า ออกแบบ SNORKEL ทรงสูง สไตล์รถแข่ง SUPER GT พร้อมหลัง GT WING ขนาดใหญ่ สไตล์ VOLTEX ผลงานทั้งหมดออกมาสวยงามแบบที่เห็น เป็นผลงานของอู่ ACMIC AUTO SPORT ย่านศรีนครินทร์

ส่วนเครื่องยนต์ 3S-GTE ทางอู่ R SPEC2 ปรับแต่งไปบ้างในส่วนของท่อนบน เปลี่ยนแคมชาฟท์ไอดีและไอเสียเป็นของ JUN ลูกสูบ 2JZ-GTE ที่ราคาไม่แพง แต่มีความทนทาน ส่วนท่อนล่าง เสริมความแข็งแรงในรอบสูง กดแช่ยาวๆ และมีความลื่นที่สูง ด้วยเมนแบริ่งทั้งหมดของ CALICO ส่วนเทอร์โบที่นำมาใช้สร้างความแรงในสเต็ปใช้งานแบบไม่ต้องรอรอบมากนัก เป็นของ GReddy T67-25G บูสต์ 1.5-1.7 บาร์ ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 ควบคุมด้วยกล่องจาก A’PEXi POWER FC นอกจากนั้น ระบบส่งกำลังอัพเกรดเพียงชุดคลัตช์จาก OS GIKEN เพียงเท่านี้

COMMENT เจ้าของรถ คุณอ๊อด

ผมชอบรถในตระกูล TOYOTA เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และหน้าที่การทำงานของผมคลุกคลีอยู่กับ TOYOTA มาตลอด ที่ชอบ MR2 เพราะมีเอกลักษณ์ของรถเครื่องยนต์วางหลัง ส่วนที่มาโมดิฟายกับอู่ R SPEC2 เพราะว่ามีเพื่อนๆ ในคลับ MR2 แนะนำมาก่อน เพราะอยู่ในโซนเดียวกันแถวสมุทรปราการ ก็เซอร์วิสกับอู่นี้มาโดยตลอด หลังจากโมดิฟายในสเต็ปนี้ไปแล้ว ฟีลลิ่งขับสนุกกว่าเดิม ขับไม่ยาก สบาย ใช้งานได้ทุกวันจริงๆ ครับ ฝากขอบคุณ ทีมงาน R SPEC2 ทุกๆ คน โทร.08-1903-1440, ร้านออกแบบชุดแต่ง บอดี้พาร์ท ACMIC AUTO SPORT โทร. 08-9170-3006, 08-7937-8287

COMMENT รุ่ง R SPEC2

คันนี้ทำตามคอนเซ็ปต์เจ้าของรถ หลักๆ คือเน้นขับใช้งานและซิ่งได้ด้วย แอร์ต้องเย็น  แรงม้าไม่ต้องเยอะมาก ผมจึงเลือกเทอร์โบไม่ใหญ่มากนัก ส่วนไส้ในเปลี่ยนลูกสูบใหม่ แคมชาฟท์ เพื่ออัพแรงม้าได้เพิ่มขึ้น สเต็ปนี้ 428 แรงม้า จริงๆ แล้ว แรงม้ายังเพิ่มได้อีก เครื่องยังรับได้แต่เราต้องการใช้รอบเพียงเท่านี้ เน้นขับง่าย แรงม้ากำลังดี

XTRA ODINARY

TOYOTA MR2 รถแข่งแดร็กที่ถือว่าเร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันยังเป็นของนักแข่งชื่อ IVAN VASILYEV เคยสร้างสถิติไว้ที่ 9.678 วินาที (E.T.) ที่ความเร็ว 233.84 กม./ชม. ในรายการ RUSSIAN DRAG RACING CHAMPIONSHIP 2014 ใน CRIMEA

ขอขอบคุณสถานที่ GOLF PERFECT CAR ถ.กิ่งแก้ว

Max Power : 428.67 hp @ 7,000 rpm

Max Torque : 48.12 kg-m @ 6,200 rpm

คันนี้ทางเจ้าของรถ และช่าง ตั้ง Step ว่า ขอ “ขับถนนแบบสนุกๆ” ไม่ถึงกับแรงโหดมาก มีมันส์ตอน Shoot ทางตรงบ้าง สำหรับกราฟที่แสดงออกมา Power Band จะค่อนข้างไปทางรอบสูง อันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องปกติของเครื่องยนต์ขนาดประมาณนี้ ผมขอพูดรวมโดยรวมนะครับ กราฟแรงม้า (เส้นสีแดงเข้ม) กราฟแรงบิด (เส้นสีส้ม) ออกจะดูยากนิดนึง ช่วยเล็งๆ หน่อยแล้วกัน ช่วงที่ “แรงมา” จริงๆ ก็ตั้งแต่ 5,000 rpm มีแรงม้า 200 hp ทะยานเป็นมุมชันไปถึง 6,000 rpm ได้แรงม้ามา 400 hp หลังจากนั้น กราฟจะค่อยๆ นอนตัวลง จนถึง 7,000 rpm ก็หยุดการวัด ซึ่งกราฟแรงม้าก็ยัง “ทรงตัวอยู่” ไม่ตกครับ แต่ก็ไม่ขึ้นแล้ว ส่วนแรงบิด จะมาทรงเดียวกับแรงม้า แต่จะขึ้นจุด Peak ที่ 6,200 rpm แล้วก็ทรงตัว ค่อยๆ โรยตัวลงจนถึง 7,000 rpm ช่วงนี้ก็เฉลี่ยอยู่ไม่ต่ำกว่า 40 kg-m ถ้าจะให้รถคันนี้ Shoot ไปได้อย่างต่อเนื่อง ก็ต้อง “ใช้อัตราทดเกียร์” ที่ชิดขึ้นมาอีก (Close Ratio) เพื่อให้รอบอยู่ใน Power band รถก็จะไปได้ต่อเนื่องดี แต่เกียร์อัตราทดชิดก็มีข้อเสีย คือ “ใช้รอบเครื่องสูง” และ “ขับใช้งานไม่ดี” คันนี้เน้นขับใช้งานด้วย ก็เลยคงอัตราทดเกียร์ของเดิมเอาไว้ ซึ่ง “ขับสบาย” กว่า ก็อยู่ที่ว่าต้องการอะไรเป็นหลักครับ…

TECH SPEC

ภายนอก

ชุดแต่ง : SUPER WIDE BODY รอบคัน BY ACMIC AUTOSPORT

กระจกมองข้าง : GANADOR

สปอยเลอร์หลัง : VOLTEX CARON BY VICTOR RACING

ไฟเลี้ยวหน้า : CRYSTAL BLACK

ไฟท้าย : LEXUS STYLE BLACK

ภายใน

พวงมาลัย : KEY’S RACING รุ่น FOSSA MAGNA

เบาะ : BRIDE ZETA III

เข็มขัดนิรภัย : TAKATA

กระจกมองหลัง : ZOOM ENGINEERING

เกจ์วัด : DEFI 4 ตัว

ปรับบูสต์ไฟฟ้า : GReddy PROFEC B SPEC II

โรลบาร์ : SAITO ROLL CAGE 6 จุด

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ : 3S-GTE

สปริงวาล์ว : JUN

แคมชาฟท์ไอดี-ไอเสีย : JUN ขนาด 264 องศา ลิฟต์ 9.0 มม.

เฟืองแคมสไลด์ : HKS

ลูกสูบ : 2JZ-GTE

เมนแบริ่ง ชาฟท์ : CALICO

เทอร์โบ “ GReddy T67-25G

เฮดเดอร์เทอร์โบ : ปรีชา เฮดเดอร์

เวสต์เกต : GReddy TYPE R

หม้อพักไอเสีย : GReddy RS

อินเตอร์คูลเลอร์ : BLITZ

ออยล์คูลเลอร์ : GREX

หัวฉีด : SARD 800 ซี.ซี.

ตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง : HKS

หัวเทียน : NGK IRIDIUM 8

กล่องควบคุม : A’PEXi POWER FC จูนโดย ตู่ โคราช

ระบบส่งกำลัง

เกียร์ : ธรรมดา 5 สปีด

ด้ามเกียร์ : TRD SHORT SHIFT

ชุดคลัตช์ : OS GIKEN TWIN PLATE

ลิมิเต็ดสลิป : TRD

ช่วงล่าง

โช้คสตรัทปรับเกลียว : TEIN FLEX

ค้ำโช้คหน้า-หลัง : CUSCO

เหล็กกันโคลังหน้า-หลัง : TRD

ล้อ : ENKEI RACING รุ่น RPF1 ขนาด 18 x 9.5 และ 18 x 10.5 นิ้ว

ยางหน้า : FALKEN ZIEX ZE912 ขนาด 215/35ZR18

ยางหลัง : DUNLOP DIREZZA ขนาด 265/35ZR18