NAGAOKA PRESENT ! R32 GTR NISMO + FUJIMURA AUTO AEROPART : RB26 STREET USED BY PRO STREET

เรื่อง อภิชาติ พิชญพิธาน / ภาพ ทวีวัฒน์ วิลารูป

NAGAOKA PRESENT !

GODZILLA R32 GTR

NISMO + FUJIMURA AUTO AEROPART

RB26 STREET USED BY PRO STREET

NAGAOKA CAR CLUB ย่านปากเกร็ด มีทีเด็ดมาโชว์ให้เราชมเสมอ ครั้งนี้ไม่พลาดงัดตัวเด็ด กับ GODGILLA R32 GTR มาเผยความแรงตามคอนเซ็ปต์ STREET USED ในแบบครบครัน ทั้งความแรงและความหล่อในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน

ลุคภายนอกดูเรียบง่ายแต่ดุดัน ด้วยการผสมผสานระหว่างชุดแต่ง NISMO และ FUJIMURA AUTO

ภายนอกจับ NISMO มิกซ์ FUJIMURA AUTO

ก่อนเจาะลึกถึงตัวรถ เราได้มีโอกาสคุยกับ ตูน (เจ้าของรถ) ซึ่งเค้าเล่าว่า บอดี้ R32 ตอนแรกไม่ได้ชอบเลย แต่พอมาสัมผัสรู้สึกว่านั่งสบาย ขับง่าย ใช้งานได้ทุกวัน รวมถึงตัวเองเป็นคนตัวใหญ่ พอขับ RX-7 รู้สึกว่าอึดอัด ถ้าเป็น R32 น่าจะเหมาะกว่าเยอะ เมื่อได้บอดี้ที่ลงตัว ขั้นตอนการทำจึงเริ่มขึ้นอย่างไม่รอช้า

ภายนอก ตอนที่ได้รถมาอยู่ในสภาพแบบเดิม ๆ ก่อนจะนำมาปรับลุคใหม่จนสุดอย่างที่เห็น เริ่มด้วยการทำสีที่ไม่มีให้เห็นทั่วไป กับการนำมาผสมขึ้นใหม่ตามความชอบของตัวเอง ก่อนจะบรรเลงใส่ชุดแต่ง เริ่มกันตั้งแต่ กันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง และฝากระโปรง ที่นำของค่ายเฉพาะแบรนด์ NISMO มาใช้ ตามด้วยการเสริมความหล่อล้ำให้ไม่ซ้ำใคร จากชุดสเกิร์ตหน้า-หลัง และสปอยเลอร์ ของสำนัก FUJIMURA AUTO

RB26 STREET USED BY PRO STREET

เรื่องของความแรง ทาง ตูน ตั้งใจให้ออกมาเป็นรถ STREET USED โดยปรึกษากับทางอู่ PRO STREET ว่าอยากได้ประมาณ 700-800 แรงม้า โดยบูสต์ไม่เยอะมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเล่นแบบเทอร์โบคู่ 500 แรงม้า ที่ขับง่ายกว่า แต่ด้วยความอยากลองเล่นอะไรแปลกใหม่ จึงทำให้หันมาคบกับเทอร์โบเดี่ยวดูบ้าง

ขั้นตอนการทำเครื่อง RB26DETT ตัวนี้ถูกวางแผนทำกันทุกจุด โดยเน้นจุดอ่อนของเครื่อง อย่างเรื่องแรงดันน้ำมันในรอบสูง ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ปั๊มน้ำมันเครื่อง JUN และขยายอ่างน้ำมันเครื่องเพิ่มความจุให้มากกว่าเดิม

เมื่อแก้ไขปัญหาจุดอ่อนเรียบร้อย ก็มาต่อที่พื้นฐานความแรง ด้วยการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายใน ตั้งแต่ท่อนล่าง กับลูกสูบ HKS ขนาด 87 มิลลิเมตร พร้อมเปลี่ยนสลักก้านสูบไปใช้ของ ARP และจุดรองรับแรงอย่างแบริ่งชาฟท์ก็นำของ NISMO มาใช้เพื่อความทนทานเช่นกัน

ส่วนท่อนบนอย่างชุดฝาสูบ จัดมาพอประมาณ ตั้งแต่ปะเก็นฝาสูบ HKS 1.3 มิลลิเมตร ต่อด้วยชุดวาล์ว สปริงวาล์ว และรีเทนเนอร์ จาก JUN ที่ขาดไม่ได้เลยคือแคมชาฟท์ โดยเลือกใช้ของ HKS ขนาด 272 องศา และระยะยก 10.3 ทั้งด้านไอดี-ไอเสีย

RB26DETT มนต์เสน่ห์แห่งความขลัง ที่ถูก PRO STREET จับมาปรุงแต่งเพิ่มความแรงตามคอนเซ็ปต์ STREET USED และที่คานหน้ามีการเสริมของเล่นกับแผ่นบังลม จาก GARAGE DEPEND

เมื่อชิ้นส่วนภายในพร้อมแล้ว สิ่งที่ตามมาคือองค์ประกอบต่าง ๆ ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นระบบอัดอากาศที่จับเทอร์โบลูกโตอย่าง GReddy T88-34D มาใช้ พร้อมติดตั้งเวสต์เกตแยก HKS คุมบูสต์ 2 บาร์ รวมถึงหันไปใช้อินเตอร์คูลเลอร์ A’PEXi HYBRID โดยมีท่อทางเดิน TITANIUM จาก CHAN INTER ก่อนเข้าสู่ INTAKE MANIFOLDขนาดใหญ่ของ GReddy ทางด้านระบบน้ำมันเชื้อเพลิง มีการนำปั๊ม PIERBURG มาใช้ รวมถึงเปลี่ยนรางหัวฉีดเป็นของ GReddy พร้อมหัวฉีด SARD ขนาด 1,000 C.C. และควบคุมแรงดันในระบบด้วยตัวปรับจาก AERO MOTIVE ส่วนระบบจุดระเบิด ทำการเปลี่ยนไปใช้หัวเทียน GReddy เบอร์ 9 และคอยล์จาก FIT เมื่อเครื่องยนต์พร้อมแล้วในทุกส่วน เรื่องของ ECU คืออีกประเด็นสำคัญ เพราะต้องมีการปรับจูนให้เหมาะสม กล่อง HKS F-CON V PRO 3.1 จึงถูกเลือกมาปลดปล่อยพลังให้กับเครื่องตัวนี้

ระบบส่งกำลังก็เป็นอีกจุดที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแรงม้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว คงไม่สามารถถ่ายทอดลงพื้นได้หมด ถ้าระบบส่งกำลังไม่ดีพอ ทาง PRO STREET จึงทำการเปลี่ยนชุดคลัตช์ใหม่ โดยเลือกใช้ของ OS GIKEN แบบ 3 แผ่น ไม่เพียงเท่านั้น เฟืองท้ายยังมีการเปลี่ยนเป็น 3.9:1 (เดิม 4.1:1) พร้อมเสริม LIMITED SLIP จาก NISMO เข้าไปอีกด้วย

ช่วงล่าง TEIN

ล้อ TE37

เบรก PROJECT MU

มาถึงช่วงล่างกันบ้าง ใน GODZILLA R32 คันนี้ มีการทำกันแบบครบ ๆ ตั้งแต่ชุดช็อคอัพแบบสตรัทปรับเกลียวของ TEIN รุ่น FLEX ต่อด้วยการเสริมเหล็กค้ำช็อคหน้า-หลัง โดยเลือกใช้ของ KANSAI และด้านล่างยังเพิ่มความพิเศษอีกนิด ด้วยการเพิ่มหนวดกุ้งจาก TEIN ในด้านหน้า และชุดลิงค์ ORT ในด้านหลัง เพื่อการปรับตั้งมุมล้อให้เหมาะสมตามต้องการ

ทางด้านล้อ จัดการนำ VOLK RACING TE37 มาใช้ โดยเลือกขนาด 18×10.5 นิ้ว ทั้ง 4 ล้อ ส่วนยางเลือกใช้ BRIDGESTONE POTENZA RE01R ขนาด 265/35R18 นอกจากนี้ยังมีชุดเบรก PROJECT MU ซึ่งด้านหน้ามาแบบ 6 pot กับจานขนาด 380 mm. และด้านหลัง 4 pot กับจานขนาด 345 mm.

ล้อยอดฮิต TE37 ขนาด 18×10.5 นิ้วทั้งหน้า-หลัง พร้อม UPGRADE ชุดเบรกเป็น PROJECT MU หน้า 6 pot และหลัง 4 pot

ภายใน มาแบบ FASION STYLE

ภายใน จัดมาชุดใหญ่ด้วยแฟชั่นครบครัน กับตัวครอบคอนโซลคาร์บอนไฟเบอร์จากญี่ปุ่น ก่อนติดตั้งเกจ์วัด DEFI ที่มีมาแบบชุดใหญ่ ส่วนพวงมาลัยเลือกใช้ NARDI และมีปรับบูสต์ไฟฟ้า GReddy PROFECT B ติดตั้งไว้ที่คอพวงมาลัย แต่ทีเด็ดต้องยกให้เบาะ BRIDE STRADIA II JAPAN VENUS ซึ่งพิเศษตรงที่ด้านหลังเป็นสีรุ้ง และยังมีเพียงไม่กี่คู่ในไทย

BRIDE STRADIA II JAPAN VENUS รุ่นล่าที่มาแบบพิเศษ กับด้านหลังสีรุ้ง

สำหรับการทำรถคันนี้ ทาง ตูน บอกว่า ถ้ามีของแต่งไรฮิต ๆ ก็จับมาใส่หมด อยากให้ครบ ๆ บางอย่างไม่ได้ชอบแต่เขาบอกว่าดีก็เอา ซึ่งตอนนี้ทำออกมาเสร็จก็ยังไม่ได้จูน เพราะยังอยู่ในช่วงรันอิน รถเพิ่งเสร็จมาได้อาทิตย์กว่า โดยทางอู่จะให้คำแนะนำว่าสเต็ปนี้ต้องใช้ของอะไรบ้าง เช่น เทอร์โบอะไร หัวฉีดเท่าไหร่ ท้ายสุดนี้ทาง ตูน ฝากขอบคุณ S-CAR, อู่ PRO STREET, อู่สี NARONG & CHARIN บางใหญ่ และเพื่อน ๆ NAGAOKA

คอนโซลหน้า จับใส่ตัวครอบคาร์บอนฯ และเสริม DEFI ชุดใหญ่ ส่วนพวงมาลัยจับใส่ NARDI พร้อมแปะรีโมตปรับบูสต์ GReddy ไว้ด้วย

X-TRA ORDINARY

OS Giken RB30 Engine Block Kit GT-R RB26 ชุดขยายความจุเป็น 3.0 ลิตร ซึ่งในชุด นอกจากจะมีลูก ก้าน ข้อ แล้ว ยังมีไลเนอร์บล็อกการ์ด และอแดปเตอร์ต่อบล็อกเสื้อสูบให้สูงกว่าเดิม ซึ่งล่าสุดมีการขยับเป็น RB315 KIT (3.15 ลิตร)