Q&A Online
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
บ่องกงๆ…โคตรคิดถึง… คิดถึงบรรยากาศที่ได้คุยกับผู้อ่าน กลับมาอีกครั้งกับ Question Time ในรูปแบบของ Q&A Online ที่ปรับรูปแบบการตอบคำถามต่างๆ ในเว็บไซต์ของ XO AUTOSPORT เฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง อาจจะมีเลยๆ ไปบ้าง ตามความขี้เกียจ เอ้ย ตามความถี่ของคำถามที่มีเข้ามาจากแฟนๆ ที่ Inbox มาถามใน Facebook หรือจะคำถามจากคนรอบด้าน ถ้าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับส่วนรวม “จัดให้ครับ” โดย “พี สี่ภาค” เจ้าเก่า งานนี้เป็นคำถามจาก “สายดีเซล” ครับ…
ส่งข่าวกันหน่อยครับ ถ้าใครมีคำถาม ช่วยโพสต์บนหน้า Facebook ของ XO AUTOSPORT ได้เลยครับ จะสามารถเห็นได้ง่ายกว่า Inbox ทางเราจะได้ตอบอย่างรวดเร็ว (เว้นแต่ข้อมูลที่ต้องสอบถามและค้นคว้าอาจจะต้องรบกวนรอนิดนึงครับ) ขอบคุณครับ…
Q : ISUZU MU-7 VGS Turbo เครื่อง 3,000 C.C. เกียร์ Auto ปี 2006 รถมีปัญหาครับ เกียร์เข้าไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ หรือรื้อมาซ่อมคุ้มกว่ากันครับ…
A : ISUZU ที่ตอนนี้เป็นรถที่นิยมนำมาแต่งกันมาก สำหรับตัว MU-7 ก็ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์สไตล์ PPV (Pick Up Platform Vehicle) ที่ใช้พื้นฐานที่ “ดัดแปลงมาจากรถกระบะ” สมัยก่อนถ้าเป็น ISUZU สไตล์นี้ก็ต้องเป็นแบรนด์ “ไทยรุ่ง” แต่ MU-7 จะเป็นรถสไตล์ PPV ที่ ISUZU ได้ผลิตขึ้นมาเองทั้งคันเป็นรุ่นแรกของค่าย สำหรับข้อที่เกิดปัญหากับรถคุณนั้น คือ “เข้าเกียร์แต่เสือกไม่ยอมไป” ซะงั้น อาการพื้นฐาน ก็คือ “โซลินอยด์และวาล์วน้ำมันเกียร์ไม่สามารถกักแรงดันไว้ได้” ทำให้แรงดันน้ำมันเกียร์รั่ว ไม่วิ่งไปตาม Circuit วงจรสมองเกียร์ เกียร์ก็ไม่ทำงาน หรือ ทำงานแต่วิ่งได้เกียร์เดียว ไม่ยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์อื่น ไม่ต้องกลุ้มใจครับเพราะมันเป็นไปตามอายุการใช้งาน แต่ตานี้ MU-7 มันก็มีเกียร์อยู่ 2 รุ่น แยกตามปีไปอีก แล้วแต่ Supplier OE ที่ผลิตมาต่างกันในรถแต่ละปี ซึ่งมีข้อที่แตกต่างกันพอสมควรครับ แยกกันคนละส่วนดีกว่า…
ถ้าเป็น MU-7 ที่ผลิตก่อนปี 2007 ก็คือรุ่นของคุณนี่แหละครับ จะใช้เกียร์ออโต้ของ JIDECO หรือ “ไจด์โก้” แต่ศัพท์ช่างทั่วไปก็จะเรียก แจ๊ดโก้ หรือ จั๊ดโก้ หรือ เจงโก้ ตามความเคยชินของแต่ละบุคคล ตานี้ เกียร์ JIDECO จะมีจุดอ่อนที่ว่า “ต่อยอดยาก” เพราะอะไรอย่าถามเพราะกรูก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าเป็นรถใช้งานปกติทั่วไปแบบเดิมๆ แนะนำให้โอเวอร์ฮอลเกียร์ ค่าใช้จ่ายเตรียมไว้ “สามหมื่นมีทอน” อะไรประมาณนี้ ราคานี้คือ “ทำชุดใหญ่” นะ แต่บางเคสอาจจะไม่จำเป็นเพราะมันอยู่ที่ว่าอะไรเจ๊งมั่ง ถ้าไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดมันก็จะถูกลงไปอีก แต่ส่วนใหญ่ก็จะทำทีเดียวหมดจะได้ใช้กันยาวๆ ครับ…
แต่ถ้าเป็นรถปี 2007 เป็นต้นไป จะใช้เกียร์ออโต้ของ AISIN (ไอซิ่น) ซึ่งจะมีข้อดี คือ “ทนกว่า” และ “อะไหล่หาง่าย” โคตรมหาแพร่หลายของรถญี่ปุ่นและยุโรปก็ต้องแบรนด์นี้แหละ ตัวกลไกเกียร์ส่วนใหญ่สามารถใช้อะไหล่ร่วมกันกับรถญี่ปุ่นค่ายอื่นๆ ได้อีก เช่น TOYOTA, MITSUBISHI ฯลฯ ด้วยความ “เยอะ” ของมันนี่แหละจึงได้ “ราคาถูก” ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบ สำหรับรถที่ผลิตก่อนปี 2007 เกียร์ JIDECO ถ้าต้องการโมดิฟายความแรงเพิ่ม และใช้กันยาวๆ ก็ต้องเปลี่ยนเกียร์เป็นของ AISIN ซึ่งหาของได้ง่ายกว่า การเปลี่ยนก็ต้องยกเกียร์ขึ้น และ เอาชุดสายไฟกับกล่อง ECU ที่ควบคุมระบบมาใช้ทั้งหมดครับ ไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง ตัวเกียร์เฉยๆ อยู่ราวๆ “สี่หมื่นห้า” เบ็ดเสร็จรวมค่าแรง สายไฟ ก็แถวๆ “หกหมื่นกว่า” อันนี้ออกตัวจะจ่ายแพงหน่อยแต่ได้ระยะยาว มันสามารถ “ต่อยอด” ได้มากกว่า เหมาะสำหรับพวก “สายแรง” โมดิฟายโดยใช้เกียร์ออโต้ มันสามารถปรับแต่งที่เกียร์เพิ่มได้มากกว่า ที่ต้องทำเพิ่มเพราะถ้าเจอแรงม้าเยอะๆ ตัวโซลินอยด์จะกักแรงดันไว้ไม่อยู่ พอรั่วออกเกียร์ก็ไม่เปลี่ยน ก็ต้องโมดิฟายตามไปด้วย อันนี้ก็ต้องไปหาช่างที่โมดิฟายเกียร์ออโต้ให้ทำ มีหลายสเต็ปแล้วแต่จะเลือกครับ…