เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)
Quick Time Hot Hatch
เปิดกบาล Stock Body CIVIC FK 11 sec
เร็วเร้าสุดในไทย by T-SPEED (TSP)
นับว่าในปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตออกมาด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้เกิดสมรรถนะที่สูงขึ้นกว่าสมัยก่อนแบบคนละโลก เครื่องยนต์เล็กลง (Down Sizing Engine) แต่กลับมีความ “ทรงพลัง” และ “ประหยัดเชื้อเพลิง” โดยการพึ่ง “เทอร์โบ” แน่นอนว่า กระแสนี้ตอนแรกคนไทยก็ “ต่อต้าน” โดยเฉพาะ HONDA CIVIC ทั้ง FC และ FK รุ่นขายบ้านเรา ที่ตัดสินใจเอาเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร + เทอร์โบ มาใช้ ท่ามกลางกระแส Social ที่ว่า “มันจะแรงเหรอวะ” เพราะเครื่องเล็กนิดเดียว แถมแบกตัวรถขนาดใหญ่ไม่พอ เสือกเป็นเกียร์ CVT อีก !!! จะโมดิฟายได้ไหม แล้วจะ “รอดหรือเปล่า” แน่นอนครับ ยังไม่ได้ลอง ก็พูดก็คิดกันไป แต่เมื่อออกมาจริงๆ แล้ว “ผิดคาด” ณ ตอนนี้กระแสของ CIVIC Turbo โดยเฉพาะ FK Hatchback นั้น มาแรงมากๆ และนี่เป็นผลงานจาก T-SPEED หรือ “ตุ้ม” ธีรพล สุศิลาพร ที่จับกระแสอะไรก็ดังไปหมด จัดการเพาะกล้ามใหม่ ให้ทำเวลาได้เร็วสุดถึง “11.6 วินาที” บนระยะ 402 เมตร ซึ่ง “เร็วสุดในไทย” แล้วตอนนี้ ลองมาดูกันว่าเขา “ใส่อะไร” ลงไปบ้าง และ “เซตยังไง” รวมถึง “ขับยังไง” ให้เร็ว…
New Gen พื้นฐานดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
โดยพื้นฐานแล้ว CIVIC FK นั้น ถือว่ามา “ดี” ตั้งแต่โรงงานเลยทีเดียวเชียว เครื่องยนต์ L15B7 ที่แม้จะมีความจุเพียง 1.5 ลิตร แต่ให้สมรรถนะที่จัดจ้านไม่เบา ภายในทันสมัย หรูหราแบบสปอร์ต (แม้จะแอบขัดใจกับเรือนไมล์ดิจิทัลก็ตามทีเถอะ) ระบบช่วงล่างที่พัฒนาไปอีกระดับ โดยเฉพาะด้านหลังที่จะไปแนว “ยุโรป” ปีกนกล่างจะค่อนข้างยาวมาก จะคล้ายๆ กับ SCIROCCO ที่ทำให้ Roll Center อยู่ต่ำ รถก็จะเข้าโค้งที่ความเร็วสูงได้ดี โดยมีอาการโคลงตัวน้อย ไม่จำเป็นต้องใส่สปริงแข็งมากๆ เพื่อต้านเอียง ทำให้รถมีการเกาะถนนดี และนุ่มนวล ซึ่งสมรรถนะโดยรวม “คุ้มราคา” อาจจะรู้สึกว่า “แพง” แต่ถ้าดูสิ่งที่ “ให้มา” ก็นับว่า “น่าเล่น” ไม่น้อย โมดิฟายเพิ่มไม่มากก็ “ขับมันส์” สำคัญ คือ “ยังใช้งานในชีวิตประจำวัน” ได้อย่างเป็นสุข อันนี้สิน่าคิด ว่ามันทำได้ยังไง…
จากเดิม รถคันนี้เป็นรถที่เอาไว้ใช้งาน ขับไปเรียน แต่ที่ดูหลักๆ น่าจะเอาไว้ “ซิ่งหญิง” ของ “โจโจ้ซัง” หรือ ชาย สวัสดี นักแข่ง Drag สาย H ที่คลุกคลีกับ T-SPEED มานาน (โดยที่ยังไม่โดนไล่ออกจากอู่) ตั้งแต่เป็นลูกค้า จนมาเป็นทีมงาน เป็นปกติที่จะ “เสี้ยนความแรง” ก็เลยปรึกษา “ตุ้ม” ว่าจะทำยังไงให้มันแรง ตอนแรกก็เริ่มจากสเต็ปง่ายๆ เช่น “กล่อง กรอง” ก่อน ไม่อยากผลีผลามเพราะถ้า “เดี้ยง” ไป หมายถึงงานมา เรียกว่าคันนี้เป็น “รถครู” ที่ค่อยๆ ให้ศึกษารายละเอียดการโมดิฟายต่างๆ จนมาถึงสเต็ป “เทพ” ในปัจจุบัน…
3 Stage ความแรง
สำหรับการโมดิฟาย CIVIC FC & FK 1.5 Turbo นั้น ทาง T-SPEED ก็จัด “สนองนี้ด” ให้กับลูกค้าสายซิ่งแบบ “ไม่ต้องคิดมาก” และยืนยันว่า การโมดิฟายทุก Stage นั้น “มีการรับประกัน” ถึงความทนทาน ไม่ต้องกลัวพัง และ “ส่งเวลาควอเตอร์ไมล์” ได้ ที่สำคัญ “ยังสามารถขับใช้งานได้ปกติ” อันนี้เน้นเลย เพราะส่วนใหญ่ก็จะมีรถเพียงคันเดียว หรือจะกี่คันก็แล้วแต่ ลูกค้าจะต้อง Enjoy กับรถที่ทำไปแล้วได้ตลอดเวลา จึงไม่สามารถทำทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ สำหรับการโมดิฟาย T-SPEED “จัดชุด” ให้เลือกทั้งหมด 3 Stage ดังนี้…
- Stage 1 : เริ่มกันง่ายๆ เบาๆ ด้วยรายการ “ไล่ข้าง” โดยมี กล่อง HONDATA + ชุดท่อไอเสีย TSP Racing มันส์ๆ กับแรงม้าระดับ 240-250 hp แค่นี้ก็ “หนาวดึ๋ง” ได้ในงบประมาณ “65,000 บาท” นะจ๊ะ…
- Stage 2 : เพิ่มมาอีกหน่อย แต่ยังคง “ไล่ข้าง” อยู่เช่นเดิม โดยมี กล่อง HONDATA + ชุดท่อไอเสีย TSP Racing + ชุดอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ และชุดท่ออินเตอร์ TSP Racing + เทอร์โบคิต TSP Racing ที่เป็นแบบ “หมกใบ” โดยใช้ Housing ของเดิม เปิดมาตำรวจไม่จับ กับแรงม้าระดับ “หนาวไข่” ที่ 260-290 hp กับงบประมาณ “130,000 บาท” ก็เสียวได้แล้ว…
- Stage 3 : จัดจ้านย่าน “ลำลูกกา” ด้วยแรงม้าระดับ “300 hp ++” พร้อมอาละวาดใน Track ได้ อันนี้จะต้องทำเครื่องเต็มระบบ โดยมี กล่อง HONDATA + ชุดท่อไอเสีย TSP Racing + ชุดอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ และชุดท่ออินเตอร์ TSP Racing + เทอร์โบ TSP Racing ซึ่งเป็นการ “เปลี่ยนยกลูก” ที่ทดสอบมาแล้วว่า “ได้ตลอดช่วง” ด้วยการหมดเทอร์โบไปเกือบ 10 ลูก บางลูก “ต้นจัด” แต่ “ปลายเอื่อย” บางลูก “ต้นหาย” แต่ “มาปลายอย่างเดียว” อันนี้ยิ่งแย่ เพราะรถเกียร์ออโต้ ถ้าไม่มีตีนต้นก็จบเห่ ออกรถ “บื่อ” ก็โดนทันที ก็เลยต้องหาสูตรผสมที่ลงตัวทั้ง “ต้น กลาง ปลาย” แล้วสั่งผลิตตามแบบที่ต้องการ และยังมี “ก้านสูบ” ของโมดิฟายจาก MRX ที่ผลิตให้มานับ 10 ชุด เพื่อให้ทดสอบจนกว่าจะแน่ใจว่า “ศรีทนได้” และสามารถให้ความมั่นใจกับลูกค้าได้ว่า “เหนียว” แน่นอน สเต็ปนี้จัดไป “300,000 บาท” ครับ…
- Special Stage : อันนี้เป็นสเต็ปของคันนี้แหละ ผลิตมาเพื่อเน้น “การทดสอบ” และ “การแข่งขัน” จึงมีอะไรพิเศษๆ ที่กำลังวิจัยต่อ ยังไม่ได้ขายสำหรับลูกค้าทั่วไป ไว้รอทุกอย่างลงตัวก็จัดให้ได้…
ปั๊มกลไกในเครื่องเบนซิน ???
ไอ้ที่เขาว่า “ดี” นี่ “มันดีตรงไหน” และ “มันดียังไง” ลองมาดูพื้นฐาน “สแตนดาร์ด” ก่อน สิ่งที่โดดเด่นในเครื่อง L15B7 ก็คือ “ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่เป็นการ Remix กันระหว่าง “ยุคโบราณ” กับ “ยุคใหม่” นั่นก็คือ การใช้ “ปั๊มเชื้อเพลิงแบบกลไก” เหมือนกับเครื่องยนต์ดีเซล เป็นการปั่นน้ำมันเข้ารางหัวฉีด ซึ่งจะมีแรงดันที่เสถียร เพราะ “ปั๊มมันหมุนตามรอบเครื่อง” ซึ่งมันก็จะสามารถคุมแรงดันที่เหมาะสมเอาไว้ได้ ลดโอกาสเสี่ยง “แรงตก” เหมือนปั๊มติ๊กไฟฟ้า ที่พอร้อนๆ หรือเกิดข้อผิดพลาด แรงดันจะตก ทำให้เครื่องแรงหาย หรือ “พัง” ได้ ถ้ารู้ไม่ทัน ส่วนปั๊มติ๊ก ก็จะทำหน้าที่เพียงส่งแรงดันเข้าปั๊มกลไกหน้ารถเท่านั้น…
สำหรับในด้านการ “จูน” ส่วนของการจ่ายน้ำมัน ด้วยแรงดันที่เสถียร ไม่แกว่งไปมา ทำให้ “จูนเนอร์” สามารถกำหนดค่าที่ดีที่สุดได้ง่าย ก็จะได้จุดที่ให้กำลังสูงสุด โดยที่ลดความเสี่ยงเครื่องพังลง และด้วยประสบการณ์ที่เคยทำ “ดีเซล คอมมอนเรล” มาก่อน ทาง T-SPEED จะรู้ว่าระบบมันเป็นอย่างไร และ “แก้ปัญหาอย่างไร” ถ้าเกิดเรื่องของ “เช็กเด้ง” ไฟโชว์ จากการที่เราขยับสเต็ปเครื่องยนต์เพิ่มแรงม้า อันนี้ “ตุ้ม” ขอเก็บเป็นความลับที่อุตส่าห์ “ทดลอง” จนสามารถแก้ปัญหาและรับจบได้ ในอนาคตก็จะทำของโมดิฟายในแบรนด์ TSP Racing ซึ่งเป็นของ T-SPEED สั่งผลิตตามสเป็กที่ตัวเองต้องการขึ้นมา เพื่อตอบสนองความแรงที่มากขึ้น แต่ ณ ตอนนี้ ปั๊มเดิมก็ถือว่า “โอเช” สำหรับแรงม้าในระดับ 300 กว่าๆ ซึ่งเป็นสเต็ปสูงสุด ณ ตอนนี้…
ข้อดีอีกอย่างที่ตามมา คือ “ใช้ปั๊มติ๊กเดิมได้” โดยไม่มีปัญหา เพราะหน้าที่การสร้างแรงดันจะอยู่ที่ปั๊มหน้าเครื่องแทน ซึ่งถ้าเป็นรถหัวฉีดทั่วๆ ไป จะต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กโมดิฟาย เพื่อเพิ่มแรงดัน และ “อัตราการไหล” ที่สูงขึ้น ดังนั้น สิ่งที่จะตามมาก็คือ “กินกระแสไฟมากขึ้น” และ “เสียงดังน่ารำคาญ” คนที่ใช้ปั๊มติ๊กซิ่งจะรู้ถึงปัญหานี้ดี โดยเฉพาะ “ปั๊มนอกถัง” นี่แทบจะถอดขว้างทิ้ง แต่นี่ไม่ต้อง ทุกอย่างยัง “เงียบ” เหมือนรถสแตนดาร์ด สามารถขับใช้งานได้ปกติสุขจริงๆ โดยที่แม่ไม่บ่น เมียไม่ด่า…
ออโต้ CVT อย่าคิดว่าขับไงก็ได้
มาถึงในเรื่องของการขับ โดยเฉพาะ Drag Racing จากประสบการณ์ของ “ตุ้ม” ที่แข่งรถมานาน ก็จะมี “เทคนิคพิเศษ” ในการขับ หลายคนอาจจะมองว่า จะไปยากตรงไหนวะ เกียร์ออโต้ CVT ก็แค่เข้าเกียร์ D เอาเท้าซ้ายเหยียบเบรก เท้าขวาย้ำคันเร่งเลี้ยงไว้ พอไฟเขียวก็ปล่อยเบรก กระทืบคันเร่งจมอย่างเดียว ง่ายจะตาย ตอนแรกผมก็คิดแบบนี้แหละครับ แต่พอได้ยินได้ฟังแล้ว ทัศนคติก็เปลี่ยนไป…
จากการที่เพิ่มแรงม้าให้มากขึ้น และตอนแข่งใส่ล้อ 15 นิ้ว เพื่อเพิ่มความจัดจ้านในตีนต้น (อันนี้สำหรับแข่งเท่านั้น) ถ้าเราจุ่มคันเร่งจมพรวดเลย คือ “ล้อฟรี” เพราะเกียร์ CVT พอจิ้มหมดดอกแล้ว รอบจะตวัดขึ้นพรวด พอล้อฟรีแล้ว “หน้าส่าย” ฉกไปมาตามประสารถขับหน้าที่ “เพลาฝั่งซ้ายและขวายาวไม่เท่ากัน” ทำให้ระยะ 60 ฟุต ไม่ดี สไตล์ของ “ตุ้ม” ก็คือ “ออกแค่ครึ่งคันเร่ง” แต่จะครึ่งน้อยครึ่งมากก็แล้วแต่แรงม้าและผิว Track อันนี้บอกไม่ได้ อยู่ที่ “ประสบการณ์” ให้รถออกไปได้ก่อน แล้วค่อย “ไล่มิด” ซึ่งจะต้องทำแบบ “ต่อเนื่อง” เนียนๆ ไม่ใช่กระทืบ แต่ใช่ว่าอ่านแล้วจะขับได้เลยนะ “ต้องซ้อม” จับจังหวะรถตัวเองให้ได้ครับ…
Max Power : 328.76 hp @ 6,000 rpm
Max Torque : 438.86 Nm @ 4,600 rpm
สำหรับตัวเลขแรงม้าของคันนี้ ถ้าเทียบกับรถเดิมๆ ที่มีแรงม้า 173 hp จากสเป็กโรงงาน เพิ่มขึ้นมาถึง 155.76 hp เรียกว่า “เกือบสองเท่า” กันเลยทีเดียว จริงๆ แรงม้าสูงสุดที่วัดไว้อีก Run คือ 334 hp ตามที่ “ตุ้ม” บอก แต่ดันลืมถ่ายมา สำหรับเส้นกราฟแรงม้า (เส้นล่าง) ดูเรียบๆ เนิบๆ อาจจะไม่ “โดด” เป็นภูเขาให้ตื่นเต้นกันนัก แต่ดูดีๆ มันเป็นกราฟที่มี Power Band กว้าง มีช่วงกำลังสูงสุดตั้งแต่ 4,600 rpm ไปยัน 6,200 rpm แล้วหยุดการวัด แต่กราฟก็ยังคงที่ไม่มีตก แต่แรงม้าก็ไม่ค่อยขึ้นแล้ว คงที่อยู่แถวๆ นี้ เพราะเครื่องตัวนี้ยังใช้ “แคม” และ “ฝา” เดิมๆ อยู่ เลยไม่จำเป็นที่จะต้องฝืนลากรอบไปต่อให้เสียวเล่น…
มาดูกราฟแรงบิด (เส้นบน) เห็นแล้วก็ “ชอบใจ” เพราะมาแนวเดียวกัน จะเป็น Flat Torque คือ มาแล้วมาต่อเนื่อง อันนี้แหละสำคัญมากๆ สำหรับรถเกียร์ออโต้ ซึ่งรถเทอร์โบสมัยใหม่นี้ตัดคำว่า “รอรอบ” ไปเลย จะต้องมาต่อเนื่องให้ใช้เต็มๆ ตัวเลขอาจจะไม่มากนัก แต่ถ้าเทียบกับแบบตัวเลขเร้าใจ แต่ “รอรอบ” และ “ช่วงกำลังแคบมาก” ซึ่งอาจจะไม่เร็วกว่าก็ได้ สำหรับตัวเลขแรงบิดเดิมๆ จากโรงงาน อยู่ที่ 220 นิวตันเมตร แต่อันนี้เพิ่มไปถึง 438.86 นิวตันเมตร เท่ากับ “คูณสอง” เช่นเดียวกัน แล้วก็มาเต็มสัมพันธ์กับแรงม้า ทำให้มันสามารถไปได้เร็วแบบไม่คาดคิด นี่แหละ “ความสัมพันธ์” ที่ต้องการมากกว่าตัวเลขเพียงอย่างเดียว…
Comment : T-SPEED & TSP Racing
ตอนนี้เราก็เน้นการพัฒนาอุปกรณ์เสริมความแรงให้กับ CIVIC FK อยู่ครับ โดยใช้แบรนด์ TSP Racing เพราะมองแล้วว่าตลาดมันกว้างและไปได้ไกล ด้วยความที่รถมีสมรรถนะดีมาตั้งแต่ดั้งเดิม เลยสามารถต่อยอดได้ง่าย นอกจากความแรงแล้ว ยังมีด้านการขับขี่ในความเร็วสูงที่ดี นิ่ง ควบคุมง่าย รวมถึงความนุ่มนวล ในสไตล์รถ New Gen ซึ่งนอกจากจะแรงแล้ว มันก็ยังสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันจริงๆ อีกด้วย อีกอย่างหนึ่งที่เราได้ทดสอบมาก็คือ “ไม่พังง่ายอย่างที่กลัวกัน” อย่างคันนี้ ผมใช้บูสต์สูงถึง 2.3 บาร์ แข่งมาหลายสนาม ขับใช้งานด้วย เปลี่ยนก้านอย่างเดียว แต่อย่างอื่นก็ไม่พัง รวมไปถึง Stage ต่างๆ ที่เราทดสอบและ Play Safe ให้กับลูกค้า จนกล้ารับประกัน รวมไปถึงเกียร์ CVT ที่ลองกันมาแล้วว่าทนแรงม้าได้เยอะ โดยไม่ใจเสาะ สำหรับ Project คันนี้ ก็ขอเอาไว้ “ทรงนี้” ก่อน เป็น Full Stock Body ขับถนนได้ แต่ Project ต่อไป ก็จะเป็น CIVIC FK อีกคันหนึ่ง ซึ่งจะทำกันเต็มสูตร โดยหลักก็คือ การ “ลดน้ำหนัก” เพราะตอนนี้อ้วนไปหน่อย แบกน้ำหนักอยู่ 300 กก. เพราะอยากวิ่งรายการ Souped Up ในรุ่น Super 1500 Turbo แต่ขอศึกษาก่อนว่าจะทำออกมาแบบไหนให้ถูกกติกา ไว้รอชมกันครับ…
Comment : อินทรภูมิ์ แสงดี
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเจ้า CIVIC FK ซึ่งเป็นรถที่มีน้ำหนักมากพอสมควร กับเครื่อง 1.5 ลิตร เทอร์โบ แถมยังเป็นเกียร์ CVT อีก จะสามารถโมดิฟายและวิ่งเวลาได้ในระดับ 11 วินาที ซึ่งถ้าย้อนไปในอดีตสัก 15 ปีที่แล้ว รถที่จะวิ่งเวลาขนาดนี้ได้ ก็จะต้องเป็นพวก CEFIRO 2JZ รุ่น SUPER 6 2WD แรงม้าระดับ 600 hp ขึ้นไป แม้จะบอกว่าเป็น Street Used แต่เดินเบากระเส่าบึ้บบั้บ ขับใช้งานจริงทุกวันก็ไม่ไหว แต่นี่รถแค่ 300 กว่าแรงม้า ไปได้ขนาดนี้ มันต้องมีความ “ลงตัว” ในส่วนอื่นๆ จึงจะใช้กำลังได้คุ้มค่า และที่สำคัญ โมดิฟายแล้ว ยังสามารถขับใช้งานได้เหมือนรถสแตนดาร์ด ส่วนอื่นๆ ก็คงไม่มีอะไร เพราะได้บอกไปแล้วในเนื้อเรื่อง สรุป ถ้าอยากรู้ว่าดีจริงหรือไม่ “มาดูและมาลองด้วยตัวเอง” ของชอบ บอกกันไม่ได้…
X-TRA Ordinary
สำหรับเรื่องราวของ “ตุ้ม T-SPEED” นั้น ถ้าเป็นวัยรุ่นยุค “มิลเลนเนียม” ก็จะคุ้นเคยกันดีสำหรับเจ้า VOLVO 740 สีแดง วางเครื่อง JZ ตามสมัยนิยม เรียกว่าเป็น “รถครู” ที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ แล้วก็ค่อยๆ แก้ปัญหาไป จนเข้ามาสู่วงการ Drag ด้วย CEFIRO สีแดง 2JZ มาลงแข่งในรุ่น SUPER 6 2WD และได้ “แชมป์” ในรุ่นมาครอง ด้วยเวลา 10.399 วินาที เมื่อปี 2010 ซึ่งจากประสบการณ์จากรุ่นนี้ ทำให้ “คุมคันเร่งได้ดี” เพราะรถยางเรเดียล แรงม้ามาก ไม่มีทางที่จะขยี้อย่างเดียวได้ เลยเป็นประสบการณ์ประจำตัว (สังเกตคนที่ขับรุ่นนี้เก่งๆ จะออกตัวได้เร็วและไม่ค่อยเสียอาการ) แล้วก็มาจับกระแส “คอมมอนเรล ดีเซล” และมากระแส “พันห้าเทอร์โบ” ก็ได้ขึ้นปก XO autosport กับ “Brio หอยแดง” ระดับ 600 hp เมื่อ 3-4 ปีก่อน แล้วก็รอดูในรุ่น SUPER 6 2WD ที่ซุ่มทำอยู่ ปลายปีนี้รู้กัน…
TECH SPEC
ภายนอก
ฝากระโปรง : Carbon by TSP
สเกิร์ตหน้า : Carbon by TSP
ภายใน
เบาะ : RECARO SPG
เครื่องยนต์
รุ่น : L15B7
ก้านสูบ : MRX
เทอร์โบ : TSP Racing
ท่ออินเตอร์ : BRD + TSP Racing
อินเตอร์คูลเลอร์ : BRD
กรองอากาศ : K&N
หม้อพักไอเสีย : G-PIPE EXHAUST
กล่อง ECU : HONDATA by Give Tuner
ช่วงล่าง
โช้คอัพ : TEIN
ล้อหน้า : WELD Magnum ขนาด 8 x 15 นิ้ว
ล้อหลัง : WELD Magnum ขนาด 4.5 x 15 นิ้ว
ยางหน้า : MICKEY THOMPSON E.T DRAG ขนาด 22-8-15 นิ้ว
ยางหลัง : HOOSIER ขนาด 22-4.5-15 นิ้ว
บรรยายภาพ
- ดูๆ ภายนอกยังเรียบเฉย สไตล์ Sleeper ที่ไว้หลอกแดกชาวบ้าน กับความแรงระดับ 11.6 sec ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว กับ “บอดี้บ้าน เกียร์ CVT” เรียกว่า “เร็วสุดในโลก” แล้ว สำหรับ CIVIC 1.5 Turbo เกียร์ CVT แบบ Stock Body
- จะออกแนว “เสือหมอบ” หน่อยๆ เพราะใส่ล้อ 15 นิ้ว สำหรับการแข่ง Drag Racing เท่านั้น แรงแค่ไหน ก็ดูผลงานจาก HONDA Day ที่ผ่านมาเอาเอง
- พอใส่ล้อ WELD Magnum เข้าไปแล้ว ลุค “เมก๊า เมกา” แต่ถ้าวิ่งถนนใช้งานจริงๆ “โจโจ้” จะใช้ล้อ VOLK SE37 ไว้แรดรับหญิง
- สำหรับ CIVIC FK เรียกว่าเป็นรถที่สมบูรณ์แบบจากโรงงานในราคาและระดับชั้นขนาดนี้ ที่พื้นฐานดี โมดิฟายให้แรงได้ง่าย รวมไปถึงการทรงตัวที่ดีในความเร็วสูง แต่ติดว่าน้ำหนักเยอะไปหน่อย ว่าไม่ได้ เพราะตัวรถมีขนาดใหญ่ และโครงสร้างแข็งแรงมากขึ้น ก็ต้องหาทางลดน้ำหนักเอาเองใน “คันใหม่” ส่วนคันนี้ก็เก็บ “ทรงบ้านๆ” แบบนี้เอาไว้ เดี๋ยว โจโจ้ ไม่มีรถรับหญิง
- ตอนแข่งจะใช้ล้อ 15 นิ้ว ยางขนาด 22 นิ้ว ซึ่งไม่ใหญ่มาก เล็กกว่าขอบ 17 นิ้ว เดิมๆ เยอะ เพราะต้องการ “ลดโหลด” การใส่ล้อเล็กลง เหมือนกับการเพิ่ม “อัตราทดเฟืองท้าย” ให้จัดขึ้น เนื่องจากแรงม้าไม่ได้มากมายนัก แถมยังเป็นเกียร์ออโต้ CVT เลยต้อง “ลดภาระ” ให้ได้มากที่สุด โอกาส “ฟรีทิ้ง” มีมากขึ้น ซึ่ง “ตุ้ม” ก็ต้องอาศัยการเลี้ยงคันเร่งช่วยเอา อาศัยประสบการณ์จาก SUPER 6 2WD มา แต่การใส่ล้อเล็กก็ต้อง “สูญเสียความเร็วปลาย” ไป แต่ไม่ซีเรียส เพราะไม่ได้ใช้ Top Speed จริงๆ ถ้าวิ่งถนนก็ใส่ล้อ 17 นิ้ว ตามปกติ ให้การเกาะถนนและความเร็วปลายที่เหมาะสม
- ลดภาระด้วย “ล้อเดฟ” ในด้านหลัง ซึ่งล้อที่ใช้ในการแข่ง Drag Racing จะมีคำแนะนำว่า Drag racing use only หรือ Use for drag racing not for street ติดล้ออยู่เลย ชัดเจนคือ “ห้ามเอาไปใส่วิ่งถนน” เพราะล้ออะลูมิเนียมเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้รับแรงกระแทกจากถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งก่อนหน้านี้มีอยู่ช่วงหนึ่งนิยมใส่ล้อพวกนี้วิ่งถนนกัน โดยเฉพาะพวกที่ใส่ “ล้อหน้าเดฟ” วิ่งถนนอันตรายมาก ยางหน้าแคบมาก การเลี้ยวและเบรกก็แย่ ใช้ให้มันถูกทางครับ
- ท่อไทเทเนียม จาก G-PIPE เพิ่มการ Flow ของไอเสียให้ได้มากขึ้น
- อินเตอร์คูลเลอร์ “อัปเกรด” จาก BRD สำหรับคันนี้ แต่สำหรับ Stage 2-3 จะเป็นของ TSP Racing ที่ต้องเปลี่ยนเพราะต้องปรับบูสต์เพิ่ม อินเตอร์เดิม Flow ไม่พอ ทำให้ไอดีอั้น ร้อนและไม่แรง แต่เมื่อเปลี่ยนอินเตอร์ใหม่แล้ว อย่าลืม “กั้นทางลม” ให้ดี เพื่อดักลมให้ไปเป่าได้อย่าง “เต็มใบ” เป็นการระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- 11.บอกเลยภายใน “โคตรบ้าน” มีเบาะ RECARO SPG คู่เดียวพอ ตอนแข่งก็รื้อเบาะหลังออก เรียกว่ากลายร่างเป็น “กระบะหัวเดี่ยว” คันนี้ขับไปสนามเอง ไม่ง้อรถสไลด์ แถมยังแบกล้อ ถังน้ำมัน ฯลฯ ไปอีก ใช้กันคุ้มเลยทีเดียว
- L15B7 ไส้ในมีเพียงก้าน MRX อย่างเดียว ก็เอาแรงม้าขนาดนี้อยู่สบาย ในอนาคต TSP ก็จะขยับสเต็ป เช่น แยงฝาสูบ เปลี่ยนปั๊มกลไก ไว้รอทดสอบเสร็จได้เสียตังค์กันตามใจชอบเลย
- 16.คันนี้เป็นชุดท่ออินเตอร์ BRD ส่วนท่อดูด (Suction) เป็นไทเทเนียม ส่วนท่ออินเตอร์ เป็นท่ออะลูมิเนียม แบบ “ดัดโค้งไร้รอยคอด” เพราะต้องการให้อากาศที่อัดออกมาจากเทอร์โบนั้น Flow ที่สุด เพราะมีความเร็วและความร้อนสูง (จากการรีดและอัดโดยใบพัด Compressor) จึงไม่ควรที่จะไปทำให้มันสะดุด