R35 Dry Cabon Body Part : ดุ ดิบ เพิ่มศักยภาพด้วยคาร์บอน โดย TKF

 

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี  / ภาพ: ธัญญนนท์ แสงภู่ 

B & W TKF R35

                ความนิยมของ R35 GT-R ก็ยังไม่ตกหายไปไหนเลยจริงๆ ด้วยสมรรถนะที่ “ครบถ้วน” ของตัวรถ ถูกพัฒนามาให้ทั้งแรงและสามารถใช้งานได้จริง มีความสะดวกสบายสูง ประกอบกับเทคโนโลยีของระบบต่างๆ ที่ถูกพัฒนามาเป็น “รถยุคใหม่” โดยแท้จริง จึงเป็นการเปลี่ยนเทรนด์ไปจาก SKYLINE GT-R ที่เรารู้จัก แต่หลายคนก็ชอบตัวเก่ามากกว่า ด้วยฟีลลิ่งที่ยังเป็นเครื่อง RB26DETT และเกียร์ธรรมดา ตัวรถไม่ไฮเทคมากไป ยังมีความ “ดิบ” ให้ควบคุมได้ โดยเฉพาะ R32 ที่ตอนนี้หลายคนถวิลหา แต่มันก็เหมาะเป็น “รถเก็บ” ขับสนุกๆ บางครั้งมากกว่า ส่วน R35 เป็นรถใหม่ที่ใช้งานได้จริง เร็ว แรง สบาย แต่ฟีลลิ่งดิบๆ ก็หายไป กลายเป็นเทรนด์ของสปอร์ตยุคใหม่ ที่เอาความสบายเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เฉพาะ R35 GT-R เท่านั้น แม้แต่สปอร์ตยุโรปต่างๆ ก็ยึดถือแนวนี้กันทั้งสิ้น …

Dry & Wet carbon คือฉันใด  

สำหรับเรื่องของ “คาร์บอนไฟเบอร์” แปลไทยง่ายๆ ว่า “เส้นใยคาร์บอน” (Fiber = เส้นใย, เยื่อ) เริ่มต้นใช้กับรถแข่ง F1 ที่เน้นวัสดุแข็งแรงและน้ำหนักเบา เพื่อลดภาระในการขับขี่ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในการนำมาเป็นวัสดุในการผลิตชิ้นส่วนของรถสมรรถนะสูง ซึ่งเส้นใยคาร์บอนนั้น จะถูกผลิตขึ้นมาจาก “โพลีอะครีโลไนไทรด์” (Polyacrylonytrile หรือ PAN) กับ “ยางมะตอย” รวมกันเรียกว่า PAN-precursor เมื่อได้เส้นใยแล้ว ก็นำมา “สาน” (Weaving) กันเป็นผืนผ้า และกำหนดรูปร่างชิ้นงานด้วย  Mold ที่ผลิตจากไฟเบอร์ ซึ่งก่อนจะวางผ้าคาร์บอนฯลงไป ก็ต้องมีสารพ่นเพื่อกันการติด (Non stick) พอรีดให้แนบกับ Mold แล้ว ก็จัดการเคลือบด้วย Epoxy เพื่อให้เส้นใยเกาะกันแน่นหนามากขึ้น แบบนี้จะเรียกกันว่า Wet carbon สำหรับข้อเสียของมันบางประการ คือ ชิ้นงานอาจจะมีลอน คลื่น ไม่เรียบ หากใช้การเคลือบ Epoxy ที่ไม่ละเอียด (ส่วนใหญ่เป็นงานราคาประหยัด) และมีน้ำหนักมากกว่า Dry carbon เพราะต้องใช้ Epoxy โปะหลายชั้น กลายเป็นน้ำหนัก Epoxy 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใยคาร์บอน อยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์…

ส่วน Dry carbon ที่ว่าเทพนักเทพหนา จริงๆ ก็เป็นเส้นใยคาร์บอนเหมือนกัน แต่ขั้นตอนการผลิตมีความแตกต่างกันอยู่ Dry carbon ในการเคลือบ Epoxy จะใช้ “สุญญากาศ” (Vacuum) เพื่อให้เนื้อ Epoxy และสารเคลือบแข็งต่างๆ ซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อใยคาร์บอน ไม่ต้องพอกหนาหลายชั้น สิ่งที่ได้มาแน่ๆ ก็คือ “น้ำหนักเบา” กว่า Wet carbon อย่างเห็นได้ชัด ส่วนความแข็งแรงนั้น ส่วนใหญ่ Dry carbon จะมีความแข็งแรงและแน่นหนากว่า จริงๆ แล้ว Wet carbon ก็ใช่ว่าจะแย่กว่ามากนัก อยู่ที่คุณภาพเนื้อวัสดุด้วย สำหรับราคา Dry carbon แพงกว่าแน่นอน รูปลักษณ์ Dry carbon จะดูดิบๆ แห้งๆ ดูเผินๆ เหมือนติดสติ๊กเกอร์เลยครับ ส่วน Wet carbon จะดูเงางามกว่า เพราะมีตัวเคลือบ อะไรจะดีกว่ากันนั้น ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหน มีงบประมาณเท่าไร…

ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน : www.gruppemusa.com   

Tech Spec

ภายนอก

ชุดพาร์ท : TOP RACING Dry carbon

ไฟหน้า, ไฟท้าย : NISSAN GT-R 2014 Spec

ภายใน

จอ Display : MoTeC C125

เบาะ : BRIDE FIA (RECARO SPA Hans FIA)

เข็มขัดนิรภัย : TAKATA (Sparco)

พวงมาลัย : NARDI ORIDO STYLE (PERSONAL GRINTA)

โรลบาร์ : SAFETY 21

เครื่องยนต์

รุ่น : VR38DETT

เวสต์เกต : Force Motorsport

ชุดท่ออินเตอร์ : ART

อินเตอร์คูลเลอร์ : HKS GT800 Kit

โบล์วออฟวาล์ว : HKS

หัวฉีด : DYNAMIC INJECTOR 1,000 C.C.

รางหัวฉีด : GReddy

กล่อง ECU : COBB Tuning by TKF Racing

ชุดคายไอเสีย : ART

หม้อพักไอเสีย : HKS Racing Muffler

ระบบส่งกำลัง

เกียร์ : GR6

ช่วงล่าง

โช้คอัพ : TEIN Super Racing with EDFC

ล้อหน้า : BC Forged HB29 ขนาด 10 x 20 นิ้ว

ล้อหลัง : BC Forged HB29 ขนาด 11 x 20 นิ้ว

นอตล้อ : RAY’S

ยางหน้า : BRIDGESTONE POTENZA S001 ขนาด 255/35R20

ยางหลัง : BRIDGESTONE POTENZA S001 ขนาด 285/30R20

X-TRA Ordinary

                สำหรับ NISSAN GT-R R35 นั้น สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว คือ “เครื่องวางหน้า เกียร์วางหลัง” ซึ่งสมัยก่อนการวางเกียร์ท้ายรถ ที่เห็นก็คือรถอิตาเลียน ALFA ROMEO GIULIETTA แต่นั่นเป็นเพียงแค่รถขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเท่านั้น แต่ GT-R R35 มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออีกด้วย จึงถือว่า “เป็นรถสปอร์ตญี่ปุ่นรุ่นแรกในโลก ที่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องวางหน้า ใช้เกียร์แยกอิสระออกมาจากเครื่องยนต์” นับเป็นเทคโนโลยีที่ได้ผลในด้านการกระจายน้ำหนักอย่างดีเยี่ยมที่ GT-R มีให้…

 

ขอขอบคุณ : TKF RACING จ. สมุทรสาคร โทร. 08-3606-1111 หรือ Facebook/TKF Racing