Rare Lady : NISSAN FAIRLADY 280Z (S130)

 

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพ: ภูดิท แซ่ซื้อ 

โปรย : Rare Lady

NISSAN FAIRLADY 280Z (S130)

ดีเทลเนี้ยบ เต็มพิกัด จากปิยะการช่าง

สาวงามจากสรวงสวรรค์เป็นคำแปลของชื่ออันไพเราะของยอดรถสปอร์ตตลอดกาล “Fairlady” ที่มันกลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ของโลก Japan Classic/Retro ที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะได้มันมาครอบครอง โดยปกติเราจะเห็นกันแต่ 240Z ยอดฮิต ในรหัส S30 เป็นส่วนมาก ด้วยความที่มันเป็นต้นตำนานในการออกแบบรถสปอร์ตที่หน้ายาวเหมือนกับ JAGUAR E-Type ซึ่งยอมรับว่าหัวหน้าทีมออกแบบ คือ “Mr. K” นิคเนมที่สาย Fairlady หรือ Z รู้ทันทีว่าคือใครพร้อมทีมออกแบบได้โดนใจจริงๆ โดยเฉพาะสายอเมริกาที่นิยมชมชอบรถแนวนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีรุ่นที่ถูกลืมอีกรุ่นหนึ่ง คือ S130 ที่เป็นเวอร์ชันถัดมา ซึ่งยังคงกลิ่นอายของรุ่น S30 เอาไว้ แต่ปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้น เรียกว่าเป็นสไตล์รถยุค 80 แต่ว่าคนทั่วไปอาจจะยังไม่อินกับมันนัก เพราะนานๆ จะมีให้เห็นสักที แต่วันนี้เราจะมาอินไซด์กันกับคันนี้ ที่เป็น S130 ดูเลยว่ามีข้อพิเศษอะไรบ้าง ถึงนำมาให้ชมกัน

First “Turbo Z”

สำหรับเจ้า Fairlady Z รหัส S130 นี้ เกิดขึ้นในปี 1978 โดยใช้ทรวดทรงพื้นฐานของ S30 มาปรับปรุงใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น Second Generation สำหรับ Z-Cars สำหรับชื่อเรียกก็จะมีแตกต่างกันไปตามโซนที่จำหน่าย เช่น DATSUN 280ZX ก็จะเป็นชื่อในอเมริกาไม่ใช้คำว่า Fairlady ซึ่งตัว X นั่นก็หมายถึง S130 แต่ถ้า 280Z เฉยๆ จะหมายถึงตัว S30 เวอร์ชันสุดท้ายส่วน NISSAN Fairlady 280Z ก็จะเป็นชื่อเรียกในญี่ปุ่นนับว่าเป็นครั้งแรกของ Z ที่ใช้ชื่อ NISSAN (ส่วน DATSUN ก็จะใช้สำหรับรถปิกอัพจะเห็นได้ว่า BIG-M ตัวญี่ปุ่น กระจังหน้าจะเป็น DATSUN) ส่วนโลโกก็จะเปลี่ยนไปตามพื้นที่จำหน่ายด้วยเช่นกัน

การปรับปรุง S130 นั้น ถ้าเทียบกับ S30 แล้ว ก็ถือว่าชุดใหญ่เพราะเน้นสมรรถนะและความสะดวกสบายมากขึ้น ตัวถังดีไซน์เพิ่มความแข็งแรง อันนี้แก้จุดอ่อนของ S30 ที่คนเล่นบอกว่าโครงด้านหน้าไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร นอกจากนี้ ยังได้เรื่องการขับขี่ที่เสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงความปลอดภัยในการชน และการเก็บเสียงได้ดีขึ้น ในส่วนของระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเปลี่ยนแบบใหม่ จากเดิม S30 จะเป็นช่วงล่างแบบอิสระ Chapman Strut ลักษณะปีกนกจะคล้ายๆ A-Arm แต่มีแค่อันเดียวในแต่ละข้าง เป็นแบบยุคเก่า แต่ก็ถือว่าดีในยุคนั้น ส่วน S130 เปลี่ยนใหม่เป็นแบบอิสระ Semi-trailing arm ปีกนกจะเฉียง 45 องศา เหมือนกับ Bluebird 510, Skyline C10-R30 ประมาณนี้ เพื่อให้การเกาะถนนนั้นดีขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วงล่างสามารถให้มุมล้อได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะมุม Toe in เวลาปีกนกยุบตัว

ในส่วนของเครื่องยนต์ ก็ยังยืนยันเครื่อง 6 สูบเรียง บล็อก L อันเลื่องลือ (เพราะใช้มานาน) เหมือนเดิม ข้อดี คือเสื้อสูบหนาสามารถเพิ่มความจุได้มาก และทนทาน โดยมีเครื่องยนต์ชูโรง คือ L28E เป็นแบบหัวฉีดซึ่งหมดยุคคาร์บู SU” เพราะต้องการควบคุมมลพิษตามกฎ Emission control ความจุ 2.8 ลิตร เน้นแรงบิดกันอย่างมากมาย เอาเข้าจริงๆ จากที่เคยลอง ความจี๊ดจ๊าดสู้ L24 ใน 240Z S30 ไม่ได้ ประการหนึ่งรถหนักกว่าและเครื่อง L24 มีแรงม้าถึง 150 PS และรอบจัดกว่า” L28 เพราะปั่น 7,000 rpm ได้สบายๆ ส่วน L28E มีแรงม้าเพียง “145 PS” แรงม้าน้อยกว่า อย่างที่บอกไปว่ามันมีกฎหมายมลพิษคุมอยู่ ปล่อยในเอ๊ยปล่อยเต็มไม่ได้ ก็จะเน้นมาหนัก รอบไม่เยอะนักแต่มีดีที่ขยายความจุได้มากไปยัน 3.1 ลิตร ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีชุดโมดิฟาย Stroker kit ขายอยู่ อย่างแบรนด์ KAKIMOTO หรือ KAMEARI (คามิอาริ) เรียกว่าแรงโหดกว่าเดิมคนละเรื่อง จะ N.A. ยัด “3 คาร์บูนอนหรือจะยัดเทอร์โบก็ตามใจอยาก

ในส่วนของเทอร์โบจะเกิดขึ้นในปี 1981 เหมือนส่งท้ายรุ่นนี้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 300ZX รหัส Z31 ในปี 1984 เครื่องยนต์เป็น L28ET อัดพลังด้วยเทอร์โบ GARRETT TB03 พร้อม อินเตอร์คูลเลอร์ มีเรี่ยวแรงถึง “180 PS” ที่ 5,600 rpm ซึ่งเปิดตัวในอเมริกาและมีเฉพาะเกียร์ออโต้ ส่วนระบบพวงมาลัย จะเปลี่ยนจากกระปุกเป็นแร็คเพื่อให้ความแม่นยำสูงกว่า เรียกว่าเป็นสปอร์ตที่มีกำลังมาก อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ 7.4 วินาที ควอเตอร์ไมล์ 16.6 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 210 km/h อย่างสบายๆ เรียกว่าเป็น Japanese import sport car ที่เร็วสุดในอเมริกา ในส่วนตลาดอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย ยุโรป ญี่ปุ่น น่าเสียดายที่มีเฉพาะเครื่อง L28E อย่างเดียว เนื่องจากกฎกระทรวงคมนาคมในญี่ปุ่น ( ยุคนั้น) กังวลว่าเครื่อง L28ET นั้นมีความแรงเกินไปซึ่งจะอนุญาตการติดตั้งเทอร์โบในเครื่องไม่เกิน 2 ลิตร เท่านั้น ในปี 1982 ตัวเทอร์โบตลาดญี่ปุ่น จึงได้แค่ L20ET ที่ใช้ร่วมกันกับ SKYLINE HGC211 มาสิงสถิตเท่านั้น แรงม้าก็พอๆ กันกับ L28E เหมือนเป็นทางเลือกให้กับคนที่อยากได้ฟีลลิ่งเทอร์โบโดยจะเรียกรุ่นนี้ว่า Fairlady Z เฉยๆ ไม่มีตัวเลขกำกับ เป็นที่รู้กันว่าใช้เครื่อง 2 ลิตร แต่ถ้าเป็น Fairlady 280Z ก็จะเป็นเครื่อง L28E นั่นเองครับ

2 Seater & 2+2 & T-bar roof

สำหรับรูปแบบโดยหลักของ S130 นี้ จะแบ่งเป็นแบบ 2 Seater หรือสองที่นั่งซึ่งก็คือคันที่โชว์โฉมอยู่นี่เอง จะเป็นรถช่วงสั้นขอบซุ้มล้อหลังจะติดกับแนวประตู อีกรุ่น คือ 2+2 ก็จะเพิ่มความยาวช่วงล้อมาอีก 20 ซม. เพื่อให้ด้านหลังพอจะอาศัยได้” (แต่ก็อย่าหวังความสบายนัก) สำหรับจุดแตกต่างก็คือ ตัว 2+2 ซุ้มล้อหลังจะถอยห่างแนวประตู และกระจกหูช้างหลังจะเป็น “3 เหลี่ยมยาวส่วน 2 Seater จะเป็นแบบปลายไม่แหลมอธิบายยากว่ะ ดูในรูปรถจริงก็แล้วกัน ส่วนในปี 1980 ก็จะมี “T-bar roof” ออกมาให้เลือกทั้งสองรุ่นครับ

เนื้อตัวดี มาหาพี่

เสมือนกับนางงามที่เฟ้นหาสาวบ้านๆ เนื้อตัวดี ทรงดี มาขัดสีฉวีวรรณสักหน่อย เธอก็กลายเป็นดาวประดับฟ้าได้อย่างสบาย คงเป็นหนึ่งในใจของคุณเอ ณรงค์ชัยที่มีความคลั่งไคล้ในรถตระกูลนี้มาอยู่แล้ว มองว่า 240Z S30 นั้น มันมีเยอะ และราคาไปไกลเกินเอื้อมแล้ว ก็มามองตัวนี้ เออ มันก็สวยดีนะ แต่เอาจริงๆ มันกลับหายากกว่า S30 อีก เพราะความนิยมน้อยกว่า ไม่เป็นไรชอบซะอย่างก็เลยออกตามหาทั้งรถและอะไหล่ ตัวรถนั้นได้มาเป็น 2 Seater และเป็นรถ JDM แท้ๆ ด้วย ซึ่งปกตินั้นจะเจอแต่ 2+2 เป็นส่วนมาก คันนี้ได้มาสภาพดีมากๆ ของเดิมอยู่ครบทุกจุด สีแห้งๆ ไม่เคยทำ  ก็เลยรีบคว้าไว้เมื่อช่วงปีที่แล้ว

ส่วนเรื่องอะไหล่ ยอมรับว่าหายากเพราะอะไหล่ Re-product มันไม่มีมากมายเหมือน S30 ที่เล่นกันทั่วโลก ก็เลยต้องพยายามเสาะหาอะไหล่ใหม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ต้องการให้ใกล้เคียงสภาพ “Mint Condition” (ซึ่งเป็นรถเก่าที่ Built ด้วยอะไหล่ใหม่ เกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ต่อคัน) ใช้เวลารวบรวมอะไหล่ก่อนที่จะซื้อรถ ใช้เวลา 3-4 ปี เหมือนกัน พอพร้อมก็ให้พี่ยะแห่งปิยะการช่างช่วยในการ Built ขึ้นมาตามที่เราต้องการ ซึ่งพี่ยะบอกว่ารถคันนี้ทำง่ายมากเพราะอะไรมันก็ยังเดิมๆ หมดทุกจุด สำหรับงานสี จะใช้แบรนด์ “Glasurit” หรือสีนกแก้วตั้งแต่รองพื้นไปยันสีจริง เพื่อให้สีฉ่ำวุ้นโดดเด่นเป็นสง่า ส่วนการจัดทรง ก็อยากได้แนว Flush & Stance เพราะอยากได้ล้อกว้างๆ ใหญ่ๆ แต่ไม่ตัดตัวถังหรือใส่โป่งเย็บใดๆ ทั้งสิ้นต้องการตัวถังเดิม เลยต้องทำ Fitment ช่วย แล้วใส่ถุงลมเพราะต้องการให้รถคันนี้ขับใช้งานได้จริง สรุป คันนี้ออกมาโดนใจมากๆ คุ้มค่ากับการลงทุนและรอคอยครับ

X-TRA ORDINARY

พูดถึงตัวพิเศษกันหน่อยแล้วกัน ปี 1979 จะมี DATSUN 280ZX-R ในอเมริกา จะเป็นเวอร์ชันพิเศษ ชุดพาร์ท สปอยเลอร์หลังแบบ Whale tail หรือหางปลาวาฬแบบตัวแข่ง IMSA พร้อมสติกเกอร์คาดข้าง สีดำฟ้า กับอักษร ZXR ส่วนปี 1980 ก็ได้ออกตัว Limited Edition 10th Anniversary ฉลองครบรอบ 10 ปี Fairlady Z โดยเป็นสีทูโทนพิเศษคือทองดำและแดงดำมีจำนวน 2,500 คัน และ 500 คัน ตามลำดับ แต่น่าเสียดายสำหรับฝั่งเรา เพราะจะมีในอเมริกาเท่านั้น ส่วนในญี่ปุ่น ไอดอลก็จะเป็น Super Z จากหนัง TV ญี่ปุ่น “Seibu Keisatsu” หรือ “Western police” นั่นแหละ

Special Thanks

ปิยะการช่าง : Facebook/Piya Kranchang, Tel. 08-5919-9971

คุณเอณรงค์ชัย : เจ้าของรถ

โกดังแสงทองค้าข้าว : สถานที่ถ่ายทำ 

*เพื่อความสะดวก กรุณาดู Video ผ่าน Google Chrome