RX-8 Pandem : Swapping 2JZ 600 PS ++ @ PON PERFECTO Present

Souped Up Special : XO 262 (RX-8 Pandem)

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี                             
ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)  

เป็นที่น่าเสียใจแทนเจ้า RX-8 ที่ MAZDA เปิดตัวมาในปี 2003 เปลี่ยนแนวจาก RX-7 แล้วกลับไม่ได้รับความนิยม ด้วยรูปทรงที่กึ่งๆ รถซีดาน แถม “ประตูตู้กับข้าว” หลายคนอดจะผิดหวังกับเครื่องยนต์ Renesis ที่มีปัญหาแปลกๆ ใจเสาะ พังง่ายแบบไม่รู้สาเหตุ น่าเสียดาย มันเลยถูกกระแสของ RX-7 กลืนกลบไปตามกาลเวลา จนกลายเป็นรถที่ “นิยมเฉพาะทาง” ต้องคนชอบจริงๆ ถึงจะรักษามันไว้ หนึ่งในนั้นก็คือ “คุณพล PERFECTO” ที่ซื้อเจ้า RX-8 คันนี้มาตั้งแต่ป้ายแดง แต่…เหตุผลใดไม่ทราบ เครื่องยนต์ลาโลกไปอย่างรวดเร็ว เลยต้องจัดการ Swap กับบล็อกยอดฮิต 2JZ-GTE ไปตั้งแต่ยุค 10 ปีที่แล้ว ซึ่งรถคันนี้เคยลง Tuned by… เสียด้วย แล้วก็ “ยิงยาว” จนมาถึงปัจจุบัน ความ “กำเริบ” เมื่อเห็นชุด Pandem จาก TRA-Kyoto ด้วยการสะบัดปากกาของ “มิอูระซัง” เลยเหมือน “ศรรักปักอก” ต้องจัดการสานฝันตัวเองให้ “จัดจบ” จนมาเป็นภาพจริง แถมด้วยการ Decorate เป็น Oldies Racing Car ยอดฮิตในบัดนาว เอาเป็นว่า คันนี้สวยจริงซิ่งได้ ด้วยพลังกว่า 600 ม้า แบบต่อเนื่อง รวมถึงส่งเวลาควอเตอร์ไมล์ที่ “สิบเอ็ด” กับรถเกียร์ออโต้ แถมเทคนิคอื่นๆ ที่น่าสนใจ และน่าเสียดายมากที่ท่านจะเปิดผ่านมันไปเฉยๆ นะ จะบอกให้…

Pandem เปลี่ยนโลก RX-8
จากทรวดทรงเดิมๆ ของ RX-8 ที่ค่อนไปทางรถซีดานพันธุ์ผสมสปอร์ต ไม่ได้ออกลูกสปอร์ตพันธุ์แท้อย่าง RX-7 ความปราดเปรียวเลยไม่เท่าไร แต่น่าแปลกที่พอมาใส่ชุดพาร์ท Pandem แล้ว “โลกเปลี่ยน” ทำให้ดูปราดเปรียว ดุดัน ขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะส่วนท้ายรถที่ดูหนาๆ เพราะเจตนาทำมาเป็นรถแบบ 2+2 ที่นั่ง สามารถนั่งได้ 4 คน โดยไม่อัตคัดเกินไปนัก พอใส่พาร์ทแล้วมันลบความหนาเทอะทะที่ด้านท้ายไปได้อย่างหมดสิ้น นับว่าเลือกไม่ผิดจริงๆ สำหรับการสั่งพาร์ท Pandem ชุดนี้ จะเป็นผลงานจาก Infinite Motorsport ครับ และเป็น “คันแรกในไทย” สำหรับ RX-8 ที่ใส่พาร์ท Pandem ครับ เราไม่พลาดที่จะจัดให้งามๆ ดอกหนึ่ง…

TOMICA Group 5 “แดงในตำนาน”
Nostalgia คือ “การรำลึก” ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต ที่ทำให้เรามีความสุข แน่นอนว่า ในวัยหนุ่มทำงาน ที่หลุดจากวัยรุ่นมาแล้ว ก็จะต้องคิดถึงตัวแข่งสุดสวยและแรงโคตรในตำนานอย่าง Group 5 Racing ที่เป็นรถ Retro ยุค 80 แบบโป่งยักษ์ ที่ตราตรึงในใจพวกเรามาตลอดกาล อย่างคันนี้มาประจวบเหมาะกันที่ว่า แบบที่ออกมาของชุดพาร์ท Pandem จะเป็นสีแดง ทาง คุณพล ก็เลยจะคงสีแดงเอาไว้ แต่จะหาต้นแบบอย่างไรให้เหมาะเจาะ เลยไปนึกถึง SKYLINE SUPER Silhouette (สกายไลน์ ซูเปอร์ ซิลลูเอท) ทีมแข่ง HASEMI MOTORSPORT ที่มีสปอนเซอร์หลักอย่าง TOMICA เบอร์ 11 เลยนำมา Adapt ให้เข้ากันจนออกมาเป็น Old Racing Style อย่างที่ท่านได้ชมการออกแบบสติกเกอร์และลวดลายต่างๆ ก็เป็น Theme และฝีมือของ Infinite Motorsport อีกแล้วครับท่าน…

ไอเดียบรรเจิด ระบบ Auto Brake Hold แบบ “จูนเอง” !!!
ระบบ Auto Brake Hold จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ “เบรกทำงานตลอด โดยไม่ต้องเหยียบเบรก” เหมือนกับรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีสวิตช์เป็นสัญลักษณ์เบรก มีตัว A อยู่ในวงกลม เรากดเอาไว้เลยถ้าต้องการใช้มัน เมื่อเราเหยียบเบรกจนรถหยุดสนิท แช่เบรกไว้แป๊บนึง แล้วยกเท้าออกมาได้เลย เบรกก็จะ “ค้าง” ไว้ให้ หน้าที่เหมือนการ “ดึงเบรกมือ” อัตโนมัติ ไม่ว่าคันเกียร์จะอยู่ในตำแหน่ง D หรือไม่ก็ตาม มีประโยชน์มากตอนรถติดเขยิบๆ สลับหยุดนิ่ง หรือ “ตอนจอดบนเนิน” จะได้ไม่ต้องโยกมา P หรือดึงเบรกมือ ปลดเข้าปลดออกให้วุ่นวาย ระบบ Auto Brake Hold จะมาช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้น ตอนออกตัวก็เพียงเหยียบคันเร่งเบาๆ ระบบก็จะ “ปลดเบรก” ให้ขับได้อย่างปกติ…
มันก็คงไม่แปลกอะไร เพราะรถสมัยใหม่รุ่นแพงๆ หน่อย ก็มีมาให้อยู่แล้ว แต่ว่าในรถรุ่นก่อนอย่าง RX-8 อยากจะได้แบบนี้บ้างละ จะทำได้ไหม ??? คำตอบ คือ “ได้สิครับ” อย่างคันนี้ คุณพล เจ้าของรถ ที่มีทักษะในการจูนกล่อง LINKS EXTREME แล้วจะทำอย่างไรบนเงื่อนไขอันใดนั้น อ่านเลยครับ…
< ใช้ “สวิตช์เบิร์นยาง” เป็นหลัก ในการ “กักแรงดันน้ำมันเบรก” เพื่อให้เบรกค้างได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรก…
< ใช้ “ฟังก์ชัน” ในกล่อง โดยการกำหนดเงื่อนไขการทำงานของสวิตช์เบิร์นยาง และเชื่อมต่อกับ GPS โดยมีเงื่อนไขว่า “ความเร็วต้องเป็นศูนย์” และ “เหยียบเบรกค้างกี่วินาที” ระบบ Auto Brake Hold ถึงจะทำงาน ซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียว เท่ากับคันนี้มีระบบเบรกสองระบบเลย…
< หลังจากที่ระบบทำงานแล้ว ต้องการจะ “ไป” เพียงแต่เหยียบคันเร่ง ระบบก็จะปลดเบรก อันนี้เอาสัญญาณลิ้นเร่ง (TPS : Throttle Position Sensor) มาผนวกกัน เมื่อมีสัญญาณมาว่าเกิดการ “เร่ง” มันก็จะไปสั่งระบบให้ปลดล็อก ก็คือ “หยุดการทำงาน” นั่นเอง…

Max Power: 624.39 PS @ 5,830 rpm
Max Torque: 1,097.85 Nm @ 3,950 rpm
Dyno Test : 1000 Speed Dyno
บอกโดยสรุปนะครับ ว่ากราฟทั้งแรงม้าและแรงบิดของคันนี้ “ตัวเลขไม่มาก แต่กราฟน่ากลัว” เพราะอะไรน่ะเหรอ ??? ลองดูเลยครับ กราฟจะ “นอนราบ” เป็นที่นอนกันเลย โดยเฉพาะกราฟแรงม้า (สีแดงเข้ม) แรงม้าจะเริ่ม “ดีด” ตั้งแต่ 3,200 rpm นับว่าเทอร์โบไม่รอรอบเลย แค่ 3,700 rpm ก็ปาเข้าไป 550 PS ช่วง 4,000 rpm แค่นั้นเอง ส่วนแรงบิดก็ขึ้นจุดพีค “พันร้อยนิวตัน” หรือ “ร้อยกว่าโล” มากมายเหมือนเครื่องดีเซลแรงๆ เลยทีเดียว หลังจากนี้กราฟแรงม้าก็ยิงยาวไปยัน 6,000 rpm ก็หยุดการทดสอบ เรียกว่าได้แรงม้าระดับ 600 PS ตลอดช่วง “เหยียบยังไงก็มาตามตีน” ว่ายังงั้น ส่วนแรงบิดแม้จะเริ่มตกลงไปบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระหว่าง 1,000 ลงไปถึง 700 นิวตัน ซึ่งพอเหลือเฟือ ช่วงปลายๆ เราเอาแรงม้าเพื่อเพิ่มความเร็ว ช่วงที่ใช้แรงบิดในการ “เพิ่มอัตราเร่ง” จริงๆ ก็อยู่ราวๆ 4,000 rpm ที่เป็นจุดพีคนี่แหละ…
โดยสรุป เป็นกราฟแรงม้าที่ถูกใจและ “เหมาะสมสุดๆ” กับ “เกียร์ออโต้” ที่ต้องการความต่อเนื่องของแรงม้า มากกว่าตัวเลขแรงม้าที่ “เยอะ แต่มาแป๊บเดียวหมด” ทำให้รถขับง่าย ไม่รอรอบ กดยังไงก็มา แถมยังยกความดีให้กับระบบ VVT-i ที่ให้ Power Band มาดีตั้งแต่รอบต่ำไปถึงรอบสูง ซึ่งทาง คุณพล บอกว่า “ต้องการให้เป็นรถที่ขับมันส์แบบเหยียบก็มาเลย ไม่ชอบรอรอบ ไม่เน้นลากรอบสูง ขอช่วงที่มีให้คุ้มค่าที่สุด เครื่องก็จะทนด้วย” เรียกว่าสภาพหมอบๆ แบบนี้ วิ่งเวลา “สิบเอ็ดศูนย์” เลยนะครับ กับแรงม้าเพียง 600 PS กว่าๆ นี่แหละเป็นผลจาก Power Band กว้าง ที่ทำให้รถไปได้อย่างต่อเนื่อง แค่ตัวเลขอย่างเดียวมันบอกอะไรไม่ได้หรอก ว่ารถคันนั้นจะเร็วจริงหรือไม่…

Comment : พล PERFECTO
จะเรียกว่า “รักแรกพบ” ก็ว่าได้นะครับ เพราะพอ Pandem ออกรูป Render ตัวอย่างมา ก็รู้สึกว่ามันใช่เลย จากเดิม RX-8 ที่มันจะดูเรียบๆ พอใส่พาร์ทแล้ว มันดูซิ่งแบบอลังการมาก ผมก็เลยอยากทำเป็นคันแรกในไทย จริงๆ ส่วนตัวผมไม่ชอบรถมีโป่ง Wide Body สักเท่าไร เพราะดูมันหนาๆ อ้วนๆ ล่ำๆ และทรงของ RX-8 มันค่อนข้างใหญ่อยู่แล้ว แต่กับ Pandem ชุดนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น อารมณ์มันเหมือน “มีกล้าม มีสัดส่วน” ไม่ได้ดูหนาเทอะทะเลย และผมก็ใส่ชุด Air Suspension ของ AIRREX ทำให้รถคันนี้สามารถขับไปไหนมาไหนไกลๆ ได้อย่างสบาย ส่วนเครื่องยนต์ ตอนแรกก็มอง 13B-REW จาก RX-7 FD แต่ส่วนตัวผมไม่ถนัดโรตารี่ ก็เลยหันมาเล่นกับ 2JZ-GTE ที่ อึด ถึก ทน วางมาแล้วไม่มีปัญหา ใช้งานได้ปกติ ไม่ได้เอาแรงบ้าพลัง แต่ขอ “ตอบสนองดี” ท้ายสุด ก็ขอขอบคุณ “อู่ SPC GARAGE” ของ “พี่หนุ่ม โกดังฟ้า” ที่วางเครื่องและระบบต่างๆ ให้สมบูรณ์ อู่สี “Garage Plus” ในการประกอบพาร์ทและทำสี และ Infinite Motorsport ครับ…

Comment : อินทรภูมิ์ แสงดี  
พูดถึง RX-8 แล้ว เป็นรถที่ต้อง “เข้าใจ” มันหน่อย เป็นรถที่แต่งครึ่งๆ กลางๆ ไม่ดีแน่ ถ้าจะแต่ง ก็แค่เรียบๆ ลงตัว ออกแนว Clean หรือถ้าจะสุดก็ต้อง “จัดหนัก” ไปเลย ซึ่งพาร์ทก็ต้องดูอีก ถ้าเป็น Wide Body ต้องเลือกชุดที่ดู “ไม่หนา ไม่หนัก” ไว้ก่อน ไม่งั้นรถจะดูเป็นก้อนๆ บอกไม่ถูก (จากประสบการณ์ที่เคยเห็นมา) คันนี้ออกมาแล้ว “ใช่เลย” อย่างที่เจ้าของบอกเป๊ะๆ มันดูแล้วเหมือนนักกีฬา ที่มีกล้ามเนื้อและปราดเปรียว “ทรงพลัง” ส่วนที่ชอบก็คือ การกล้าวางเครื่อง Swap เป็น 2JZ-GTE ตั้งแต่สมัยยังป้ายแดง ตอนนั้นใครคิดละว่าจะกล้า วางเครื่องได้เรียบร้อยดีครับ และแนวคิดในการทำระบบ Auto Brake Hold ซึ่งเป็นจุดขายของคันนี้ เพิ่มเติมจากความแรงและสวยครับ ท้ายสุด ก็ต้องขอขอบคุณ “คุณพล” เจ้าของรถ และ “คุณกุ๊ก” จาก PERFECTO ที่นำรถสวยๆ มาให้ชมกันครับ…

X-TRA Ordinary
สำหรับ RX-8 นั้น จริงๆ มันก็มีตัวพิเศษเหมือน RX-7 นะ คือ “SPIRIT R” ชื่อนี้มีมาในตำนาน เป็น “Final Special Edition” ที่ออกจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 ผลิตมาเพื่อร่วมรำลึกฉลองชัยครบรอบ 20 ปี ให้กับ MAZDA 787B ที่ใช้เครื่อง 26B Quad-Rotors (4 โรเตอร์) ที่ผงาดแชมป์ใน Le Mans 24 Hours ในปี 1991 โดยผลิตมาเพียง “1,000 คัน” เท่านั้น !!! มีรุ่น TYPE RS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ TYPE E เกียร์ออโต้ Paddle Shift 6 สปีด (ตัวออกมาปีแรกๆ จะได้แค่ 4 สปีด ที่อืดเป็นเรือ) จุดพิเศษก็คือ สีเงิน SPIRIT R ไฟหน้าพิเศษ ล้อสีทองเข้ม เบาะ RECARO แถบแดง พร้อม Side Airbag ซึ่งปกติจะเป็น Option พิเศษในรถรุ่นธรรมดา…


TECH SPEC
ภายนอก
ชุดพาร์ททั้งหมด : Pandem by TRA-KYOTO Import by Infinite Motorsport
ฝากระโปรงหน้า : RE AMEMIYA
ไฟหน้า : SPIRIT R
ไฟท้าย : RE AMEMIYA
กระจังหน้า : RE AMEMIYA
ภายใน
จอ : Defi ZD Advance
เกจ์ : AEM A/F Ratio
เบาะ : SPIRIT R by RECARO
เข็มขัดนิรภัย : SIMPSON
พวงมาลัย : Autoexe
ปรับบูสต์ : GReddy Profec-B
เครื่องยนต์
รุ่น : 2JZ-GTE VVT-i
แคมชาฟต์ : HKS 264 องศา
เฟืองแคมชาฟต์ : HKS
เทอร์โบ : BORG WARNER EFR 9174
เวสต์เกต : HKS
เฮดเดอร์ : TREADSTONE
อินเตอร์คูลเลอร์ : TREADSTONE 4.5 นิ้ว
หัวฉีด : DEFUS 1,000 ซีซี. x 12
ตัวปรับแรงดันเชื้อเพลิง : Mallory
ปั๊มเชื้อเพลิง : WALBRO 450 ลิตรต่อชั่วโมง
รางหัวฉีด : BRD x 2
สายหัวเทียน : MSD
คอยล์จุดระเบิด : HALTECH IGBT
กล่อง ECU : LINKS Extreme by PON PERFECTO
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : 2JZ-GTE Automatic Stage 3 Modified by PON PERFECTO
ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ : TITAN MOTORSPORT 3,500 rpm Stalling
กล่องควบคุมเกียร์ : JSK
เพลาท้าย : SKYLINE GT-R
ช่วงล่าง
ชุดถุงลม : AIRREX
ล้อหน้า : 6666 Wheels ขนาด 9.5 x 18 นิ้ว ออฟเซต -30
ล้อหลัง : 6666 Wheels ขนาด 11 x 18 นิ้ว ออฟเซต -40
ยางหน้า : TOYO PROXES R888 ขนาด 245/40R18
ยางหลัง : TOYO PROXES R888 ขนาด 275/35R18
คาลิเปอร์เบรก : GReddy F. 6 pistons R. 4 Pistons
จานเบรกหน้า-หลัง : BREMBO

*เพื่อความสะดวก กรุณาดู Video ผ่าน Google Chrome

Special Thanks
PON PERFECTO : Facebook/Pon Narupon
Infinite Motorsport : Facebook/Infinite Motorsport
LASALLE’S AVENUE : ศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว เป็นศูนย์การค้าที่อยู่ในใจของลูกค้า สามารถตอบโจทย์ไลฟ์ไตล์คนในย่านบางนา-แบริ่ง ให้ลูกค้ามีความรู้สึกเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2  ที่ดึงดูดให้ลูกค้าออกมาศูนย์การค้ามากขึ้น โดยผ่านการสร้างสรรค์สถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างกรีนสเปซ การเป็น ฟู้ด เดสติเนชัน ที่ตอบโจทย์ไลฟ์ไตล์เรื่องของอาหารของทุกกลุ่มทาร์เก็ตได้ครบ ทั้งโซเชียลไลฟ์สไตล์ และแฟมิลี่ไดน์นิ่ง การจัดกิจกรรม Theme Market ที่หลากหลาย สร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับศูนย์การค้า ให้ลูกค้าที่มารู้สึกว่ามาได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ…