SKYLINE R34 (25GT-t) AUSTRALIA VERSION – RB26DETT HKS GT 2530 TURBO – HKS F-CON V PRO 547 hp

 

เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ / ภาพ ทวีวัฒน์ วิลารูป

SKYLINE R34 (25GT-t) AUSTRALIA VERSION

BEST LOOKING CAR 2004

RB26DETT HKS GT 2530 TURBO

HKS F-CON V PRO 547 hp

สำหรับ XO AUTOSPORT ฉบับส่งท้ายปี 2008 (Issue 146) พบกับ GODZILLA R34 จากค่าย UNICAR MOTOR SPORT ของนายโอ๊ต & อาร์ต ของพี่น้อง DUO สำหรับที่มาที่ไปของรถคันนี้ น้องๆ ทั้งสองคนได้เล่าให้ทีมงานของเราฟังว่า สมัยที่เรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ตัวเองชอบเรื่องรถเป็นทุนเดิม พร้อมกับซื้อรถสปอร์ตมาขับใช้งานทุกๆ วัน จึงเกิดโปรเจ็กต์อยากจะเปิดร้าน WORK SHOP เซอร์วิสและแต่งรถขึ้นมาบ้าง ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ เลยจัดแจงหาทำเลและตั้งร้านขึ้นมาในชื่อ HIPOWER RACING กิจการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเรียนจบ จำเป็นที่จะต้องกลับมาเมืองไทย เพื่อดูแลธุรกิจที่บ้าน ทำให้ WORK SHOP ที่ออสเตรเลีย ยกให้เพื่อนที่ร่วมลงขันกันมา 2-3 ปี ดำเนินงานต่อไป

พร้อมกันนั้นยังได้นำรถคู่ใจ  NISSAN SKYLINE R34 25GT-t คันโปรดกลับมาด้วย สำหรับ R34  คันนี้ ได้รับรางวัล BEST LOOKING CAR 2004   จากการเข้าประกวดที่  BRISBANE AUSTRALIA มาเป็นเครื่องการันตีความสวยงาม  จากนั้นทั้งนายโอ๊ต & อาร์ต ได้หาเวลาว่างจากการดูแลกิจการทางบ้าน มาเปิดร้านตกแต่งรถ พร้อมอุปกรณ์โมดิฟายในเมืองไทยอีกครั้ง ย่านถนนศรีนครินทร์เทพารักษ์ ในชื่อ UNICAR MOTOR SPORT จนถึงทุกวันนี้

ฝากระโปรงหน้า CARBON FIBER จาก SUN LINE RACING

ภายนอก C-WEST  + SUN LINE RACING

M SPEED + TOP SECRET

สำหรับคันนี้เป็นรุ่น 25GT-t  จากออสเตรเลีย ตกแต่งใหม่เป็นรุ่น GT-R พร้อมชุด WIDE BODY KIT รอบคัน โดยเลือกจุดเด่นและความชอบส่วนตัว จากของแต่งหลายสำนักเข้าด้วยกัน เริ่มจาก กันชนหน้าจาก C-WEST รุ่น N1 TYPE I  สไตล์ตัวแข่ง พร้อม CARBON FRONT CANARD ฝากระโปรงหน้าหนักเบาทำด้วย CARBON  FIBER จาก SUN LINE RACING จากนั้นเสริมความกว้างของโป่งล้อด้วยชุด WIDE FENDER KIT ขนาด 80 มม. ทั้งด้านหน้าและหลัง สไตล์ M-SPEED แบบเดียวกับตัวแข่ง R34 GT-R TIME ATTACK โดย KARN FIBER จากนั้นสานต่อด้วยสเกิร์ตข้างสไตล์ M SPEED เช่นกัน พร้อมกระจกมองข้างแบบตัวแข่งทางเรียบแบบ CARBON FIBER จาก CRAFT SQUARE และตกแต่งเสา C ด้านนอกด้วยชุด CARBON และไฟเลี้ยวโคมดำ ด้านหน้าด้านข้างจาก NISMO

ด้านท้ายเสริมแรงกดท้ายด้วยสปอยเลอร์หลังจากรุ่น GT-R พร้อมกันชนหลัง GT-R ต่อด้วยสเกิร์ตชิ้นล่างและไฟท้าย LED จาก NISMO ส่วนฝากระโปรงท้าย CARBON FIBER ลดน้ำหนักมาใช้ของแต่งจาก TOP SECRET จากนั้นจัดระเบียบลมใต้ท้องอกทางด้านหลังโดย REAR UNDER DIFFUSER แบบ CARBON จาก GT-R มาใช้ด้วยเช่นกัน

คอนโซลหน้าเพิ่มเกจ์วัดจาก DEFI, A’PEXi และ GReddy

เบาะคู่หน้า-หลังเดิม ถูกเปลี่ยนเป็นแบบบั๊กเก็ตซีตจาก R34 GT-R

ภายใน GT-R + DEFI

นอกจากด้านนอกที่ปรับแต่งไปพอสมควรแล้ว ภายในยังปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เริ่มจาก เบาะคู่หน้าหลัง จากรุ่น GT-R  แบบบั๊กเก็ตซีต พร้อมพวงมาลัยแบบสปอร์ตสามก้านจากรุ่น GT-R เช่นกัน หัวเกียร์ทรงกลม CARBON จาก VARIS จากนั้นเติมเต็มคอนโซลหน้าไม่ให้ว่างจนเกินไป ด้วยการติดตั้งชุดเกจ์วัดจาก DEFI อีก 4 ตัว และที่เสา A อีก 2 ตัว สำหรับ วัดบูสต์เทอร์โบ, วัดอุณหภูมิไอเสีย, วัดอุณหภูมิน้ำ, วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง, วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง และวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนั้นยังมีเกจ์วัดจาก A’PEXi  RSM ตัวปรับบูสต์ไฟฟ้า PROFEC B SPEC II   และ TURBO TIMER จาก GReddy

RB26DETT ฝาบนใช้ของแต่งจาก MINE’S พร้อมเทอร์โบ GT2530 x 2 กล่อง HKS F-CON V PRO จูนโดยพี่ใหม่ P&C GARAGE 547 แรงม้า สเต็ป STREET VERSION

RB26DETT จาก MINE’S

547 แรงม้า สเต็ป STREET VERSION

การปรับแต่งในส่วนของเครื่องยนต์ เรียกว่าใหม่ทั้งหมด โดยยกเครื่อง RB25DET เดิมออก นำเครื่องยนต์ที่อยู่ในบอดี้ GT-R รหัส RB26DETT มาใช้แทน พร้อมด้วยการปรับแต่งใหม่จากสำนัก MINE’S  ยกชุดโดยเริ่มจากท่อนบน เปลี่ยนรีเทนเนอร์ สปริงวาล์ว พร้อมแคมชาฟท์ เพื่อเปิดรับไอดีและคายไอเสียนานกว่าสแตนดาร์ด ขนาด 269 และ 252 องศา ลิฟต์ 10.5 มม. พร้อมเฟืองแคมสไลด์ จากนั้นเสริมด้วยปะเก็นลดกำลังอัดฝาสูบขนาด 1.2 มม. ท่อนล่างมีเพียงแบริ่งชาฟท์ ที่เปลี่ยนใหม่เพียงอย่างเดียว พร้อมกับขยายอ่างน้ำมันเครื่อง เพื่อการระบายความร้อนและจุน้ำมันหล่อลื่นได้มากขึ้น จาก ARC ส่วนระบบเพิ่มแรงดันไอดี อัพเกรดเทอร์โบเป็นของ HKS รหัส GT-2530 x 2  คุมบูสต์ขนาด 1.3-1.6 บาร์ ด้วยเวสต์เกตของ HKS ติดตั้งอยู่บนเฮดเดอร์สเตนเลสของ HKS หม้อพักไอเสียใบสุดท้ายจาก BULLET SPARTAN 505S TI

ทางด้านไอดี ปรับแต่งท่อทางเดินไอดีใหม่ พร้อม โบล์ว ออฟ วาล์ว จาก HKS รุ่น SSQV พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์จาก ARC ความหนา 4 นิ้ว จากนั้นหัวฉีดหลักเพื่อให้เพียงพอในรอบเครื่องที่สูงขึ้นขนาด 670 ซี.ซี.  จาก SARD และตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก  NISMO โดยเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงจาก WALBRO x 2 ส่วนระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัวเทียนเป็นของ DENSO เบอร์ 9 ชุดเพิ่มกำลังไฟของ HKS TWIN POWER และคอยล์จุดระเบิดจาก SPLITFIRE ทั้งหมดควบคุมด้วย HKS F-CON V PRO จูนโดย พี่ใหม่ P&C GARAGE นอกจากนั้นยังมีชุดแผงหม้อน้ำอะลูมิเนียม ถังพักน้ำ และชุดพูลเลย์ลดน้ำหนักจาก GReddy บังลมหม้อน้ำ CARBON จาก GARAGE DEFEND และ SUPER THERMOSTAT จาก BILLION

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด จาก RB25DET  พร้อมชุดด้ามเกียร์แบบ SHORT SHIFT ของ C’s และชุดคลัตช์จาก OS GIKEN แบบ TWIN PLATE โดยใช้ปั๊มคลัตช์ช่วยผ่อนแรงจาก NISMO อัตราทดเฟืองท้าย 4.1 พร้อมลิมิเต็ด OS GIKEN 1.5 WAY และเพลาขับซิ่งจาก GARAGE SAURUS

รถที่นำเข้ามาขายในประเทศออสเตรเลีย จะต้องมีเพลทสีเขียวๆ แบบนี้

■ REAR UNDER DIFFUSER แบบ CARBON พร้อมท่อทางเดินไอเสีย BULLET SPARTAN 505S TI

■ ระบบเบรกคู่หน้า PROJECT MU รุ่น SLIM แบบ 6 pot จานดิสก์เบรกรุ่น SCR-PRO ขนาด 332 x 28 นิ้ว พร้อมล้อแม็กจาก VOLK RACING รุ่น CE28N ขนาด 18 x 10.5 นิ้ว

ช่วงล่าง JIC + CUSCO

เบรก PROJECT MU  ล้อ VOLK รุ่น CE28N

ช่วงล่างสำหรับ STREET VERSION ใน R34 คันนี้ ตัวโช้คอัพเปลี่ยนเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวจาก  JIC พร้อมกับ FRONT TENSION ROD KIT พร้อมเหล็กกันโคลงหน้าหลัง จาก CUSCO ส่วน REAR UPPER CAMBER ARM KIT และ LINK ต่างๆ ก็ใช้ของ CUSCO  ค้ำโช้คหน้า CARBON จาก  JIC และค้ำโช้คหลังจาก CUSCO ส่วนระบบเบรกอัพเกรดคาลิเปอร์คู่หน้า จาก PROJECT MU รุ่น SLIM แบบ 6  pot จานดิสก์เบรกรุ่น SCR-PRO ขนาด 332 x 28 นิ้ว ส่วนระบบเบรกด้านหลังเป็นของ BREMBO จาก R34 GT-R  พร้อมด้วยล้อแม็กจาก VOLK RACING รุ่น CE28N ขนาด 18 x 10.5 นิ้ว ยาง DUNLOP DIREZZA SPORT Z1 ขนาด 275/35R18

ขอขอบคุณ คุณโอ๊ต & อาร์ต เจ้าของรถ จาก UNICAR MOTOR SPORT  & NARAKA ORIGINAL KING ที่สละเวลามาร่วมสนทนา และนำรถสปอร์ตสวยๆ มาให้เราชมกันอยู่เสมอ

UNICAR MOTOR SPORT โทร. 0-2759-8377, 08-1304-2277

ฝากขอบคุณ

สำหรับกราฟแรงม้าที่วัดออกมาได้ ถ้าใครสังเกตกราฟบ่อยๆ ก็สามารถจะเดานิสัยของเครื่องบล็อกต่างๆ ออกบ้าง ที่ HKS THAILAND จะวัดแรงม้าลงพื้น” (Wheel Horse Power) ลักษณะของกราฟเครื่องยนต์ RB26DETT  ก็อย่างที่ปรากฏครับ ก็คือมาในช่วงปลายช่วงกำลัง (Power Band) ไม่กว้างมากนัก ถ้าเทียบกับ 2JZ-GTE ที่มีความจุ 3.0 ลิตร อันนั้นกราฟจะมารอบต่ำกว่า ก็เป็นธรรมดาของเครื่องความจุน้อยแค่ 2.6 ลิตร และประสิทธิภาพของฝาสูบ ที่เน้นแรงมาในรอบสูงเป็นหลัก เป็นนิสัยที่คนเล่น RB26 รู้กันดี

         มาดูที่กราฟแรงม้า (เส้นสีฟ้าอ่อน) แรงม้าจะเริ่มกระเตื้องในช่วง 5,000 รอบ ทุกๆ 500 รอบ จะได้ 100 แรงม้า ในช่วง 5,500 รอบ อยู่ที่ 400 PS ในช่วงนี้ กราฟจะไต่ขึ้นชันมากแทบจะเป็นแนวดิ่ง ช่วง 6,000 รอบ ได้แรงม้า 500 PS นิดๆ หลังจากนั้นกราฟจะนอนตัวลง ค้างในระดับ 500 PS ++ ไปจนตัดที่ 8,000 รอบ (เพราะไส้ในยังเดิมๆ อยู่ เอาแค่นี้ก็พอเหลือเฟือแล้ว) กราฟแรงม้าก็ยังไม่ตก ก็คิดว่าจะคงอยู่ในระดับนี้ตลอด เพราะแคมยังใช้องศาไม่สูงนัก เพราะจะทำให้ขับยากเกินไปบนถนน ส่วนแรงบิด (เส้นสีน้ำเงินเข้มกว่า) ก็คงเหมือนกับกราฟแรงม้า ไป Shoot เอาที่ 6,000 รอบ ได้แรงบิดถึง 61.0 กก.-. ก็ถือว่ามากเอาการอยู่ แต่หลังจากนั้น กราฟก็จะค่อยๆ โรยตัวลง ในช่วงที่สับเกียร์แถวๆ 8,000 รอบ รอบจะตกลงมาใกล้ๆ กับช่วงแรงบิดสูงสุด ก็เป็นเรื่องปกติของ RB26 ที่ต้องเล่นรอบสูงถึงจะมีแรง ถ้าใครชอบลากรอบก็คงเหมาะ