Special Godzilla Come Again (Episode I) กระหึ่มล้างโลก กับ 2020 GT-R 50th AE

 

Special Godzilla Come Again (Episode I)

กระหึ่มล้างโลก กับ 2020 GT-R 50th AE

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพและข้อมูล : https://japanesenostalgiccar.com/nissan-gtr-50th-anniversary  

หลังจากที่ NISSAN SKYLINE กับรหัสร้าย GT-R ที่ลืมตาบนโลกนี้มาครบ 50 ปี ด้วยประสบการณ์จากสนามแข่งอันเชี่ยวกรำมาครึ่งศตวรรษ จากรุ่นแรก ก็คือ 2000 GT-R รหัส PGC10 แบบสี่ประตูหรือฉายาว่า Hakohsuka นั้นมาจากคำว่า Hako = กล่อง Suka = คำออกเสียงย่อๆ สไตล์ญี่ปุ่นจากคำว่า SKYLINE อย่างที่เราเคยเล่าให้ฟังกันไปนั้น (อย่าว่าเล่าซ้ำเลย คนที่ยังไม่เคยอ่านก็มีนะ) แปลว่ารถสกายไลน์ ทรงกล่องซึ่งเจ้าฮักโกะนี่ออกมาครั้งแรกในปี 1969 ตัวนี้แหละเด็ดกว่า Coupe อีก หลังจากนั้น ก็มาฮือฮาอีกทีกับเจ้าก๊อตซิลล่า” R32 ที่เลื่องลือระบือโลกไม่รู้จักเสื่อมคลาย ด้วยเทคโนโลยีประดามี ขุมพลัง RB26DETT ที่โมดิฟายให้แรงหลุดโลกได้ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Attessa กับระบบเลี้ยว 4 ล้อ HI-CAS ในแบบฉบับรถเยอรมันชั้นดี นับว่ามันเป็น Historic Car หรือรถในตำนานทรงคุณค่าไปเสียแล้ว

หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งศตวรรษหรือ 50 ปี NISSAN จึงได้รำลึกตำนานครั้งยิ่งใหญ่ของ GT-R ขึ้นมา ใช้ชื่อว่า 50 years of legendary GT-R หลังจากที่ได้รำลึกกับสปอร์ตพันธุ์แท้ในตำนานอย่าง FAIRLADY Z ไปแล้ว ด้วยการออก 370Z 50th Anniversary Edition (เรียกย่อๆ ว่า AE) มาก่อนหน้า ส่วน GT-R ในตอนแรกก็ออกตัว 50th AE by Italdesign ที่เหมือนทำออกมางานโชว์เสียมากกว่า อย่างที่เคยนำเสนอไปแล้ว แต่คราวนี้ของจริงด้วยการออก GT-R 50th Anniversary Edition ออกมา เพื่อให้แฟนๆ นักสะสมรถได้ถวิลหามันไปจอดไว้ใน Garage สวยๆ เพื่อโชว์ความเหนือ

สำหรับเจ้า GT-R 50th AE นี้ จะถูกปรุงโฉมใหม่ให้สดใส ภายนอกจะมี 3 สี คันที่โชว์นี้ จะเป็นสี Bayside Blue หรือ Wangan Blue (TV2) ที่เป็นสี Signature ของเจ้า SKYLINE R34 GT-R ซึ่งถือว่าเป็นสีที่สวยและสดใส โดดเด่นมาก พร้อมคาดด้วยแถบสีขาวสไตล์ Vintage ซึ่ง GT-R แต่ละรุ่นก็จะมีสี Signature ในตำนาน เฉกเช่น Gun Grey Metallic (KH2) ใน R32 และสี Midnight Purple (LP2) ใน R33 ส่วนอีก 2 สีที่เหลือ ก็จะมีสี Pearl White พร้อมคาดแถบสีแดง เหมือนกับตัวแข่ง 2000 GT-R รหัส KPGC10 ทีม PMC-S (Prince Motor Company Club Sport) ซึ่งเป็นทีมโรงงาน อีกสีจะเป็น Super Silver คาดด้วยแถบขาว ซึ่งทาง NISSAN ให้ข้อมูลว่า เป็นการนำสี Bayside หรือ Wangan Blue กลับมาอีกครั้ง หลังจากออกมาตั้งแต่ปี 1998 หรือ 20 กว่าปีก่อน แต่เจ้า R35 นี้ จะถูกปรับปรุงสีด้วยการ Coating ถึง 4 ชั้น พร้อมการอบสีถึง 2 ครั้ง เพื่อให้เนื้อสีฉ่ำเงาลึกดูโดดเด่นอย่างมากทีเดียว

ส่วนอื่นๆ ก็พิเศษกว่า เช่นล้อจะมีการเน้นเส้นสีน้ำเงินให้ดูโดดเด่น พร้อมหล่อโลโก 50th Anniversary เป็นตัวลึกไว้ที่ขอบล้อ พร้อมสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน ด้านท้ายจะโดดเด่นด้วยท่อไอเสียไทเทเนียมแท้ๆ พร้อมด้วยสติกเกอร์คาด และ โลโก 50th Anniversary ใต้โลโก GT-R ภายในก็ใช้การตกแต่งพิเศษหรือ Premium Trim Level เป็นสี Twilight Grey เบาะนั่งเป็นการดุนลายนูนแบบพิเศษ ส่วนอื่นๆ ตกแต่งด้วย Alcantara ตามสมัยนิยม คอนโซลกลางลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมโลโก 50th Anniversary ซึ่งการตกแต่งภายในของรุ่นนี้ จะให้กลิ่นอายและอารมณ์ Vintage อย่างแท้จริง

ในส่วนของขุมพลัง ก็ยังเป็น VR38DETT ผู้ซื่อสัตย์เหมือนเดิม ยังคงเหมือนกับ GT-R สแตนดาร์ด ด้วยพลัง 565 PS แต่มีแย้มๆ มาว่า เทอร์โบ จะใช้ซีลแบบ Abradable Coating ซึ่งไอ้ตัววัสดุนี้ ไปหาข้อมูลเพิ่ม จะมีคุณสมบัติในด้านความลื่นและลดแรงเสียดทานทำให้เทอร์โบบูสต์ได้เร็วขึ้นอีก ลดการสึกหรอ เพิ่มประสิทธิภาพของเทอร์โบขึ้นอีก 5% ส่วนระบบเบรก จะเป็นจานเซรามิกแบบตัว NISMO Version นะครับ

ก็เป็นอันจบเรื่องราวของเจ้า GT-R 50th Anniversary Edition แต่เพียงเท่านี้ แต่ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ??? เพราะเรายังมีตัว 2020 NISMO Track Edition ที่เป็นเวอร์ชันสุดพิเศษในระดับ 600 PS มาให้ท่านชมอีก ถ้านึกไม่ออกก็ลองนึกภาพตัวแข่ง NISMO GT-R GT3 วิ่งถนนมีแอร์ก็แล้วกัน รับรองว่าถ้าปะยี่ห้อ NISMO ก็คงไม่ผิดหวังกันแน่นอน