Photo : Thanyanon Sangpoo (TakeSnap)
“ความพิเศษที่ A MOTORSPORT-TECH DESIGN จัดมาให้ชม”
ถ้านึกถึง GARAGE ที่รับปรับแต่ง SUBARU BRZ & TOYOTA 86 ชั่วโมงนี้คงต้อง A MOTORSPORT-TECH DESIGN โดยเฉพาะงานโมดิฟายที่มีให้เลือกกันหลายสเต็ป ทั้งเบาๆ ในแบบ N/A หรือจะมาสายโหดด้วยการเสริมระบบอัดอากาศ อยากได้แบบไหน สามารถจัดได้ พร้อมตัวเลขยืนยัน และครั้งนี้ทางสำนักได้จัดของเล่นใหม่มาให้ชม เรียกได้ว่านี่คือที่สุดของสาย BRZ หากใครอยากไปให้สุด ต้องเจอรุ่นพิเศษอย่าง tS & RA แล้วจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่นนี้ มีอะไรแจ๋ว ติดตามได้เลยจ้า
.
BRZ tS
“LIMITED EDITION แบบนี้มีเพียง 300 คัน”
BRZ tS ความพิเศษแบบ LIMITED EDITION ที่ผลิตออกมาเพียง 300 คันเท่านั้น พร้อมตกแต่งด้วยอุปกรณ์จาก STi นอกจากจะมีชุดแอโรพาร์ทและระบบช่วงล่างมาเต็มระบบแล้ว ยังมีเหล็กค้ำตัวถังมาให้ ซึ่งบางตัวเป็นแบบ BALL JOINT สามารถให้ตัวได้นิดหน่อย ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป เครื่องยนต์แม้หน้าตาจะดูเหมือนกัน แต่เมื่อได้ขับจะรู้ถึงความแตกต่าง นั่นเป็นเพราะการประกอบแบบ HAND BUILD พร้อม BALANCE เครื่องมาอย่างลงตัว ที่สำคัญคือ ECU น่าจะมีการโปรแกรมข้อมูลใหม่ และมีการปรับปรุงระบบ TRACTION CONTROL (เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ) ภายในสัมผัสความสปอร์ตได้จากเบาะ STi ซึ่งผลิตจาก RECARO รวมถึงวัสดุหลายจุดที่นำ ALCANTARA เสริมเข้ามาเฉกเช่น SUPER CAR ชั้นนำ
BRZ RA
“LIGHTWEIGHT ความพิเศษอยู่ที่น้ำหนัก”
รุ่นนี้คงต้องยกนิ้วให้ในเรื่องของน้ำหนัก เพราะนี่คือตัว LIGHTWEIGHT ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าปกติอยู่ที่ 30 กก. อุปกรณ์เพิ่มเติมที่ให้มาจะเน้นสมรรถนะในการขับขี่ ระบบส่งกำลังเสริม LIMITED SLIP และด้ามเกียร์ควิกชิฟต์ เครื่องยนต์ประกอบมาพิเศษเช่นเดียวกับรุ่น tS ในส่วนของช่วงล่างทำการเซตอัพใหม่ โดยเฉพาะตัวช็อคอัพเพิ่มความหนืดขึ้นจากตัวธรรมดา ซึ่งมองจากภายนอกแล้ว หน้าตาอาจจะเหมือนปกติ แต่ถ้าได้ขับหรือดูจาก PART NUMBER จะรู้ได้ถึงความต่าง สำหรับคันนี้ภายนอกเพิ่มสเกิร์ตหน้าและหางหลัง จาก GT PACKAGE ภายในเป็นสีดำล้วนทั้งหมด ซึ่งวัสดุอาจแตกต่างจากตัวธรรมดา อย่างเช่น พรมจะบางเป็นพิเศษ เพื่อลดน้ำหนัก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกตัดออกไป แต่เน้นอุปกรณ์เพิ่มสมรรถนะเข้ามาแทน
ความรู้สึกในการขับขี่ รุ่น RA จะตอบสนองค่อนข้างดีมาก เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เบากว่าและการเซตช่วงล่างที่ไม่เหมือนกัน ถ้าวิ่งใน TRACK จะเห็นความแตกต่างค่อนข้างเยอะ การเข้าโค้งต่างๆ จะดีกว่าทั่วไป CONTROL รถง่าย อีกทั้ง MAPPING น่าจะมีความแตกต่างจากรุ่นปกติ
- ในรุ่น RA มุมกันชนมีแผงพลาสติกดำปิดไว้ แต่ในรุ่น tA ต้องเน้นออปชั่นซะหน่อย ด้วยชุดไฟ DAYLIGHT
- ชุด GT PACKAGE จัดสปอยเลอร์หลังแบบ GT WING มาให้ ส่วนของรุ่น tA จะเป็นแบบ DUCK TAIL
- RA คันนี้เสริมสมรรถนะด้วยชุดเบรกจาก AP RACING และล้อ STi ซึ่งทางสำนักทดสอบแล้วว่าลงตัวทั้งความสวยงามและสมรรถนะเฉกเช่นในรุ่น TA
- ในรุ่น RA พิเศษที่ความเบา แผงต่างๆ ด้านหลังจึงถูกตัดออก
- เครื่องยนต์ HAND BUILD พร้อม BALANCE ใหม่ จับคู่เกียร์ธรรมมดา 6 SPEED เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ ค้ำโช้คของ tA จะเป็นแบบ BALL JOINT
- คอนโซลหน้ารุ่น RA เน้นเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ในรุ่น tS หรูหราด้วยการตกแต่งพิเศษ
- เปรียบเทียบกันชัดๆ ว่าลุคไหนโดนใจกว่ากัน
- แผงประตู tS ถูกเพิ่มลูกเล่นด้วยการหุ้ม ALCANTARA
- รุ่น tS เป็นหน้าปัด STi มีสีสัน
- รุ่น RA ยังคงใช้สวิตช์ควบคุมระบบแอร์แบบหมุน ในขณะที่รุ่น tS ใช้ระบบแอร์แบบดิจิตตอล แยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมจัดวางปุ่ม PUSH START ไว้ด้วยกัน
- นอตยึดแร็คพวงมาลัย Sti จะเป็นนอตยาวที่สามารถยึดได้มั่นคงกว่า
- เปรียบเทียบให้เห็นถึงนอตยึดแร็คพวงมาลัยของ Sti จะทะลุออกมาอีกด้าน