ขับอีซูซุ MU -X 1.9 ใหม่ !! เที่ยวเชียงราย นั่งสบาย ขั

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

วันนี้เรามีโอกาศได้ออกเดินทางท่องเที่ยว อีกครั้งหลังได้รับจดหมายเชิญจากทางตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ จำกัด ให้เข้าร่วมการทดสอบ อีซูซุ MU-X ใหม่ล่าสุดกันที่จังหวัดเชียงราย และเจ้า อีซูซุ MU-X จะเป็นพระเอกของเราในวันนี้ ที่จะพาเราไปท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายกัน ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมๆกับ อีซูซุ MU- X ใหม่กันเลย

เริ่มต้นกันแต่เช้าตรู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อบินเหินฟ้าสู่จังหวัดเชียงราย และไปรับเจ้าอีซูซุ MU-X ของเราที่จอดรออยู่ที่ร้านอาหารกลางวันใกล้สนามบินจังหวัดเชียงราย ล้อแตะพื้นปุ๊ป ทุกคนขึ้นรถตู้มุงหน้าสู่ร้านอาหารทันที เชียงราย ดินแดนแห่งขุนเขา อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้บนดอยสูงที่สลับซับซ้อน สวยงามน่าค้นหา และมีเส้นทางท่องเที่ยวที่พร้อมให้สื่อมวลชนกว่า 30 ชีวิตได้ทดลองขับ “The New Isuzu MU-X” ทั้งรุ่น 1.9 และ 3.0 Ddi รวม 11 คัน ในบรรยากาศและสภาพถนนหลากรูปแบบกันอย่างเต็มที่ แน่นอนครับก่อนออกไปขับรถเที่ยวกันท้องต้องอิ่มก่อน ความสุขของการท่องเที่ยวเริ่มด้วยการชิมอาหารพื้นเมืองอันเลิศรส เรียกว่าใครพลาด ถือว่ามาไม่ถึง นั่นคือ “ร้านสลุงคำ” อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะไส้อั่วและผักกาดจอ เมื่อท้องอิ่มทานอาหารกลางวันเรียบร้อย เดินออกด้านนอกก็พบกับเจ้า อีซูซุ MU-X ใหม่ทั้งเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ เน้นความประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ ที่เน้นความแรง จอดเรียงรายรอเราอยู่ที่ลานจอดรถของร้านอาหาร ผมได้ขับเจ้าอีซูซุ MU-X เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ กันก่อนเลย

รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมทั้ง 2 เครื่องยนต์เหมือนกันหมดเลยจร้า ดีไซน์ภายนอก สุดเท่ ดูดีในทุกมิติที่เดียวครับ ออกแบบใหม่หมดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรับลุคให้สปอร์ตทันสมัย โดดเด่น และหรูหรายิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกถึงพลังที่ไม่หยุดนิ่ง สปอร์ต เรียบหรู กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Sport 3D สปอร์ต หรูหราขึ้นอีกระดับ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ให้ความสว่างมากขึ้น ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไม่รบกวนสายตาผู้ร่วมทาง พร้อมไฟ Daylight อยู่ในโคมเดียวกัน โดดเด่นด้วยเส้นนำแสง LED Guiding Light เพิ่มลุคโฉบเฉี่ยวทันสมัยแบบรถยนต์นั่งระดับหรู กันชนหน้า – หลังดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้านไฟท้ายเป็น LED ที่ดีไซน์ใหม่ แบบ Sharp Horizon ดูโดดเด่น ลงตัว ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 18 นิ้ว Cross Star และRoof Spoiler รูปทรงใหม่ สีทูโทน รับกับตัวรถ

ภายในห้องโดยสารใหม่ สีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำเข้มดูอบอุ่น กว้างขวาง พร้อมการออกแบบภายในด้วยแนวคิด Universal Design ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ และความต้องการ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระ นุ่มนวล นั่งสบาย แม้ในเส้นทางยาวไกล แผงข้างประตู และที่พักแขน หรูหราด้วยลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู หัวเกียร์ และคอนโซลหน้าชุดตกแต่งสีดำ Piano Black คมเข้มมีสไตล์ บริเวณคอนโซลกลาง และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า ระบบความบันเทิง iConnect พร้อม Built-in Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อม Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับSmartphone พร้อมจุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้ง Smartphone เครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive หน้าปัดดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ต หรูหรามีระดับด้วยขอบโครเมี่ยม อ่านค่า ใช้งานง่าย พร้อมหน้าจอสีแสดงข้อมูลการขับขี่ Color Display MID ชุดตกแต่งคอนโซลกลาง ชุดเกียร์ และช่องแอร์ ประดับด้วยขอบโครเมี่ยม สวยสะดุดตา

จากนั้นจึงออกเดินทางสู่ “หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ” ที่สร้างขึ้นจากพระราชปรารภของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และได้รับรางวัล PATA Gold Award ในสาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเซีย – แปซิฟิก (PATA) เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของ “ฝิ่น” จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง พื้นที่ 5,600 ตารางเมตรแสดงลำดับเรื่องราวของฝิ่นในแง่มุมต่างๆ ไปจนถึงวันที่ประกาศยกเลิกการค้าฝิ่นในประเทศไทย เส้นทางที่ไปจะต้องวิ่งผ่านเข้าตัวเมืองเชียงราย ความคล่องตัวของเจ้า MU-X ใหม่ ถือว่ามีความคล่องตัวสูงทีเดียวครับขับง่ายดีจัง หลุดออกมานอกเมือง มีทางตรงยาวๆเลยแอบลองกดคันเร่งดูพลังของเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บูลเพาเวอร์ 1.9 ดีดีไอ บลู เพาเวอร์ (Ddi Blue Power) 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที กันหน่อยดีกว่ากดคันเร่งลงไปการออกตัวดีทีเดียวครับ ช่วงกลาง และปลายก็ทำได้ดี เร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง เผลอแป๊ปเดียวก็เดินทางมาถึงหอฝิ่นแล้ว ขับสนุก ขับเพลิน ขับสบายจริงๆครับ

เยี่ยมชมเสร็จแล้วก็เดินทางสู้เป้าหมายต่อไปกันเลย “ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน” ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาลาดชัน ช่วงล่างหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อม Stabilizer Bar ช่วงล่างหลังแบบ 5 -Link Suspension พร้อม Stabilizer Bar นุ่มนวลมากครับ เอาเป็นว่าช่วงล่างนุ่มนวลกว่าคู่แข่ง ดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวของถนนได้ดี การเค้าโค้งก็ทำได้อย่างมั่นใจครับ

การขับท่องเที่ยวในครั้งนี้ทำให้เราได้ทราบถึงขุมพลังดีเซล บลูเพาเวอร์ ทั้งเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน และ 3.0 ดีดีไอ ที่เน้นความแรงขับสนุก พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ (4WD) หรือ 2 ล้อ (2WD) รู้สึกอุ่นใจกับระบบความปลอดภัยสมบูรณ์แบบของอีซูซุ ที่เสริมความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับด้วย ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ช่วยให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นขณะขับขี่

ศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้ เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อวิจัยและพัฒนาผลผลิตจากเมล็ดชา โดยเป็นโรงงานผลิตน้ำมันคุณภาพสูงจากเมล็ดชาและพืชน้ำมัน เพื่อนำไปบริโภค และทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง โดยเป็นโรงงานต้นแบบที่สามารถเข้าชมได้ทุกจุด มีขั้นตอนที่เข้าใจง่าย สะอาด และคำนึงถึงระบบสิ่งแวดล้อมแบบธรรมชาติ มีระบบควบคุมการใช้พลังงาน และรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และร้านอาหาร “ร้านเมล็ดชา” ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งคณะของเราก็ไม่พลาดที่จะได้ลิ้มลองมื้อเย็น ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น สวยงาม ณ ที่แห่งนี้ ก่อนที่จะกลับสู่ที่พักที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศป่าเขาอันเงียบสงบ แต่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายเพียง 18 กิโลเมตร “เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ เชียงราย” รีสอร์ทที่สวยงามและสะดวกสบายแห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Farm to table” ภายในรีสอร์ทมีแปลงพืชผักสวนครัวที่จะถูกเก็บเกี่ยวแล้ว นำไปเสริฟถึงโต๊ะอาหารในแต่ละวัน และมีฟาร์มแกะให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารและชื่นชมความน่ารักของฝูงแกะอีกด้วย

เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใส ผมเปลี่ยนมาขับเจ้า MU-X เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที เคลื่อนขบวนรถไปยัง “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านขนาดใหญ่ที่รวบรวมของสะสมและผลงานศิลปะอันล้ำค่านับหมื่นชิ้นภายใต้การรังสรรค์ของ “ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ผู้มีฝีมือทางด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีลักษณะเป็นกลุ่มบ้านศิลปะแบบล้านนาจำนวนกว่า 40 หลัง ภายในเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ทุกหลังทาด้วยสีดำ สีโปรดของอาจารย์ถวัลย์ แต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ และกระดูกสัตว์ เป็นต้น นับเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความงดงามของศิลปะในแบบของ “ถวัลย์ ดัชนี” ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร อัตรเร่งของเจ้าเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ นั้นออกตัวอาจจะจื๊ดจ๊าดไม่เท่าเครื่อง 1.9 ดีดีไอ แต่ช่วงกลาง และปลาย ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขับสนุกดีครับ โดยส่วนตัวผมชอบเครื่อง 3.0 ดีดีไอ ผมว่ามันขับสนุกกว่า 1.9 ดีดีไอ ความเห็นส่วนตัวนะครับ แต่ 1.9 ดีดีไอ ก็ได้เปรียบเรื่องความประหยัดน้ำมัน ขึ้นอยู่ที่ใครชอบฟิลลิ่งแบบไหน

ก่อนจบทริปสนุกสนานกับอีซูซุด้วยอาหารเลิศรสอีกครั้งในบรรยากาศที่สุดแสนสบายริมแม่น้ำกก ณ ร้าน “Melt in Your Mouth” กับเมนูหมูย่างคุณย่า ซี่โครงหมูซอสผลไม้ ลาบแซลมอน ปลาทับทิมลุยสวน ปีกไก่ทอด และตบท้ายกันต่อด้วยเค้ก และไอศครีมกันอย่างเต็มที่ เก็บเกี่ยวความสุขจากการเดินทางที่แสนสบายในรถยนต์นั่งดีๆ แบบ “The New Isuzu MU-X” ที่ทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุด