The King of 1800 Return !!! : 200 SX Over 400 PS for Drift by TOON ENGINE SHOP

 

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพ : วิวัฒน์ ภัยวิมุติ

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจ้า 200 SX หรือ SILVIA ในตระกูล S13 เป็นที่นิยมกันมากมายในวงการโมดิฟาย โดยเฉพาะวงการ “แถข้าง” ที่เห็นกันทั่วไป สำหรับคันนี้เป็นของ “โน้ต” ถ้าจะดูรถแบบเผิน ๆ ก็คงไม่มีอะไรแตกต่าง หรือโดดเด่นเปล่งประกายออกมามากนัก แต่ที่ทำให้เราประทับใจก็คือ ยังยืนยันที่จะใช้ “เครื่องติดรถ” ที่เข้ามาขายในไทย ก็คือ “CA18DET” บล็อกเก่า ที่มีแต่คนลืม หันไปหา SR หรือ JZ กันซะหมด ถ้ายังจำกันได้ สมัยก่อนจะมี “King of 1800” ในนามของ “อั๋น ATP” ที่โมดิฟายลงวิ่งควอเตอร์ไมล์ในเมื่อสิบกว่าปีก่อน ด้วยพลังกว่า 400 แรงม้า โดยไม่ได้ขยายความจุแต่อย่างใด ซึ่งก็สร้างชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก ณ ปัจจุบัน CA18 ไม่มีใครสนใจ แต่ “พี่ทูน” แห่ง TOON ENGINE SHOP สนใจ หยิบมันมาปัดฝุ่นใหม่ ในฐานะที่เคยทำเครื่อง CA18DET ตัวแรงมาก่อน ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนในอนาคต คันนี้อาจจะ “เล่นของแปลก” ด้วยเครื่อง 2.4 ลิตร 4 สูบ ที่อยู่ใน “รถเพื่อการพาณิชย์” นำมาโมดิฟายใหม่ แล้วรอดูตอนต่อไป ยังไม่บอกว่าบล็อกไหน ลองเดาเล่น ๆ กันดู แต่ไม่เหมือนใครแน่นอน…

ยิง NOS ตลอด ต้องจัดให้เหนียว

ในส่วนของเครื่องยนต์ก็จะถูกโมดิฟายกันชุดใหญ่ ฝาสูบจัดเต็มด้วยชุดของ HKS แคม 264 องศา ไม่เอาสูงมากไป  ประเดี๋ยวจะรอรอบเกิน เชื่อมด้วยปะเก็น 1.6 มม. ท่อนล่างจัดลูกสูบ HKS โอเวอร์ไซส์ 1 มม. ที่เหลือเดิม อ่างน้ำมันเครื่อง ขยายความจุไปอีก 1 ลิตร เพื่อให้น้ำมันเครื่องพอที่จะหล่อเลี้ยงเครื่อง เวลารถสาดไปมา ยังคงมีเหลือสำรองไว้บ้าง ไม่ขาดไป สิ่งที่สำคัญในการทำเครื่องตัวนี้คือ จะมีเทคนิค “พิเศษ” ที่ต้องทำเพื่อรองรับ “ไนตรัส” เพราะคันนี้ไม่ได้ฉีดแต่แต้ม ๆ แต่ “ฉีดยาว” เวลา Peak Power เพื่อกระชากแรงสู้กับเครื่องใหญ่ ถ้าฉีดตลอดโดยไม่ทำอะไรเลย มันก็คงจะอยู่ได้ไม่นาน งานนี้ต้องจัดหนักกันหน่อย…

เทคนิคของ TOON ENGINE SHOP ก็คือ “จัดการกลึงบ่าลูกสูบให้เตี้ยลง” โดยปกติเวลาลูกสูบอยู่ในตำแหน่ง TDC (Top Dead Center) ด้านบนของลูกสูบ จะเสมอกับเสื้อสูบพอดี ถ้าเกิดเราใช้ NOS มันจะเกิดการจุดระเบิดที่รุนแรงมากขึ้น จังหวะจุดมันจะกระจายแรงดันไปที่ “ปะเก็นฝาสูบ” อย่างรุนแรง โอกาสที่ปะเก็นจะเสียหาย หรือที่เรียกว่า “ปะเก็นแลบ” กำลังอัดจากห้องเผาไหม้จะรั่วออกไปภายนอก ไปดันน้ำให้ทะลัก ก็ทำให้เกิดการเสียหายหนัก วิธีแก้ น้าทูนแกก็จัดการกลึงบ่าลูกสูบให้เตี้ยลงนิดหน่อย ก็จะมีช่องว่างระหว่างบ่ากับกระบอกสูบอยู่ เพื่อให้จังหวะจุด แรงระเบิดมันไปกระทบกับเสื้อสูบก่อนที่จะลามไปที่อื่น ก็ช่วยลดการเสียหายได้เยอะ ส่วนการคอนโทรล NOS ผู้ขับก็ไม่ต้องทำอะไร เหยียบอย่างเดียว เพราะไปโปรแกรมไว้ที่กล่อง ECU แล้ว พอรอบถึง บูสต์ถึง ก็จัดการฉีดทันทีแบบอัตโนมัติ…

MAX POWER : 433 hp @ 7,112 rpm

MAX TORQUE : 487 N-m @ 6,051 rpm

DYNAMOMETER : POWER LAB

สเต็ปของเครื่องตัวนี้ ต้องการกำลังมาก ๆ ในช่วง 5,000-7,500 รอบ เพราะเป็นช่วงที่ต้องกระชากแรงออกมาเต็มที่ ถ้าดูตามลักษณะของกราฟ ก็จัดว่าดูดี ช่วงกำลังออกมาตามที่เหมาะสม ไม่มารอบสูงเกินไป กราฟแรงม้า (สีแดง) จะทะยานขึ้นแบบเรื่อย ๆ ไม่ใช่จู่ ๆ ก็โดดขึ้นเลย อันนั้นจะทำให้ควบคุมรถยาก กราฟที่ขึ้นเรื่อย ๆ จะคอนโทรลรถได้ง่ายกว่ามาก และเร็วกว่าแน่ ๆ ตั้งแต่ช่วง 5,000 รอบ ก็มีแรงม้ามาแล้วถึง 320 hp ก็เป็นผลจาก NOS ช่วย ช่วง 6,000 รอบ ก็บวกไปอีก 100 hp หลังจากนั้นกราฟก็จะนอนตัวลง อยู่ในระดับ 420-433 hp ไปจนถึง 7,200 รอบ กราฟก็ยังไม่ตก แต่ตอนรอบไว้แค่นั้นพอ เพราะไม่อยากลากสูงกว่านั้น ส่วนกราฟแรงบิด (สีเขียว) ช่วง 5,000 รอบ แรงบิดมาแล้วถึง 440 N-m (นิวตัน-เมตร) ก็มากเพียงพอ ไปถึงช่วง Peak ที่ 6,000 รอบ จัดว่าไม่มารอบสูงมากนัก ช่วงนี้เรียกว่า “กำลังใช้” พอดี หลังจากนั้น กราฟก็เริ่มโรยตัวลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับเกินกว่า 420 N-m ซึ่งก็เพียงพอกับการดริฟต์แบบเริ่มต้น ที่ไม่ใช้ยางใหญ่มาก แรงม้าและแรงบิดขนาดนี้กำลังดี ไม่แรงมากไปจนคุมยาก…

Special Thanks : “พี่ทูน” (08-1816-9390) และ “นายโน้ต” สำหรับรถลงคอลัมน์, WONDER WORLD PARK สถานที่ถ่ายทำ  

X-TRA ORDINARY  

เรื่องราวของ “พี่ทูน” ไพฑูรย์ มีสง่า ที่ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์ในการโมดิฟายเครื่องยนต์ญี่ปุ่นมามาก เท่าที่ทราบประวัติการทำงานในวงการ ย้อนไปเกือบ 20 ปี ก่อน (โดยประมาณนะ) จะเป็นหัวหน้าช่างอยู่ที่ RAY SPORT ซึ่งเป็น Shop โมดิฟายชั้นนำ ที่เป็นเอเยนต์ HKS กับยี่ห้อชั้นนำอื่น ๆ มากมาย เรียกว่าใครจะโมดิฟายแบบ “ไฮโซ” ก็ต้องไปที่นี่ หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ JUN AUTO MECHANIC โดยทำงานร่วมกับ “โคยาม่า” ก็เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเอง เพราะทำรถแรง ๆ มากมาย หลัก ๆ ก็คือ 200 SX King of 1800 กับ  R32 1,000 hp ตัวโหดที่เป็นฝีมือคนไทย พอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้เต็มเหนี่ยว ก็ถึงเวลาเปิดกิจการของตัวเอง ในนามของ TOON ENGINE SHOP จนถึงปัจจุบัน…