The Legend of “All New ISUZU D-MAX”

 

Story : อินทรภูมิ์ แสงดี

Photo : ธวัชชัย กรสิทธิศักดิ์ (SlowTake)

หลังจากที่ได้เล่นกับกระแส “กระบะ เทอร์โบ F55” กันไปเมื่อก่อนปีใหม่แล้ว ณ ตอนนี้ ก็ขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกระบะกันอีกครั้ง โดยจะกล่าวถึงรถยอดนิยมในการนำมาโมดิฟาย ก็คือ All New ISUZU D-MAX เรียกกันสั้นๆ ว่า “ออลนิว” ตามประสาคนซิ่งกระบะ ซึ่งในครั้งนี้ เราจะลองมาดูกันว่า “สเต็ป” การโมดิฟายรถรุ่นนี้ เอาตั้งแต่จุดเริ่มต้นกันเลย เป็นการเปลี่ยนเทอร์โบไปใช้รุ่นจากเครื่อง 3,000 c.c. ที่นิยมเรียกกันว่า “เทอร์โบสามพัน ปาก 44 มิล” ซึ่งได้รับความนิยมมากในขณะนี้ จนมีการแข่งขันเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ได้ใส่เฉพาะ ISUZU เท่านั้น มันใส่กับเครื่องดีเซล คอมมอนเรล ได้ทุกยี่ห้อ ที่ผมมองเทอร์โบรุ่นเล็กว่า “น่าสนใจ” เพราะมัน “สนุก” เหมือนกับเราใส่ Restrictor คุมอากาศเข้าได้แบบจำกัด มันก็ต้องมีการ “ดิ้นรน” เล่นกันทุกวิถีทาง มันจึงมีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นใหญ่ และบน “งบประมาณ” ที่คนทั่วไปเอื้อมถึง สามารถขับใช้งานบนถนนได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวการโมดิฟายแบบ “ครบถ้วน” ทั้งคัน ไปยันช่วงล่าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่คิดจะโมดิฟาย All New ISUZU D-MAX ในสเต็ปนี้ครับ…

สำหรับแนวทางการโมดิฟายที่ผมกำลังจะนำเสนอนี้ จะเน้นไปในด้านการให้ “ข้อมูล” ในส่วนหลัก ว่าการโมดิฟาย All New ISUZU D-MAX ตั้งแต่ “จุดเริ่มต้น” แล้วค่อยๆ ขยับไปตามสเต็ป ซึ่งก็จะมี “ค่าใช้จ่าย” ที่คุณจะต้อง “กำตังค์” ไว้เป็นค่าโมดิฟาย จะได้ “ตัดสินใจง่ายขึ้น” และ “วางแผนงบประมาณถูก” อีกอย่าง เราเน้นไปในทาง “Street Used” นะครับ เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุด ส่วนรถแข่งเต็มตัวนั้น มันมีรายละเอียดลึกๆ ที่อู่โมดิฟายจะต้อง “อุ๊บอิ๊บ” เอาไว้ ของบางอย่างก็ไม่ได้ทำมาเผื่อใช้งานด้วย จึงขอพูดถึงรถ Street Used เป็นหลักแล้วกันนะครับ…

Why Diesel Got More Power
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เครื่องยนต์ดีเซลจะใช้ “กำลังอัดสูง” ทำให้เกิดความร้อน (Thermal) แล้วจึงฉีดน้ำมันมาเพื่อจุดระเบิด ไม่มีหัวเทียนในการจุดประกายไฟ ง่ายๆ แค่นี้เอง ส่วนแรงบิดก็มหาศาลกว่าเครื่องเบนซินในความจุเท่ากัน เนื่องจากเครื่องดีเซลจะใช้ “กำลังอัดสูง” พวกคอมมอนเรล จะอยู่ประมาณ 18-20:1 (ถ้าเป็นเครื่องดีเซลรุ่นเก่า จะสูงถึง 22:1 ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงดัง การสั่นสะเทือนสูง และรอบเครื่องหมุนได้น้อย) เมื่อกำลังอัดสูง การสร้างแรงบิดในรอบต่ำและกลางก็จะยิ่งมากขึ้น แต่รอบปลายก็จะหมุนได้น้อยกว่าเบนซิน เป็นการออกแบบมาเพื่อ “ใช้งานหนัก” ต้องการแรงบิดมากๆ ฉุดน้ำหนักเยอะๆ แต่ตอนนี้เครื่องดีเซลยุคใหม่เปลี่ยนไป ใช้ฝาสูบออกแบบดีๆ ระบบ DOHC เหมือนเครื่องเบนซินสมรรถนะสูง อัด “หอย” เข้าไปอีก จึงวิ่งดีและประหยัด พวกระบบควบคุมการทำงาน (Engine Management) ก็สุดแสนจะทันสมัย เลยกลายเป็นว่าสามารถเล่นอะไรกับมันได้เยอะ…

Diesel Power Tuning
สำหรับการ Tuning เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ถ้าจะพูดกันตรงๆ ก็คือ “ไม่ยากเลย” อย่างที่บอกไปครับ ว่ามันกำหนดเพียงแค่ “น้ำมัน” และ “อากาศ” เท่านั้น ถ้าอากาศเข้ามาก ก็คือ “เพิ่มบูสต์” และ “ฉีดน้ำมันเพิ่ม” ก็จะได้ “ความแรง” มากขึ้น ไม่ต้องสนเงื่อนไขอย่างอื่น ค่าส่วนผสมน้ำมันและอากาศ (A/F Ratio) ไม่ซีเรียสเลย สังเกตว่ารถดีเซลแรงๆ มักจะควันดำมากๆ เพราะ “เหลือไว้ดีกว่าขาด” ถ้าเครื่องเบนซินควันดำก็คือ “ส่วนผสมหนา” วิ่งไม่ออก การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ไม่เหมือนกันนะครับ…

มาถึงตรงนี้ ก็ขอฝากหน่อยแล้วกัน รถดีเซลควันดำ เวลาขับบนถนนก็ควรจะ “คำนึงถึงเพื่อนร่วมทางบ้างนะครับ” ออกตัวแรง พ่นที คนข้างหลังมองไม่เห็นทาง โดยเฉพาะเหล่า “แมงกะบื่อ” ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายครับ เห็นใจกันหน่อย…

Step I : ECU Upgrade
แพ่มมาประมาณหนึ่ง เข้าโปรแกรม “ฉาย” กันเลยดีกว่า สิ่งแรกที่คนจะคิดถึงก็คือ “กล่อง” เป็นตัวการปลดปล่อยแรงม้า โดยยังไม่ได้ยุ่งกับเครื่องยนต์ สมัยนี้กล่องโมดิฟายดีเซลมีมากมายครับ ใส่แล้วแรงขึ้นเลยเห็นๆ เพราะกล่องเดิมจะต้องมีการกำหนดค่า “มลพิษ” เพื่อให้สามารถขายทั่วไปได้ แต่ After Market ก็จะมีการ “ปรับค่า” เพื่อให้การฉีดน้ำมัน “นาน” ขึ้น ก็ขอแยกเป็น 2 แบบ นะครับ คือ “กล่องดันราง” และ “กล่องยกหัวฉีด” ที่เป็นสูตรสำเร็จในการเริ่มต้นก่อนนะครับ…

กล่องดันราง
วลีที่ว่า “ดันรางแตก ก็ Dag Goo ไม่ได้” อะไรประมาณนี้ ก็มาจาก “กล่องดันราง” หรือ “กล่องเพิ่มแรงดันในรางหัวฉีด” ขยายความคือ เป็นการ “เพิ่มแรงดันในระบบเชื้อเพลิง” นั่นเอง เพื่อให้น้ำมันเข้าไปในระบบมากขึ้น ก็เหมือนกับการปรับ Regulator นั่นเอง เพียงแต่ใช้กล่องไป “เปลี่ยนคำสั่งการ” พูดง่ายๆ คือ “หลอกกล่องหลักเดิม” นั่นแหละ หลอกว่าสัญญาณแรงดันในรางนั้น “ตก” เลยสั่งการให้ปั๊มเชื้อเพลิง “เพิ่มแรงดัน” มากขึ้น น้ำมันฉีดมากขึ้น ก็เลยได้กำลังเพิ่ม ส่วนจะเพิ่มเท่าไรนั้น ถ้าเป็นเงื่อนไข ใส่กล่องจะเพิ่มประมาณ 30 ++ แรงม้า (แรงม้าที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาวะของแต่ละคันนะครับ รถป้ายแดงก็ยังมีความแตกต่างในด้าน Clearance ของเครื่องยนต์อยู่บ้าง ไม่เหมือนกันเป๊ะทุกตัว ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น สภาพอากาศ แท่นวัดแรงม้า ทุกอย่างเป็นตัวแปรที่ทำให้แรงม้าที่ได้มีความแตกต่างกัน) ถ้ากล่องดันรางอย่างเดียว ราคาอยู่ในเรต “7,500 บาท” ครับ…
(* ราคาอ้างอิงจากกล่อง ECU=SHOP รุ่น CUBE)

กล่องยกหัวฉีด
มีกล่องดันราง สเต็ปต่อไปก็ต้องมี “กล่องยกหัวฉีด” มันเป็นของคู่กัน หน้าที่ของมันก็คือ “สั่งเปิดหัวฉีดให้ระยะเวลา (Duration) นานขึ้น” เพื่อป้อนน้ำมันให้มากขึ้นนั่นเอง แต่มันก็ต้องใช้กับกล่องเพิ่มแรงดันด้วย จริงๆ เราจะใช้แต่กล่องยกหัวฉีดก็ได้เหมือนกัน แต่จะต้องดู Limit ของมันว่าได้แค่ไหน เพราะการเปิดหัวฉีดที่นานขึ้น แต่มี “แรงดันต้นทางเท่าเดิม” จะทำให้ “แรงดันในรางหัวฉีดตก” ถ้าตกมากเกินกำหนด จะเกิด Check Engine ขึ้น กล่องเดิมจะตัดเข้า Safe Mode เดือดร้อนอีก ดังนั้น ถ้าจะให้เนียน ควรใส่ “คู่กัน” ตอนนี้ก็จะมี “ราคาโปร (โมชั่น)” ขายคู่กันในราคาพิเศษ ราคา “19,000 บาท” ครับ ก็ไม่แพงสำหรับสเต็ปเริ่มต้น เพราะแค่นี้แรงม้าก็เพิ่มจากเดิมในระดับ “80-90 ++” แล้ว…
(* ราคาอ้างอิงจาก Package ขายกล่อง ECU=SHOP รุ่น CUBE คู่กับ JUNIOR MARK III)

โบสามพัน หมกไม่หมก
แน่นอน มนุษย์เราก็ “คัน” ไปเรื่อย แค่นี้ไม่พอ ก็ต้อง “ต่อ” กันไปอีก สเต็ปต่อไปที่จะ “เล่น” กัน ก็คือ “เทอร์โบ” ตอนนู้นเราแนะนำ F55 ไปทีนึงแล้ว แต่ตอนนี้กระแสของเทอร์โบจากเครื่อง “4JJ1-TCX” หรือ “เทอร์โบอีซูซุสามพัน” กำลังมาแรงไม่แพ้รุ่นใหญ่ เพราะต้นทุนการทำไม่สูงมาก แต่ความแรงนั้นก็พอเพียงที่จะ “มันส์” ได้ อย่างที่จั่วหัวไว้นั่นเอง เหตุที่เอามาเล่นกัน เพราะรถ All New ISUZU D-MAX ส่วนใหญ่จะซื้อรถ “ตัวเตี้ย” มาทำกัน มีเฉพาะเครื่อง 2.5 ลิตร หรือ “2500” ส่วนรุ่น 3.0 ลิตร จะมีเฉพาะ “ตัวสูง” พอตัวเตี้ยอยากแรง ก็จะเริ่มโมดิฟายด้วยการเปลี่ยนเทอร์โบรุ่น 3.0 ลิตร หรือ “3000” นั่นเอง เป็นเทอร์โบยี่ห้อ IHI ที่ “ทน” และ “ถูก” ใบหน้าเดิม จะมียอดใบขนาด “41 มม.” เป็น “6 ใบคู่” ส่วนใบหลังมีจำนวน “11 ใบ” ส่วนของรุ่น 2500 ใบหน้าและใบหลังจะเล็กกว่าอย่างละ “3 มม.” เวลามันหมุนที การทำลมก็ต่างกันมาก แค่ใส่เข้าไปเฉยๆ ก็แรงกว่าเห็นๆ แล้ว ราคาเทอร์โบ 3000 ของ IHI แท้ ถ้าเบิกร้านอะไหล่ (ร้านที่ไปจับของมาจาก Supplier ที่ขายเทอร์โบโดยตรง) ลูกนึงแถวๆ “9,500 บาท” แต่ถ้าเบิกศูนย์ ราคาจะโดดไปแถวๆ “16,000 บาท” แต่ถ้า “เล่นของถูก” ก็จะมีที่ทำจาก “จีน” หรือ “ไทย” ก็มีให้เลือก แต่ความเรียบร้อย วัสดุ การประกอบ นอตต่างๆ เนื้อโข่ง ฯลฯ เห็นได้ชัดว่าจะเนียนสู้ของแท้ไม่ได้ ความคงทนก็ด้อยกว่า ราคาอยู่แถวๆ “7,500 บาท” อันนี้พูดถึงเดิมๆ นะ แต่อยากจะแรงขึ้นไป ก็ต้องมี “สูตร” หรือที่เรียกว่า “หมก” กันหน่อย โดยมีสเต็ปต่างๆ ดังนี้…

เปลี่ยน (หมก) ใบ
เอ้าๆ เริ่มต้น “หมก” กันได้แล้ว จุดเริ่มต้นคือ “เปลี่ยนใบหน้า” อัพเกรดขึ้นไป โดยมากก็จะเป็น “ใบ Billet” ที่ใช้การ “กลึง” จากเหล็กแท่ง ขนาดยอดใบเท่าของเดิม แต่ “จัดองศาใบใหม่” ยอดใบจะ “ชัน” ขึ้น ความสูงของใบจะมากขึ้น (วัดจากระยะความสูงของยอดใบจนถึงฐานใบ) ทำลมดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้ต้อง “กลึงรูในโข่งหน้า” ถ้าไม่เหลาก็จะติดยอดใบ แต่ต้องระวัง เวลาขันนอตยึดใบหน้า มันจะลงไม่สุดเกลียวเหมือนเดิม จะต้องมีเทคนิคการใส่ (ตรงนี้เค้นให้ตายก็ไม่ยอมเปิดเผยจ้า) เพื่อไม่ให้ “ใบบิน” ราคาเริ่มต้นของใบ Billet แบบยอดใบเท่าของเดิม ราคา “3,500 บาท” ครับ…

ยังไม่พอเหรอ มาเลย จัดให้ “สเต็ปสอง” เป็นใบ Billet แบบ “ยอดใบ ฐานใบ ใหญ่กว่าเดิม แต่ความสูงใบเท่าเดิม” อันนี้ก็ต้องกลึงรูในโข่งหน้าออกอีกเหมือนกัน ราคา “4,500 บาท” ก็จะแรงขึ้นอีกระดับ แต่ถ้าให้ “สุดตาราง” ก็ล่อนี่เลย “ทุกอย่างใหญ่หมด” ยอดใบ 44 มม. เต็ม ฐานใบใหญ่ ความสูงใบมากกว่าเดิม ราคา “5,500 บาท” ส่วน “เสื้อกลาง” ยังใช้ของเดิม มาถึง “โข่งหลัง” ก็ยังเดิม แต่มีการ “เล่น” ด้านใน ด้วยการกลึงลบรอยหยาบให้เนียนขึ้น แล้วมีกลึง “ร่องกลาง” สะกิดนิดนึง เพื่อให้ไอเสียรีดไหลดีกว่าเดิม…

เปลี่ยนทั้งลูก ฝาหน้าเดิม
เรียกกันว่า “หมกทั้งลูก” โดยการเอาเทอร์โบ MITSUBISHI TD-04 HL มาเล่น ข้อดีคือ “ใบหน้าและหลังใหญ่ขึ้น” ใช้ “เสื้อกลาง” ของ TD-04 HL แต่ใช้โข่งหน้าและหลังของ ISUZU 3000 เหมือนเดิม ก็ต้องมีการแก้ไขกันบ้างบางจุด โข่งหลังก็ “เหลาใน” ให้เนียนอย่างที่บอกไป ราคาสำเร็จอยู่ไม่เกิน “17,000 บาท” ส่วน “บูสต์” ก็ไม่ขี้ๆ นะครับ เพราะบูสต์กัน “50 psi” เชียวนะ ถ้าเซตมาดี ช่วงล่างดี วิ่งไม่แพ้ F55 เหมือนกัน อาจจะได้ลูก “พอดี” ฟรีทิ้งไม่มากนัก ไม่รอรอบ เหมาะกับยาง “เรเดียล” นับเป็นสเต็ปที่น่าสนใจ สำหรับสเต็ปเทอร์โบที่เรากล่าวมานี้ จะเป็นของที่ “สามารถซื้อหาได้ทั่วไป” ส่วนสเต็ปอื่นๆ ก็อาจจะมีการ “สั่งผลิตใบแบบพิเศษ” ตามสเป็กที่กำหนดไป พวกนี้จะไม่ค่อยเปิดเผยกันครับ เพราะถือเป็นสูตรเฉพาะตัวของแต่ละเจ้า…

ท่อสูตร
เมื่อมี “หอย” แล้ว ก็ต้องมี “แท่ง” เอ๊ย “ท่อ” ตอนนี้ท่อสูตรที่กำลังนิยม ก็จะเป็นช่วงท่อตั้งแต่โข่งหลังยาวไปจนถึงหน้าเพลาท้าย มีทำสำเร็จรูปขาย ราคาเริ่มต้น “3,500 บาท” (เดี๋ยวนี้ถูก เพราะทำสำเร็จขายกันเยอะ) สามารถใส่กับเทอร์โบโข่งหน้าหลัง 3000 ไส้ TD-04 HL ได้เลย สำหรับลักษณะของท่อสูตร (ดูภาพประกอบ) ก็จะแบ่ง “แยกห้องเวสต์เกต” (กรณีใช้เวสต์เกตเดิม) ออกมาอีกท่อหนึ่ง เพื่อให้ไอเสียไม่วิ่งวนชนกันเองในโข่งหลัง ต่อแยกมาเข้าท่อรวมแทน ต่อแยกแบบนี้จะเกิดเสียง “แฟ้ดดด” ส่วนท่อไอเสีย ออกมาจะเป็น 2.5 นิ้ว แล้วค่อยบานเป็น 3 นิ้ว บีบๆ หน่อย บูสต์จะได้มาไว แต่แนะนำว่าถ้าเป็นรถถนน ควรจะ “ต่อหม้อพัก” ไว้ด้วย เสียงจะได้ไม่ดังเกินไปครับ…

หัวฉีดใหญ่
เมื่อบูสต์มาก หัวฉีดก็ต้องใหญ่ตาม เพื่อป้อนน้ำมันให้ทันท่วงที ชุดหัวฉีดใหญ่อัพเกรด สเต็ปแรกเริ่มต้น “8,500 บาท” เรื่อยไปตามขนาด แล้วแต่แรงม้าที่ต้องการ แต่แนะนำว่ารถวิ่งถนน ใช้งานปกติด้วย สเต็ปแรกก็เพียงพอแล้ว…

แคมชาฟท์อัพเกรด
จริงๆ แล้ว แคมชาฟท์ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ครับ แต่ถ้า “คัน” อยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนเฉพาะ “ฝั่งไอเสีย” ก็พอ จะเอายี่ห้อไหนก็มีให้เลือกเยอะแยะ แต่พอจะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ แบบแรก “เอาแคมชาฟท์เดิมไปพอก เจีย เปลี่ยน Profile ใหม่” อีกอย่าง คือ “สร้างใหม่ทั้งอัน” ดุ้นละ “6,500 บาท” ไอ้เรื่ององศาแคมชาฟท์นี่ บอกตรงๆ จนปัญญาจะบอกว่ะ เพราะ “เป็นความลับของแต่ละอู่” ว่าจะเลือกองศาเท่าไรให้พอเหมาะในช่วงรอบที่มี ดีเซลไม่เหมือนเบนซิน เพราะรอบมันไปให้ตายยังไงก็ไม่สูง แคมชาฟท์องศาสูงเกินไปก็วิ่งไม่ได้ “มันต้องพอดีๆ” ที่ต้องหากันเอง…

เล่นช่วงล่าง

เล่นกับมันหน่อย เดี๋ยวมันงอน ใครบอก “แหนบเซตไม่ได้” เปลี่ยนความคิดใหม่ได้ครับ แหนบมันก็คือ “สปริงแผ่น” ที่ย่อมมีค่า K เหมือนกัน เอาสเต็ป “เซตแหนบเดิม” ละกัน แหนบมันจะเป็นหลายแผ่นซ้อนกัน แต่ละแผ่นก็จะมีค่า K ต่างกัน เพื่อให้มีช่วงการยุบที่แปรผันตามน้ำหนักและแรงที่กดลงมา แหนบของ D-MAX ซึ่งรถที่เป็น “4 ประตู” และ “มีแค็บ” (ไม่นับหัวเดี่ยวนะ) จะมีทั้งหมด “5 แผ่น” เท่ากัน แต่ความแข็งไม่เท่า ตัว 4 ประตู เดิมๆ จะเซตให้แหนบนิ่มกว่า เพราะเน้น “โดยสาร” ไม่เน้นน้ำหนักบรรทุกโหดมาก ซึ่งรู้กันว่า ในตัว 4 ประตู ถ้าชักแหนบเหลือ “3 แผ่น” จะนิ่มพอกันกับรถ “แค็บ” ที่ชักแหนบเหลือ “2 แผ่น” ประมาณนี้ก็ใช้ได้ละ เน้น “นุ่ม” หน่อย เวลาออกตัวจะได้ “ซับแรง” และขับนุ่มนวลขึ้นบนถนน ส่วนรถแค็บ ถ้าอยากนุ่มนวล ก็ซื้อแหนบ 4 ประตู ใส่ “แผ่นละพัน” ฟีลลิ่งก็นิ่มนวลขึ้น ส่วน “โช้คอัพ” ของ “ไทย” ก็มีหลายหลากยี่ห้อมากกกกก ถ้าเน้นดีหน่อย ราคา “คู่หลัง” อยู่ประมาณ “6,500 บาท” สำหรับรถเตี้ย ถ้ารถสูง ราคาเฉลี่ย “7,500 บาท” ครับ…

ถ้าจะให้ชัวร์กว่านั้น ก็จะมีการสร้าง “A-Arm” เป็นแท่งทรงตัว A เกาะอยู่บนเสื้อเพลาตรงเฟืองท้าย (ส่วนใหญ่เรียก “กระโป_” เพลา) อีกฝั่งเกาะอยู่ตรงคานที่สร้างขึ้นมารับใหม่ รุ่นเก่าตรงจุดยึดจะเป็น Ball Joint ส่วนรุ่นใหม่ จะพัฒนาเพิ่ม “โตงเตง” เพื่อให้ระยะให้ตัวดีขึ้น ขับถนนนุ่มนวลขึ้นกว่ารุ่นเก่า แต่รับแรงตอนออกตัวได้ดีกว่า ราคาค่าของค่าแรง “25,000 บาท” แต่ต้อง “แก้ถังน้ำมัน” ให้มีขนาดเล็กลงด้วย เพราะของเดิมติด A-Arm นั่นเอง แต่ก็ต้องคน “เซตเป็น” นะครับ ว่าระยะยุบเท่าไร รถสูงเท่าไร ขนาดยางเท่าไร ปรับมุมเงยเพลาเท่าไร ถึงจะเหมาะสม…

เกียร์เบนซิน หรือ VGS ดี ???
มาถึงระบบส่งกำลัง ชุดคลัตช์อัพเกรดประมาณ “หมื่นกว่าบาท” ส่วน “เกียร์” ถ้าจะเล่น “ตรงยี่ห้อ” อย่างที่บอกไป “เกียร์จากรุ่น 3.0 VGS” ที่ราคามหาโหดอยู่แถวๆ “65,000-70,000 บาท” เกียร์อย่างเดียวนะพ่อคุณ เป็นเกียร์ลูกใหญ่ที่ทนทานมาก แต่ก็ย่อยไปอีก 2 รุ่น คือ VGS ใน D-MAX รุ่นก่อนหน้า ตั้งแต่ปี 2008 มาถึงปี 2011 ก้ำกึ่ง 2012 เป็นแบบ “คลัตช์ดูด” ใครจะรู้ว่าไอ้เกียร์รุ่นนี้แหละที่ “ฮอตฮิต” แทนที่จะเป็น All-New รุ่นใหม่ ??? จากข้อมูลที่ได้มา รุ่นนี้จะ “ทนทานและแข็งแรงกว่า” อัตราทดดีกว่า ถ้าจะเอามาชนกับเครื่อง 2500 เฉยๆ ไม่ได้ เพราะ “แคร็งค์เครื่องไม่เหมือนกัน” อีก ตัว VGS จะ “บาน” กว่า ก็จะต้อง “สลับหัวหมู” (มันถอดนอตออกได้เลยครับ) แล้วก็ซื้อหัวหมูหล่อขนาด 11 นิ้ว มาใส่ เพราะจะได้ใส่คลัตช์ “10 นิ้ว” ที่มีขนาดใหญ่เหลือเฟือได้ ซึ่งคนก็แย่งกันหา เพราะถ้าแปลงใส่กระบะยี่ห้ออะไรก็ได้ “เวลาลง” แน่นอน แต่ถ้า “เกียร์พัง” ก็ต้องเตรียมไว้ประมาณ “3-4 หมื่น” ในการซ่อม แต่ถ้าจะเอาเวลาก็ต้องยอมแลก…

หรือถ้าขี้เกียจจ่ายแพงกับเกียร์ VGS ก็เล่น “เกียร์เบนซิน” ยอดฮิตก็ไม่พ้นตระกูล NISSAN อย่าง “VG30DETT, RB25DET, YD25DDTi” ไอ้ VG30DETT (ด้ามเกียร์โยง) ราคาปาไปกว่า “25,000 บาท” !!! แพงเพราะสายดีเซลนิยมเอาไปแปลงใส่นี่แหละครับ ฮ่าฮ่า (ผมก็ใช้เกียร์รุ่นนี้ชนเครื่อง RB อยู่ ตอนก่อนหน้าไม่กี่ปี ราคาหมื่นต้นๆ ทำไมกูไม่ซื้อเก็บไว้วะ) แต่ก็ต้อง “อัพ” กันอีกหน่อย เอา “ชุดเฟืองเกียร์อัตราทดแบบ OS Giken” มาใส่เข้าไป อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาว่าใครจะเล่นอะไร ส่วนเฟืองท้าย ก็มี “ของไทย” ขายชุดบายศรีกับเดือยหมู อัตราทดที่เหมาะสมก็น่าจะเป็น 3.1 ในสเต็ปนี้ครับ ราคา “10,000 บาท” ส่วน “ลิมิเต็ดสลิป” เปลี่ยนของ “ISUZU MU” ใส่ อันนี้อยู่ที่ว่าได้ของยากหรือง่าย ราคาก็มีเปลี่ยนแปลงได้…

แรงม้า + เวลาควอเตอร์ไมล์
บทสรุปถึง “พละกำลัง” ของการโมดิฟาย ใช้เทอร์โบ ISUZU 3000 ผสมไส้ T-04 HL ถ้าเป็นเครื่อง 2.5 ลิตร จะได้แรงม้าเฉลี่ย 300-330 PS ถ้าเป็นเครื่อง 3.0 ลิตร ได้แรงม้าเฉลี่ย 300-370 PS ถ้าเป็นเครื่อง 3.0 ลิตร ที่โมดิฟายตัวเครื่องด้วย เช่น เปลี่ยนแคมชาฟท์ ฯลฯ พวกนี้จะใช้บูสต์ทะลุไปได้ถึง “55 psi” แรงม้าได้ในระดับ “400 PS ++” ไม่น้อยเลยนะครับสำหรับเทอร์โบที่มีขนาดย่อมเยา ถ้าเป็นรถวิ่งถนน เครื่องไม่ได้ทำอะไร เอาบูสต์แบบ “เบๆ” ก็ต้องมี “45-47 psi” แน่นอน ขนาดนี้กำลังดีครับ ทนๆ ไม่พังง่าย…

สำหรับเวลาควอเตอร์ไมล์ ขอพูดถึงเฉพาะ “รถถนน” แอร์เย็น เพลงเพราะ เบาะครบ ยางเรเดียล คนขับพอจะ “เป็น” (แต่ไม่ต้องถึงมือแข่งอาชีพ) เวลาที่ได้ก็เห็นเลข “สิบสองกลาง-สิบสามต้น” ไม่ยากเลย ส่วน “ฟีลลิ่ง” การขับขี่ อัตราเร่งไม่รอรอบ เพราะยังใช้โข่งหลังเดิม แต่จะเห็นชัดในช่วง “กลางถึงปลาย” ที่เทอร์โบสเต็ปนี้จะ “ไปไกล” กว่าเทอร์โบเดิมเยอะเลย ซึ่ง “ขับสนุก” แรงกำลังดี…
จ่ายเท่าไรดี

สำหรับ “งบประมาณ” ก็ลองบวกๆ กันดูที่บอกมา แต่ถ้า “ตีเหมา” ตามความแรงที่เราอยากได้ ถ้าเป็นรถวิ่งถนน ประมาณ “300 +/- PS” ใช้งบประมาณ “100,000 +/- บาท” (ไม่โมดิฟายเครื่องยนต์) แต่ถ้าขยับแรงม้าไป “300 กลางๆ ถึงปลาย” โมดิฟายเครื่องด้วย ก็บวกไปเป็น “200,000 +/- บาท” แต่ถ้าจะ “ล่อเต็มพิกัด” ก็กำไว้ “300,000 +/- บาท” สำหรับราคาเหมานี่ตีจาก โมดิฟายเครื่องยนต์, กล่อง, ระบบเทอร์โบ + อินเตอร์คูลเลอร์, หม้อน้ำ, ช่วงล่าง + A-Arm และไอ้จุกไอ้จ้อย ค่าแรง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกัน ราคาก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ตาม “ของ” ที่เราต้องการ รวมถึงการคิดค่าแรงของ “อู่” แต่ละเจ้าด้วยครับ ขอให้ “สอบถามก่อนตัดสินใจทำ” นะครับ…

Garage & Shop
สำหรับอู่ที่โด่งดังในด้านการโมดิฟายดีเซล จริงๆ ก็เก่งกันหลายอู่มากๆ นะครับ ยกตัวอย่างทุกที่คงไม่ไหวจริงๆ ก็ขอคัดเลือกหน่อยแล้วกัน โดยยึดถือ “ผลงาน” จากการแข่งขัน Souped Up Thailand Records 2015 ที่ผ่านมาเป็นหลักนะครับ แต่บอกเลยว่า “แต่ละอู่เร็วพอๆ กัน” สเต็ปการโมดิฟายก็คล้ายกัน เวลาในการวิ่งก็ต่างกันไม่มาก หรือแทบจะเท่ากัน ทั้งนี้ อยู่ที่คุยกับใครแล้ว “เคลิ้ม” เอ๊ย “ชอบ” มากกว่าครับ ทาง “ลูกค้า” สามารถตัดสินใจได้เองเลยครับ…

หนุ่ย & เป๋อ สุพรรณบุรี
เปิดตัวสวยงาม กับอันดับ 9 Over All และอันดับ 2 รุ่น Super Max Diesel ตอนนี้ทางอู่ทำตัวแข่งสเต็ปนี้ได้เร็วที่สุดแล้ว อยู่ที่ “10.8 วินาที” นับว่าเร็วมากๆ ทีเดียว แต่เป็น D-MAX รุ่นก่อนหน้า ที่น้ำหนักเบากว่ารุ่นปัจจุบัน ถ้าเป็น All New D-MAX ก็จะอยู่แถวๆ “11.0 วินาที” ทางอู่จะมีการโมดิฟายหลากหลายสเต็ปให้เลือกครับ สำหรับรถถนนก็รับทำ ถ้ารักชอบก็ไปเลยครับ ร้านอยู่ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เน้อ…
Contact : Facebook/หนุ่ย-เป๋อ-สุพรรณ, Tel. 08-6688-1750

จ๊อบ มนตรีดีเซล
คว้าอันดับ 10 Over All และอันดับ 3 รุ่น Super Max Diesel พอดี กับ “จ๊อบ มนตรีดีเซล” ทำตัวแข่งสเต็ปนี้ เวลาดีสุดเฉลี่ยแถวๆ “11.2 วินาที” ก็เรียกว่าไม่ทิ้งกันมากนัก “พอๆ กัน” แต่ถ้าเป็นรถบ้าน เครื่อง 3.0 ลิตร โมดิฟายเครื่องด้วย ร้านอยู่โซน “นครปฐม” ครับ…
Contact : Facebook/อู่-Jobmontri, Tel. 09-0986-7716

โอ๊ต อู่ช่างขวัญ
สำหรับ “โอ๊ต อู่ช่างขวัญ” นี่ก็ติดอันดับ 2 ในรุ่น Pro Truck ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ทำ รถแข่งสเต็ปนี้เขาก็มีแน่นอนครับ ทำเวลาได้เฉลี่ยแถวๆ “11.1 วินาที” ไม่แพ้ใครเหมือนกัน สำหรับรถบ้านก็รับทำแน่นอน คุยกันง่ายๆ ตรงๆ ใครอยู่ฝั่ง “รังสิต” หรือโซนอื่น อยากไปก็จัดเลยครับ…
Contact : Facebook/โอ๊ต ฐาปกรณ์, Tel. 08-6341-4724

Nu Diesel Performance
เป็นผู้ที่ให้ข้อมูลกับทาง XO AUTOSPORT ในครั้งนี้ สำหรับสไตล์ของ “ช่างนุ” แห่ง Diesel Performance คลอง 12 (ธัญบุรี) จะเน้นการโมดิฟาย “รถวิ่งถนน” เป็นหลัก ไม่เน้นบ้าพลังมาก แต่เน้น “ลงตัว” เก็บงานเรียบร้อย และวางระบบไว้ชัดเจน สามารถซ่อมบำรุงที่ไหนก็ได้ทำ ISUZU สไตล์รถใช้งานวิ่งถนนได้ ยางเรเดียล ไม่รื้อชิ้นส่วนใดๆ ทั้งสิ้น ทำเวลาเฉลี่ย “12 วินาที กลางๆ” ครับ…
Contact : Facebook /Nu.Diesel, Tel. 08-1772-2432

เบสท์ เทอร์โบยำ
ลูกหม้อของ “ช่างเบิร์ด หลักห้า” ที่ตอนนี้มาเปิดกิจการเอง ถ้าเป็นตัวแข่ง ยาง Drag Radial วิ่งอยู่ที่ “11.3 วินาที” สไตล์การ “ยำเทอร์โบ” ของ “เบสท์” จะชอบใช้ใบหน้า T-04 HL “ของแท้” เพราะมีความทนทานสูงกว่าใบโมดิฟายราคาประหยัด ที่เกรดโลหะไม่ถึง ทำให้ “งอ” เสียหายง่าย ร้านนี้ต้องไปย่าน “มหาชัย” ถึงจะเจอ…
Contact : Facebook /best.turboyum, Tel. 08-3075-55987