Toyota Mark II “Shakotan” GX81

XO 259
PHOTO : ธัญญนนท์ แสงภู่

ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง…ฉันไม่รู้จักส้มเป็นการส่วนตัว  ซึ่งก่อนหน้านี้ ส้มจะสร้างรถมาลงใน XO autosport มาโดยตลอด จนมีอยู่วันหนึ่ง ฉันได้รับโจทย์ที่จะต้องแก้ปัญหา ด้วยความอะไรก็ไม่รู้มาตกลงที่ฉัน บอกว่ารูปรถคันนี้ต้องปัง  นี่คือจุดเริ่มต้นของฉันกับส้มได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก หน้าปก S14 Rocket Bunny ที่จอดอยู่กลางสะพานพุทธ

แต่อย่างที่พี่ตูน บอดี้สแลม บอก There is no Finish Line. Just new Goals เป้าหมายใหม่ของฉันกับส้มก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง  ส้มถามฉันว่า คราวนี้ถ่ายที่ไหนดี คำตอบแรกส้มได้รับจากฉัน คือ นั่นดิ!! ซึ่งส้มเองก็พยายามทำการบ้าน ออกค้นหาสถานที่ เพื่ออยากให้รถคันที่เค้ารักไปจอดอยู่เฟรมนั้น อย่างที่เค้าตั้งใจ  ส่วนฉันเองก็คิดสับสนไปมา เหมือนเด็กเอาดินสอฝนลงที่กระดาษ ทำซ้ำไปซ้ำมา ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี  แล้วยิ่งเห็นรถโปรเจกต์ใหม่ของส้มด้วยแล้ว บอกเลยว่า รถคันนี้ไม่มีอะไร ความสนุก ความเจ๋ง มันเกิดจากไอเดียของเจ้าของรถ 100% ฉันไม่รู้ว่าการเดินเข้าไปสู่ลัทธินี้ เริ่มต้นขึ้นกับส้มตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาไว้ไปฟังส้มเล่า แต่หน้าที่ของฉันคือถ่ายทอด วัฒนธรรมการแต่งรถในแบบฉบับญี่ปุ่นลักษณะนี้  ให้เห็นว่าประเทศไทยก็เริ่มมีคนเล่นรถแนวนี้เหมือนกันครับ

จากการที่ได้คุยกับส้มถึงการแต่งรถในสไตล์นี้  จุดเริ่มต้นมันก็จากการที่เคยเล่น Rocket Bunny มาก่อน เพราะการออกแบบชุดแต่งในประเภทนี้ก็มีจุดกำเนิดมาจากรถยุคนั้น  ฉันจะให้ส้มเป็นผู้เล่าถึงการเดินทางเข้ามาสู่จุดนี้ครับ “หลังจากที่จบโปรเจกต์ S14 Rocket Bunny ไปแล้ว มันเริ่มอินและลงลึกกับรถในสไตล์นี้มากขึ้น ก็แลยมีความคิดที่ว่าจะไปต้องไปให้ถึงออรินอล หลังจากที่ค้นหาข้อมูลใน Internet ซึ่งส่วนใหญ่ฝรั่งเป็นคนที่เขียนบทความขึ้นมา หลายๆ บทความผมก็ไม่กล้าฟันธง เพราะคนที่จะตอบได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นคนญี่ปุ่นเองเท่านั้น  แต่ก็หาไม่เจอ ต่อให้หาเจอก็แปลออกได้ไม่ครบทุกสำนวน  ผมได้ถามเพื่อนที่เป็นคนญี่ปุ่น มันก็ตอบว่า “Can’t Explain, You need go to japan and feel it.” คือประมาณว่า อธิบายไม่ได้ ต้องลองมาสัมผัสเอง

จากข้อมูลทั้งหมดที่เสพย์มา ก็น่าจะพออธิบายได้ไม่คลาดเคลื่อน ต่อให้คลาดเคลื่อนก็นิดหน่อย ทุกคนจะเรียกรถในลักษณะนี้ว่า Bosozoku ซึ่งความหมายของคำนี้ในภาษาอังกฤษคือ Violent Running Gang แก๊งรถแว้นแต่งซิ่งหัวรุนแรง อะไรประมาณนั้น หรือจะมีอีกคำที่คนญี่ปุ่นเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Zokusha
ต้นกำเนิด Boso เกิดในช่วงปี 50’s หลังสงครามโลกครั้งที่ 2  เป็นกลุ่มคนที่มีความคิดแบบสุดโต่ง มีความบ้าคลั่งในตัวเองสูง แสดงออกทุกอย่างแบบไร้ขอบเขต อาทิ แฟชั่นการแต่งตัว และยังรวมถึงการแต่งรถรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่มีลักษณะชัดเจน ช่วงบูมสุดคือยุค 70’s-80’s และเริ่มมีสมาชิกจำนวนน้อยลงไปในยุค 90’s ดังนั้น รถที่เป็นแนวนี้จะพบเห็นได้มากสุดก็คือรถญี่ปุ่นที่ผลิตขึ้นระหว่าง ปี 70’s-80’s  ซึ่งหลักๆ ก็มี 2 ค่าย Datsun กับ Toyota ที่นิยมในยุคนั้น ซึ่ง Boso ก็แยกแนวการตกแต่งออกได้อีก 4 ประเภท  Yankee, Kyusha, Kaidoracer และ Shakotan
Yankee รถแนวนี้จะมีสีสันฟรุ้งฟริ้ง คาด Sticker สีฉูดฉาดตัดกัน แต่ในยุคนั้นไม่สติกเกอร์นะครับ พ่นกันสดๆ รวมถึงสีที่เป็น Metalflake พวกสีเกล็ด กากเพชร ตัวบอดี้ก็จะมีลักษณะที่มีโป่งยักษ์ๆ ล้อขอบเล็ก แต่ออฟเซตโคตรลึก ส่วนใหญ่จะชอบใช้พื้นสีม่วง Rollbar สีเหลือง ใช้แบบทรงเดียวคือครึ่งคันหลังวิ่งลงกระจก ประมาณว่าไม่เน้น Safety แต่ขอให้คนดูต้องเห็น และมีห่วงติดลากพื้นท้ายกันชน หรือติดในตัวรถก็ว่าไป  Oil Cooler ห้อยหน้า สายระโยงระยาง ท่อไอเสียยาว แต่ไม่ได้สูงเป็นเมตร ตัวรถยังคำนึงถึงความเนี้ยบอยู่ สัญลักษณ์รถ Yankee คือ ดาว บอกถึงความเป็นเอกเทศ ไม่ยึดติดหรือตามแบบใคร ต่อต้านกระแสหลัก

Kyusha คือ Japanese Old Classic Car อันนี้ง่ายเลย คือรถ Retro ยุคปี 70 เห็นภาพสุด บ้านเราส่วนใหญ่คือแนวนี้ โป่งพอดี เรียบร้อย ไม่ได้อลังการ เตี้ยแต่พอดี เช่น C10, C110, 240Z, RX-3, Celica
Kaidoracer คือ รถที่ทำเลียนแบบรถแข่ง Group 5 ในสนาม Fuji Speedway เห็นภาพชัดสุดคือ R30 Tomica ลิ้นหน้ายาว โป่งกันดั้ม ปีกหลังสูง ในรถแข่งจะทำออกมายึดหลักอากาศพลศาสตร์เป็นหลัก แต่พอพวก Boso มาทำ ก็ตามมีตามเกิด ไม่ได้มีหลักอะไร ขอแค่เด่นพอ ส่วนใหญ่จะเอาแนวนี้มาทำ เพราะดูอลังการสุด
Shakotan คือรถเตี้ยสุดลากพื้น มีโป่งหรือไม่มีก็ได้ ล้อจะแบะหรือไม่แบะ ก็ว่าไป แต่ล้อก็ต้องล้อเล็ก ออฟเซตลึกสุดที่ยังอยู่ในโป่ง (ที่ไม่ใช่โป่งยักษ์) เป็นชื่อที่ญี่ปุ่นใช้เรียกรถเตี้ยในยุค 70’s-80’s เท่านั้น
ส่วน Bosozoku จะเกี่ยวเนื่องกับการแต่งรถทั้ง 4 แนวนี้มารวมกัน คือ Freedom อิสระ อยากใส่ไรใส่เลย เอาจุดเด่นสุดของทุกอย่างมารวมกัน เช่น สีสันของแยงกี้ แต่อาจไม่สีสันก็แล้วแต่ โป่งยักษ์ ชุดแต่งอลังการของ Kaido ความเตี้ยสุดของ Shakotan แต่ขอให้หลุด โดยการเพิ่มท่อชี้ฟ้าหรือตีเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น ดาว หรือสายฟ้า เน้นต้องสีเหลืองเหมือน Rollbar ในแยงกี้ หรือตีท่อออกฝาหน้ากระโปรง ตัดหลังคา ล้อ อาจเป็นล้อเหล็กผ่าเพราะไม่มี โป่งอาจจะทำมาจากกระดาษ
อย่างในแก๊งเดียวกันที่ทุกคนเรียกว่าเหมาว่า Bosozoku ก็มีทั้ง Kaido Shakotan Yankee และ Kyusha  เกี่ยวเนื่องกันครบทุกสไตล์  เพราะมันคือการเเต่งรถยุคเดียวกันของคนญี่ปุ่นยุคนั้น

ล้อที่รถแนวนี้ใส่ก็ต้องเป็นล้อที่ผลิตในยุคนั้น ขนาดที่นิยมสุดคือขอบ 14 นิ้วใหญ่สุดคือขอบ 15 นิ้ว แต่หน้าต้องกว้าง ออฟเซตต้องลบ ยิ่งลึกเป็นกระโถนยิ่งสุด แล้วต้องเป็นล้อญี่ปุ่นเท่านั้น  ซึ่งทุกวันนี้ราคาล้อที่นิยมในยุคนั้น ราคาไปไกลมากแบบที่ใครไม่เสพย์ไม่มีทางเข้าใจ ยิ่งกว้างยิ่งแพง บางตัวราคาสามารถถอยรถ ECO CAR ได้สบาย หรือจะเอาล้อเหล็กเดิมโรงงานมาผ่าก็เป็นอีกแนวทางที่นิยมกัน
สำหรับรถผมที่นำมาทำให้เป็นในแนวทาง Shakotan ได้นำเจ้า Toyota Mark II  GX81 ปี 1989 มาทำครับ เป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Creata Chaser Cresida รวมเรียก  X Chassis ทุก Series เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่แก๊งรถแนวนี้ในญี่ปุ่นจะจับมาทำ ด้วยทรงรถที่มีขนาดใหญ่ แบน ยาว ภายในหรูหรา กดเตี้ยแล้วแนบพื้น ทุกวันนี้คนที่แต่งรถรุ่นนี้จะเป็นจิ้กโก๋รุ่นพ่อซะส่วนใหญ่ เพราะตรงกับช่วงอายุ แต่ก็มีวัยรุ่นบางกลุ่มเอามาเล่น หน้าตาก็จะออกมาแบบคันนี้ ไม่ว่าจะใช้ในการ Drift หรือรวมเป็นแก๊งของคนยุคใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะรหัส GX 71 กับ GX 81
ซึ่งทั้ง 2 ซีรีส์ไม่มีรถขายในบ้านเรา ที่หลงอยู่ก็นับคันได้ นั่นก็คือรถทูต หนึ่งในนั้นคือคันนี้ บ้านเราที่มีขายคือ JZX 90,  JZX 100 คือรถปี 90 ไปแล้ว เดิมทีรถคันนี้คือ GX 81 แต่เปลี่ยน Minor change เป็น JZX 81 คือ กันชนหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า ลิ้นหน้า และกันชนท้าย  เครื่องเดิมติดรถรหัส 1G GE  ผมเสียใจมาก เพราะเจ้าของก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็น 1JZ GTE การที่จะเล่นให้ตรงแนวยุคนั้นต้อง NA ไม่ G หรือ M เท่านั้น ไม่มีการ Modify ใดๆ ทั้งสิ้น เปลี่ยนแค่ Header ท่อไอเสียรีดเล็กแป๊ปตรง เบิ้ลตลอดทาง เพื่อเสียงที่แผดกวนแก้วหู ไม่ได้เน้นความเร็ว บางคนจะต่อปลอกคันเร่งมอเตอร์ไซค์ออกมาตรงช่องเสียบกุญเเจ เพื่อเบิ้ลได้เป็นจังหวะขึ้น รถแนวแก๊งซิ่งกวนเมืองเค้าวัดกันที่เสียงเบิ้ลคันเร่ง แก๊งเดียวกันจะเบิ้ลจังหวะเดียวกันทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ รวมถึงเสียงแตรลมก็เช่นกัน ต้องเพลงเดียวกัน
แต่งทุกอย่างตามตำราของรถ Shakotan ยุค 80’s โดยเอากลิ่นอายของ Yankee เข้ามา การคาดลายสีฟรุ้งฟริ้งอารมณ์รถในสนามแข่ง สีต้องตัดกัน ยี่ห้อ Sponser ก็ต้องเป็นของยุคนั้น เอา Idea เค้ามา สีคิดเอง ลายคิดเอง เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเลียนแบบ จากที่สังเกตดู Reference แต่ละคันของญี่ปุ่น ผมว่ามันเหมือนศิลปะ วัด Idea กันเลยดีกว่า เหมือนจะมั่ว แต่เค้าไม่ได้มั่วนะ มันมีต้นมีจบ ต่อเนื่องทั้งคัน  Tsurikawa เป็นของที่ต้องมี ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าไร ไอ้ห่วงห้อยท้ายรถอ่ะ อันนี้เป็นของหายาก ผลิตโดย Tokyo Disney Land

ไฟท้าย ถ้าจะ Custom นิยมสุดมีแค่ 2 ตัวคือ ไฟท้าย Cherry X1R กับตัวที่ผมใส่เป็นไฟท้าย รถ 4 ล้อเล็กในยุคนั้น ติดเฉียงโดยไม่มีเหตุผล ด้านหลังต้องใส่ Slit Spoiler มันเหมือนกับเอา Spoiler ฝาท้ายมากวนตีนใส่ด้านล่าง เพื่อโชว์เหนือว่ารถเตี้ยเสมอกันรอบคัน
Flash Ball ต้องสีม่วงเท่านั้น อันนี้เป็นของเก่าเก็บพาร์ท Genuine Toyota หายาก งานเก่าตรงยุค ปกติไว้วางบนหลังคาตอน Safety รถเสีย แต่ Boso จะวางด้านหลังเปิดตลอดทางโดยไม่ต้องมีสาเหตุ  พวงมาลัยต้องไม้ คันเกียร์ต้องต่อยาว หัวเกียร์ Acrylic ด้านในใส่ของท้องถิ่น ในเขตที่แก๊ง นั้นๆ อยู่ ของผมคือตะขอตกปลา บ่งบอกว่ามาจากเขตจังหวัตติดชายทะเล
ไฟหน้าเทพสุดของ Yankee คือ Marchal กับ Cibie หลายคันก็ติด Sticker กวนๆ แบบนี้ที่ไฟหน้า ประมาณว่าติดหลอกๆ รถของฉันใช้ไฟหน้ายี่ห้อนี้ เพราะพวกนี้มาจากตลาดล่าง ทุนค่อนข้างน้อย  ส่วนกระจกมองข้าง Vitalony Californian 70% ใส่ตัวนี้ ปรับให้เอียงเพื่อมองยาก แต่เท่อะไรประมาณนั้น

ล้อแม็ก ผมใช้ SSR Formula Mesh ขนาด 15 นิ้ว หน้า 9 ออฟเซต -17 หลังกว้าง  11 ออฟเซต -27 ยาง RS 3 หน้า 205 และหลัง 225 โช้คของ Jic Magic ชุดห่วงปรับหลัง KFD ส่วนไฟท้ายใช้ของ  Mazda Porta Cab มาแปลงเอาครับ สีบอดี้เป็นฝีมือ K Shop บางแสน ส่วน Sticker จาก Wrap Icon ครับ
Sticker TEQ สีแดงที่ฝากระโปรงหน้าคือ Logo Toyota ยุคนั้น จริงๆ ไม่ได้อ่านว่า TEQ แต่มันคือภาษาญี่ปุ่นว่า Toyota ที่ฝรั่งมองว่าเหมือนอักษรอังกฤษ TEQ  จะสังเกตได้ว่า รถ Yankee ต้องมีสัญลักษญ์ดาวอยู่เสมอ  ส่วน Sticker คาดกระจกหน้ารถแนวนี้มีทุกคัน คนรุ่นใหม่เอามาทำจะติดเป็นชื่อทีม  ส่วนผมก็เลยตั้งชื่อว่า Team Tinky ให้รถคันนี้เป็นอันจบ ครบตามตำรา”
สิ่งที่ส้มเล่าให้ฟัง  มันไม่ง่ายเลย ในการจะเอาใจใส่ไปในตัวรายละเอียดของรถ  จะเล่นต้องรู้  ต้องศึกษา แน่นอนว่า ทุนก็เป็นกำลังหลักสำคัญในการเล่น แต่ถ้าใช้ทุนอย่างเดียว รถมันก็จะออกมาแพตเทิร์นเดียวกันหมด  คือมีสตางค์ ก็อยากให้ใส่สไตล์ควบคู่กันไปด้วย  ยังไง สองสิ่งนี้รวมกันมันส์กว่า อย่างที่สโลแกนลีโอบอก แน่นอนครับ

*เพื่อความสะดวก กรุณาดู Video ผ่าน Google Chrome