โปรยหัวก็รู้แล้วว่าสีนั้นแสบทรวงขนาดไหน…ดูเอาละกัน ระหว่าง TOYOTA SUPRA กับ 200 SX FACE OFF S15 (215 SX) ที่จัดเยอะ…จากอู่ ของนายรุ่ง R SPEC II และ UNI CAR ร่วมจอยกันสร้างผลงานเด่น ๆ ออกมาเสมอๆ
ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เดี๋ยวเนื้อที่จะไม่พอ ภายในของ SUPRA จัดเยอะ มากับชุดพาร์ทของค่าย TRD เวอร์ชั่น 3000 GT มีทั้งกันชนหน้า, โป่งหน้า-โป่งหลัง WIDE FENDER, สเกิร์ตข้าง และกันชนหลัง ส่วนของแต่งนอกเหนือจากชุดแต่ง 3000 GT แล้ว ยังมีของแต่งลดน้ำหนักด้วย ฝากระโปรงหน้า CARBONFIBER จาก TOP SECRET กระจกมองข้าง CARBON จาก CRAFT SQUARE และหางหลัง CARBON GT WING จาก TOP SECRET ส่วนไฟคู่หน้าและไฟท้าย อัพเกรดเป็นของรุ่น MINOR CHANGE
ภายใน เลือกเปลี่ยนเท่าที่จำเป็น และเหมาะสม มีเบาะคู่หน้า BRIDE รุ่น STRADIA II พวงมาลัยสามก้านจาก MOMO หัวเกียร์ CARBON ของค่าย VARIS ส่วนหน้าปัดเรือนไมล์เดิม ถูกสับเปลี่ยนด้วยเกจ์วัดแบบ MULTI-FUNCTION จาก DEFI ตัวเดียวคุ้ม…ไม่ต้องมีเกจ์วัดหลาย ๆ ตัวเรียงแถวให้ลายตาอีกต่อไป นอกจากนั้นก็เป็นตัวปรับบูสต์ไฟฟ้าจาก GReddy PROFEC B SPEC II และอัพเกรด HEAD UNIT ของเครื่องเสียงเป็นของ PIONEER
เครื่องยนต์ แน่นอนละ รถใช้งานบนถนนแบบนี้ คงไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนเครื่องไปจากเดิมของบอดี้นี้แน่ ๆ นอกจากจะอัพเกรดจาก NA เป็น TURBO ก็เท่านั้นเอง สำหรับคันนี้เครื่อง 2JZ-GTE ถูกปรับแต่งไปพอสมควร โดยท่อนบนได้อัพเกรดเป็นของแต่งที่มีความทนทานในรอบสูงมากกว่า เริ่มจาก ตัววาล์ว, รีเทนเนอร์ วาล์ว, และสปริงวาล์ว เป็นของ FERREA ตัวกำหนดการเปิดรับไอดีและคายไอเสีย ได้มากและเร็วขึ้นเป็นหน้าที่ของแคมชาฟท์ของ HKS ขนาด 280 องศา ลิฟต์ 9.3 มม. เท่ากันทั้งสองด้าน พร้อมตัวปรับเฟืองแคมสไลด์จาก GReddy ท่อนล่างเปลี่ยนลูกสูบ เป็นของ CP PISTON ขนาดใหญ่ขึ้นอีก 1 มม. เป็น 87 มม. ก้านสูบทนทานขึ้นจาก CROWER แบบ I-BEAM ชาฟท์อก ชาฟท์ก้านสูบจาก CALICO นอตยึดก้านสูบ และข้อเหวี่ยงจาก ARP ส่วนขั้นตอนส่วนท้าย นำข้อเหวี่ยงเดิมไปบาลานซ์ เพื่อความ SMOOTH ขึ้น และพูลเลย์ถ่วงสมดุลข้อเหวี่ยงจาก ATI
จากนั้นในส่วนขององค์ประกอบในการเสกม้าให้มายกฝูง จึงเปลี่ยนตัวเทอร์โบมาใช้ตัวเดียวใหญ่ขึ้นจาก GReddy T88-38GK ติดตั้งบนเฮดเดอร์เทอร์โบ สเตนเลสจาก ปรีชา เฮดเดอร์ พร้อมเวสต์เกตแยกคุมบูสต์จาก TIAL โดยมีระบบคายไอเสียเป็น TITANIUM ทั้งเส้นยันหม้อพักใบสุดท้าย ส่วนระบบไอดี ถูกขยายให้เพียงพอกับแรงดันที่มากขึ้น ด้วยอินเตอร์คูลเลอร์จาก HKS GT ลิ้นปีกผีเสื้อขนาด 100 มม. และท่อร่วมไอดีขนาดใหญ่จาก GReddy ต่อด้วยระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยายใหม่หมด ด้วยปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง BOSCH 044 x 2 หัวฉีดขนาด 1,000 ซี.ซี. จาก SARD รางหัวฉีดและตัวปรับแรงดันน้ำมันจาก HKS เพิ่มระบบรักษากำลังไฟจุดระเบิดให้เสถียรและคงที่สม่ำเสมอด้วย HKS TWIN POWER และหัวเทียน GReddy เบอร์ 9 นอกจากนั้นยังมีระบบระบายความร้อนให้กับน้ำมันเครื่องด้วย OIL COOLER จาก TRUST เปลี่ยนหม้อน้ำแบบอะลูมิเนียม พร้อมแผ่นบังลมหม้อน้ำจาก ARC พูลเลย์หน้าเครื่องลดน้ำหนัก และกระป๋องอะลูมิเนียมไล่น้ำของระบบน้ำหล่อเย็นจาก GReddy โดยระบบการทำงานทั้งหมดส่งการทำงานด้วยกล่อง HKS F-CON V PRO 3.2 VERSION จูนโดย บอล จูนเนอร์ ได้แรงม้ากว่า 742.6 แรงม้า ที่บูสต์ 1.8 บาร์ ระบบส่งกำลังยังใช้เกียร์เดิม 6 สปีด พร้อมชุดคลัตช์ซิ่ง FOUR PLATE จาก OS GIKEN อัตราทดเฟืองท้าย 3.26 พร้อม LSD จาก TRD 1.5 WAY
ช่วงล่าง มองมาที่จุดหลัก ๆ อย่างโช้คและสปริง เป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่มีความแข็งขึ้นจาก TEIN TYPE FLEX ค้ำโช้คหน้าและหลัง CARBON จาก CUSCO ชุด LINKS & ARM ต่าง ๆ จาก IKEYA FORMULA และอัพเกรดระบบเบรกหน้าและหลัง ด้วยคาลิเปอร์คู่หน้า 6 pot หลัง 4 pot จานดิสก์เบรกขนาด 380 มม.และ 355 มม. จาก PROJECT MU ส่วนล้อที่เลือกใส่เป็นของ VOLK RACING รุ่น CE28 ขนาด 19 x 10 นิ้ว และ 10.5 นิ้ว ยาง MICHELIN PILOT SPORT ขนาด 275/30ZR19 และ 285/30ZR19
อีกหนึ่งคันที่มาจากอู่เดียวกัน 200 SX FACE OFF SILVIA S15 หรือที่นิตยสารเราจะเรียกว่า 215 SX โดยตัวกันชนหน้าเป็นของ M SPORTS พร้อมลิ้นหน้า และ CANARD CARBONFIBER มาครบชุด ฝากระโปรงหน้า CARBONFIBER จาก MASA และชุด WIDE FENDER บังโคลนคู่หน้าเป็นฝีมือช่างในบ้านเรา เคาะขึ้นรูปใหม่ ขนาด 40 มม. ส่วนชุด WIDE FENDER หลัง เป็นของ D-MAX ขนาด 50 มม. ต่อชายล่างด้วยสเกิร์ตข้างจาก HIPPO SLEEK D-PAD ตัวกระจกมองข้าง CARBON จาก CRAFE SQUARE ส่วนสปอยเลอร์หลังเป็นของ C-WEST พร้อมไฟท้าย LED แบบ CLEAR LENS จาก GANADOR
ภายใน ตอกย้ำความเป็น 200 ผสม S15 ด้วยการเปลี่ยนคอนโซลหน้าเป็นของ SILVIA S15 พวงมาลัย SPARCO หัวเกียร์ CARBON จาก VARIS ส่วนเบาะคู่หน้าบั๊กเก็ตซีต จาก BRIDE รุ่น STRADIA II พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด จาก TAKATA ส่วนโรลบาร์ เป็นงานสร้างของ BRP พัทยา แบบ 6 จุด เกจ์วัดมีหลายส่วน ทั้งตัวปรับบูสต์ไฟฟ้าจาก HKS EVC 5 และเกจ์วัดต่าง ๆ 6 ตัว รวมทั้งวัดรอบจาก DEFI และดิจิตอล DEFI LINK DISPLAY นอกจากนั้นเป็นของตกแต่งสวยงาม และลดน้ำหนักด้วยแผงข้างประตู CARBON INNER DOOR COVER เป็นของ ORIGIN พร้อมกระจกมองหลัง CARBONFIBER จาก ZOOM ENGINEERING
ในส่วนของเครื่องยนต์ เปลี่ยนเป็นของค่าย TOYOTA 6 สูบ รหัส 2JZ-GTE โมดิฟายไปไม่น้อย ด้วยท่อนบนเปลี่ยนแคมชาฟท์ทั้งไอดีและไอเสีย จาก HKS ขนาด 280 องศา ลิฟต์ 9.3 มม. พร้อมตัวปรับเฟืองแคมสไลด์ HKS ส่วนท่อนล่างยันเดิม มีเพียง พูลเลย์ถ่วงสมดุลข้อเหวี่ยงจาก ATI SUPER DAMER จากนั้นเปลี่ยนเทอร์โบ เน้นรอบสูงจาก HKS T51R KAI BB พร้อมเฮดเดอร์เทอร์โบสเตนเลส ที่ติดตั้งเวสเกตอยก คุมบูสต์ 2.1 บาร์ จาก HKS GT2 สำหรับท่อทางเดินไอเสียเป็น TITANIUM จนถึงหม้อพักใบสุดท้ายจาก ปรีชา เฮดเดอร์ ต่อด้วยระบบไอดี ปรับแต่งตามไปด้วย โดยมีอินเตอร์คูลเลอร์ TRUST ขนาด 4 นิ้ว ท่อร่วมไอดีขยายไซส์มาใช้ของ GReddy พร้อมลิ้นปีกผีเสื้อของ VH45DE ส่วนระบบน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนหัวฉีดและรางหัวฉีดเป็นของ SARD ขนาด 1,000 ซี.ซี. ตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง HKS และปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงจาก BOSCH 044 x 2 ถังพัก A ขนาด 8 ลิตร
จากนั้นระบบไฟจุดระเบิด มี HKS TWIN POWER และหัวเทียน GReddy เบอร์ 9 โดยมีกล่องควบคุมระบบจาก HKS F-CON V PRO 3.2 VERSION จูนโดย บอล จูนเนอร์ ได้แรงม้ากว่า 804.5 แรงม้า น้ำมันออกเทน 95 นอกจากนั้นยังมีส่วนประกอบต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ หม้อน้ำอะลูมิเนียมจาก BLITZ กระป๋องไล่ลมน้ำหล่อเย็นจาก GReddy มาถึงระบบส่งกำลัง เป้นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด จาก 1JZ-GTE พร้อมชุดคลัตช์แบบ TRIPLE PLATE แพท้ายพร้อมอัตราทดเฟืองท้ายจาก SKYLINE GT-R ขนาด 4.3 ลิมิเต็ดสลิป NISMO 1.5 WAY
ช่วงล่าง ยังเน้นเพื่อใช้การบนถนน โช้คและสปริงจึงไม่กระด้างมากนัก โดยใช้ของ TEIN TYPE FLEX ค้ำโช้คหลัง CARBON จาก CUSCO จากนั้นเปลี่ยนหนวดกุ้งหน้า TENSION ROD และ LINK & ARM ต่าง ๆ เป็นของ IKEYA FORMULA ตัวยึดเสื้อเพลาท้าย HICAS CANCEL ROD ไม่ทราบสำนัก ส่วนระบบเบรกอัพเกรดเป็นของ ENDLESS แบบ 6 pot และ 4 pot จานดิสก์เบรกขนาด 335 มม. 322 มม. ล้อแม็กจาก VOLK RACING รุ่น CE28 ขนาด 18 x 9.5 นิ้ว และ 18 x 10.5 นิ้ว ยาง YOKOHAMA ADVAN NEOVA AD08 ขนาด 235/40R18 และ 265/40R18
ขอขอบคุณเจ้าของรถ SUPRA คุณจ้ำมั้ม และ 200 SX คุณ รวมทั้งเจ้าของอู่ R SPECC II ช่างรุ่ง และน้อง ๆ จากทีม NARAKA ที่มาช่วยขับรถในการถ่ายภาพด้วยนะครับ