WIDELY ALTEZZA – Owner’s Wide Body Design

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี  / ภาพ : ทวีวัฒน์ วิลารูป

WIDELY ALTEZZA

Owner’s Wide Body Design

สุดยอดบอดี้ หนึ่งเดียวในไทย กับขุมพลังเม็ดใหญ่

         สำหรับ SOUPED UP SPECIAL ฉบับนี้ ก็จะนำท่านมาชมของแปลกที่อาจจะหาชมได้ไม่ง่ายนัก ตามสไตล์ของเรา ที่จะใฝ่หาอะไรที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่กำลังต้องการข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นความรู้ประจำกาย ย้อนไปสัก เกือบ 10 ปี ก่อนหน้า (ช่วงปี 2001-2002) TOYOTA ก็สร้างความฮือฮาให้กับตลาดรถยนต์ ด้วยการส่งเจ้า “ALTEZZA RS200” รหัสตัวถัง SXE10 ออกมาเรียกคะแนน บุคลิกของมัน ก็คือเป็นรถซีดานขนาดเล็ก ที่มีความเป็นสปอร์ตสูงด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่นักซิ่งนิยมกัน เรียกว่าสามารถนำมาแต่งต่อได้สบายว่างั้นเถอะ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ 3S-GE Beams ขับหลัง 210 แรงม้า สุดยอดด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด นอกจากนี้ ยังมีคู่แฝดคือ LEXUS IS200 ฉายาฝรั่งเรียก “Baby LEXUS” ก็มีขายในไทยเหมือนกัน แต่เป็นเครื่อง 1G-FE 160 แรงม้า ส่วนในบ้านเรา ก็มีจำหน่ายโดยเกรย์มาร์เก็ตยี่ห้อหนึ่ง (ที่ตอนนี้หอบผ้าผ่อนหนีไปไหนก็ไม่รู้แล้ว) จำได้ว่าเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ แต่เข้ามาไม่มาก เพราะราคาค่อนข้างสูง (น่าจะสองล้านปลายๆนะ ถ้าจำผิดขออภัย เพราะนานมาแล้วล่ะ) คนทั่วไปก็หนีไปซื้อรถค่ายยุโรปในระดับเดียวกันหมด แต่คนที่รักจริงก็มีอยู่ จะเป็นเฉพาะกลุ่มที่ชอบซิ่งๆ หน่อย ไม่ชอบรถที่ซ้ำใครมาก ดังนั้น รถจึงมียอดจำหน่ายไม่มากนัก ปัจจุบันจึงไม่ค่อยได้เห็นกัน แน่นอนว่า รถที่แต่งก็จะน้อยลงไปด้วย

ฉีกแนวกลับมาเกิด ด้วย Wide Body ไอเดียใหม่ 

         แต่ก็ใช่ว่าสยามจะไร้ซึ่งจอมยุทธ (พูดถูกเปล่าวะ) เจ้า ALTEZZA ที่มีบุคลิกเด่นประจำตัว ก็ยังมีผู้นำมาตกแต่งให้เฉิดฉายบนท้องถนนอยู่บ้าง สำหรับคันนี้ ก็เป็นอะไรที่สุดยอดด้วย Wide Body ที่ทางเจ้าของรถ นามว่าโบ๊ตได้ดีไซน์แบบขึ้นมาใหม่ ก็เอาสไตล์ของชุดแต่งต่างๆ มารวมกัน ปรับปรุงให้เข้ากับ ALTEZZA โดยร่วมมือกับ Karn Fiber ในการปั้นขึ้นมาสดๆ ทั้งหมดจากแบบที่ให้ไป จัดว่าเป็นบอดี้พาร์ทชุดเดียวในโลกก็ว่าได้ แต่ยังไงก็ตามหนึ่งเดียวในไทยก็พอใจแล้ว ทำให้ภาพรวมดูโหดร้ายขึ้นอีกเยอะเลย แต่เป็นความโหดแบบสุขุมจากสไตล์การให้สีที่เรียบๆ สไตล์ของบอดี้พาร์ทชุดนี้ ที่ออกจะกว้างใหญ่ก็จริง แต่เก็บมุมเข้าเรียบร้อย เหลาให้เนียน ถ้ามองผ่านๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าทำ Wide Body ขนาดใหญ่มา ก็ถือว่าเป็นอีกสไตล์ที่ดูดี และดูได้นาน

ภายในโดดเด่น เป็นสปอร์ต ไม่ต้องทำอะไรมากก็ดูดี

         สำหรับภายในของรถคันนี้ จริงๆ ก็ยังเดิมๆ อยู่แทบทั้งหมด แต่ที่เอามาเล่ากัน ก็เพราะของเดิมๆ มันมีดีไซน์ที่โดนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมาตรวัดจะเป็นแบบ Chrono Meter เหมือนกับนาฬิกาแบบสปอร์ต ที่มีหลายๆ มาตรวัดแยกกัน แต่มารวมอยู่ในวงใหญ่วงเดียวกัน ทำให้มองทีเดียวแล้วเห็นทั้งหมด สไตล์นี้ ก็จะมีผู้ผลิตวัดรอบแยกยี่ห้อต่างๆ นำมาใช้ ตัวเดียวแต่บอกได้หลายอย่าง ก็ดีครับ ไม่ต้องติดเยอะ (แต่หายี่ห้อที่ดูดีหน่อยละกัน จะได้ค่าที่เที่ยงตรงกว่า) แต่ส่วนที่เป็นข้อด้อย ที่ผู้ทดสอบได้ Comment ไว้ ก็คือเนื้อที่เบาะหลังน้อยหน่อยจริงๆ ก็ไม่ได้แคบจนนั่งแล้วอึดอัด แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ ก็แคบกว่า COROLLA ซะอีก ก็เป็นธรรมดาครับ ALTEZZA เป็นรถขนาดเล็ก ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (FR) ด้านท้ายจึงถูกกินที่ไปด้วยชุดของช่วงล่าง เฟืองท้าย เพลา อย่างช่วยไม่ได้ ไม่เหมือนกับรถขับหน้า (FF) ที่ด้านหลังไม่มีระบบขับเคลื่อนใดๆ ช่วงล่างหลังจึงใช้ชิ้นส่วนน้อย และออกแบบให้เตี้ยลง ทำให้มีพื้นที่ด้านหลังเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ALTEZZA เพราะพฤติกรรมของคนที่ใช้รถรุ่นนี้ ไม่ใช่กลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้านอย่างเต็มตัว ส่วนใหญ่ก็วัยรุ่นที่มีตังค์ ก็มักจะนั่งแค่คนเดียวหรือสองคน เลยไม่เป็นปัญหาตรงนี้มากนัก

2JZ-GTE สเต็ปต้น 700 ม้า

         ขุมพลังเดิมๆ ของ ALTEZZA RS200 ก็จะเป็น 3S-GE Beams มีเรี่ยวแรง 210 แรงม้า ถ้าเดิมๆ ก็จัดว่าขับสนุก ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จะมันส์ยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะเอาแรงจริงๆ ก็โมดิฟายเพิ่มได้ คันนี้เครื่องเดิมมาก็เซ็ตเทอร์โบ เป็นชุดของ A’PEXi มาทั้งหมด ก็มันส์ในระดับหนึ่ง แต่เจ้าของรถคิดว่าไม่พอก็เลยตัดสินใจเล่นของใหญ่ของค่าย ก็คือ 2JZ-GTE กันเลยทีเดียว สำหรับการวาง 2JZ ในบอดี้นี้ จริงๆ ก็ไม่ลำบาก เนื่องจากห้องเครื่องของรุ่นนี้ ก็เผื่อไว้ใส่เครื่อง 6 สูบ มาอยู่แล้ว ก็คือ LEXUS IS200 กับเครื่อง 1G-FE ที่มีความยาวพอสมควร แต่ถ้าจะพูด จริงๆ แล้วบอดี้นี้ ก็จะมีวางเครื่อง 2JZ มาแล้วเหมือนกัน แต่เป็น “2JZ-GE” นะครับ เขียนไม่ผิดหรอกครับ บอดี้นี้แหละ เป็นเวอร์ชั่นของ “LEXUS IS300” ที่มีจำหน่ายในยุโรปและอเมริกา ในญี่ปุ่นไม่มี IS300 แต่มีตัว ALTEZZA GITA AS300 (JCE10) ที่เป็นตัวถังแบบ 5 ประตู ก็วางเครื่อง 2JZ-GE 220 แรงม้า ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าสามารถวางได้อย่างสบาย โดยไม่มีปัญหาเรื่องห้องเครื่องไม่พอ ส่วนการโมดิฟาย ก็เป็นฝีมือของโคยาเบิร์ดคันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะยังทำให้ขับได้ไม่ยากนัก สเต็ปนี้ คาดการณ์เอาไว้ว่า จะอยู่ในระดับ “700 แรงม้าไม่น่ายาก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นแท่นเพราะตอนถ่ายทำยังไม่ได้จูน เลยไม่มีกราฟแรงม้ามาฝากกันครับ… 

เรื่องของยางกับล้อไม่แมทช์ก็เป็นเรื่องได้

         สำหรับเรื่องของยาง ถือเป็นของที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นเพียงส่วนเดียวของรถยนต์ ที่สัมผัสกับพื้นถนน (ไม่นับรวมพวกลังกาหลังโชว์ เอาหลังคาสัมผัสพื้นนะครับ) ทำช่วงล่างมาดีๆ แต่ยางห่วยมันก็ไม่ได้ผลอะไร แถมอันตรายด้วย ก็อยากจะฝากไว้ว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องของสภาพยางมากๆ นะครับ ส่วนใหญ่เห็นทำอย่างอื่นแพงได้ แต่ดันใช้ยางไม่ดี หรือยางที่เสื่อมหรือหมดสภาพทั้งหลายแหล่ เป็นเรื่องที่อันตรายมากนะครับ โดยเฉพาะรถที่มีแรงม้ามาก ต้องลงทุนยางใหม่ ที่มีสมรรถนะสูงไว้ก่อน มันจะแพงหน่อยก็ไม่เป็นปัญหามั้ง เห็นคนแต่งรถระดับแรงๆ ก็เหลือด้วยกันทั้งนั้น หากขี้เหนียวใช้ยางหมดสภาพ บัดเดี๋ยวจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายไม่คุ้มกันกับทรัพย์สินและชีวิตที่มีค่ายิ่งของเราครับ

         เอาล่ะครับ แพ่มเรื่องอื่นบ้าง ในครั้งนี้ ทางเจ้าของรถ ได้ Request มาด้วยตัวเอง ว่าพี่ช่วยลงเรื่องขนาดยางกับกระทะล้อให้หน่อยครับ ว่าจะต้องใช้ยังไงถึงจะเหมาะอืม เป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยครับ เพราะว่าส่วนใหญ่อาจจะยังมีการเข้าใจผิด ไม่เข้าใจ ลังเล ในการเลือกขนาดยาง เพราะถ้าเลือกพลาดมันจะกลายเป็นผลเสียที่ไม่น่าเสี่ยงทันที ยางดีๆ จะเสื่อมสมรรถนะก็คราวนี้แหละ ตรงนี้เป็นเนื้อที่ที่ผมจะให้ข้อมูลว่าเลือกยางให้เหมาะกับความกว้างของล้อที่จะใส่ว่าอย่างไรถึงจะเหมาะสม โดยพิจารณาจากตารางที่แนบให้มานี้เป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นมาตรฐานของบริษัทผลิตยางรถยนต์โดยตรง เค้าจะบอกหมดเลยครับ เชิญทัศนาได้พร้อมถ้อยคำฝอยใต้ภาพ

ควรดู ควรรู้ ข้อเสียของการใช้ยางผิดขนาดกับความกว้างกระทะล้อ

         พาดหัวมาก็พอจะรู้แล้วนะครับ ว่ามันมีแต่ข้อเสียอย่างแน่แท้ คงไม่มีข้อดีกับยางที่ผิดขนาดกับความกว้างของกระทะล้ออย่างแน่นอน ซึ่งผมได้ไปสอบถามทางร้านจำหน่ายยางที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลกับผู้ที่สนใจ เพื่อให้การเลือกขนาดยางให้เหมาะสมกับขนาดความกว้างของล้อที่เราจะใส่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ยาง ไหนๆ ซื้อยางแพงๆ มาแล้ว ก็ใช้ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ใช้ผิดขนาดราคามันจะหายไปกว่าครึ่ง โดยจะแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้

ยางหน้าแคบกว่ามาตรฐานของกระทะล้อ

ยางหน้ากว้างกว่ามาตรฐานของกระทะล้อ

COMMENT : “โบ๊ตกานต์เบลล์บดินทร์ กิติไพจิตร

         เหตุผลที่ซื้อ ALTEZZA มาทำ แรกเริ่มจริงๆ แล้วชอบสีคันนี้ (คันนี้ก็ยังใช้สีเหลืองแบบเดิม) ก็เลยซื้อมา และส่วนตัวชอบว่ามันแปลกดี ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ก็เลยคิดว่าอยากจะทำอะไรที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ประกอบกับเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่สามารถวางเครื่องแรงๆ ได้ ดูรวมๆ ก็น่าใช้ดีเลยซื้อมาทำ ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะทำตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ ตั้งแต่ โป่ง ล้อ สี ทุกอย่างทำตามกำหนด ที่สำคัญคือ ต้องขับบนถนนได้โดยไม่ลำบาก วิ่งควอเตอร์ไมล์บ้างแบบขำขำ ก็พอใจมากๆ ครับ แม้จะใช้เวลาทำนานกว่า 1 ปี ก็ตาม เหนื่อยพอสมควร คันนี้จริงๆ ทำให้น้องชาย (เบลล์) ขับครับ เขาอยากได้อะไรก็ทำให้ ก็มีการนำมาขับทุกเมื่อหากมีโอกาส แต่ก็ต้องเลือกทางไปนิดนึง เพราะชุดพาร์ทมันค่อนข้างเตี้ย อาจจะเสียหายได้ถ้าไม่ระวัง แล้วก็เหลือการจูนกล่องเป็นขั้นสุดท้าย ท้ายสุดก็ขอขอบคุณป๊ากะแม่ที่สนับสนุนโคยาเบิร์ด” FAST HUNTER กับระบบเครื่องยนต์ช่างบั๊มพ์ พระประแดงทำสีช่างอุบ วายริ่งจูนกล่อง “RACE PROOVE” เซอร์วิสรอบคัน เดินสายไฟห้องเครื่อง และกาน ไฟเบอร์กับบอดี้พาร์ทสวยๆ ตามใจผมครับ

COMMENT : อินทรภูมิ์ แสงดี

         รถคันนี้ก็จะมีสไตล์การตกแต่งที่แปลกดี เพราะปกติ ALTEZZA ในไทย ก็ไม่มีใครทำลักษณะนี้มาก่อน ที่ชอบก็คือความเรียบร้อยในภาพรวมของตัวรถ ชุดพาร์ทออกแบบได้ดี กลมกลืน และดูสะอาด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการแต่งรถ ส่วนอื่นๆ ก็เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของรถ คงไม่มีอะไรมากครับ โดยรวมก็โอเคอยู่แล้ว ท้ายสุดก็ขอขอบคุณโบ๊ต & เบลล์เจ้าของรถ และโคยาเบิร์ดที่แนะนำรถคันนี้ให้… 

Source : FAST HUNTER 081-565-5889, KARN FIBER 081-310-2020, . ยูโรโมทีฟ (ULTRA RACING + KW + K SPORT) 089-220-7372