YARIS TURBO & YARIS SUPERCHARGER : SETUP BY ADDZEST CAR COLOR

 

เรื่อง อภิชาติ พิชญพิธาน / ภาพ พิสิษฐ์ ธนะสารเจริญ 

ADDZEST CAR COLOR ชื่อที่คุ้นหูกันดีในกลุ่ม YARIS ด้วยสไตล์การแต่งที่เน้นสีสันแบบก๋ากั่น ช่วยผลักดันให้เจ้าตัวเล็กของค่าย TOYOTA ออกมาดูน่ารักสดใส แต่ 2 คันที่นำมาให้ชมกัน มิได้มีเพียงแค่นั้น เพราะทั้งคู่ยังแอบพกพาความแรงมาใหม่ เพื่อให้ขับสนุกกว่าเดิม

SPEED ORANGE RS VS WHITE MODELLISTA

เริ่มต้นจากภายนอก เรื่องของความหล่อไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นงานถนัดของที่นี่ คันแรกเพิ่มความเด่นด้วยสีใหม่สไตล์แสบสัน ด้วยส้ม “SPEED ORANGE” พร้อมด้วยการเปลี่ยนกันชนหน้า-หลัง  สเกิร์ตข้าง และไฟท้ายไปใช้ตัว RS จากนั้นเสริมสเกิร์ตหน้า-หลัง ของรุ่น PACKAGE C เข้าไปอีกนิด เพื่อความลงตัว ซึ่งความหล่อของรถคันนี้ถูกการันตีด้วยรางวัลรองชนะเลิศการประกวด TOYOTA EXTREAM STYLE 2009

ส่วนอีกคันมาแบบเรียบง่าย ด้วยภายนอกสีขาวดูสะอาดตา พร้อมเสริมชุดแต่ง MODELLISTA ประกอบด้วยกันชนหน้าและหลัง แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะคันนี้แอบแฝงความดุดันอีกนิด ด้วยฝากระโปรงและสเกิร์ตหน้าคาร์บอนฯ

ความแรงของทั้ง 2 คันนี้ อย่างที่เกริ่นไปแต่แรกแล้วว่าไม่ธรรมดา โดยคันสีส้มหันมาเล่นแรงด้วยการเซ็ตเทอร์โบ T04 แปะเข้าไป พร้อมด้วยการเสริมโบว์ล ออฟ วาล์ว จาก HKS เข้าไปอีกตัว ทางด้านระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจัดการเปลี่ยนปั๊มใหม่ไปใช้ของ WALBRO แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือการเปลี่ยนไปใช้กล่องที่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของเครื่องยนต์ โดยเลือกใช้ HKS F-CON V PRO ซึ่งการเซ็ตอัพเทอร์โบชุดดังกล่าว ถูกตั้งอัตราบูสต์ไว้ที่ 0.5 บาร์ โดยสามารถทำเวลาควอเตอร์ไมล์ออกมาอยู่ที่ 15.9 วินาที  กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ

มาต่อกันที่คันขาว แรงทางลัดด้วยระบบอัดอากาศแบบ SUPERCHARGER ซึ่งเป็นชุดคิตของสำนัก BLITZ พร้อมจัดการปรับแต่งระบบไอเสียใหม่ ด้วยการเปลี่ยนท่อทั้งชุด จากนั้นจึงหันไปใช้กล่อง ECU จาก HKS F-CON V PRO มาปรับแต่งอีกครั้งนึงเพื่อความลงตัว โดยให้พี่ใหม่ P&C เป็นผู้ลงมือจูน โดยคันนี้มีอัตราบูสต์อยู่ที่ 0.7 บาร์ กับเวลาควอเตอร์ไมล์ 16.7 วินาที ส่วนระบบเกียร์ยังคงเป็นแบบอัตโนมัติเช่นเดิม

 

ช่วงล่าง TRD + PROJECT D ปะทะ TEIN + WORK S1

เมื่อเครื่องยนต์ถูกปรับแต่งอย่างลงตัวแล้ว ก็มาถึงช่วงล่างที่ทำการปรับเปลี่ยนกันใหม่ เพื่อรองรับความแรงและเพิ่มสมรรถนะในการเกาะถนน เริ่มจากคันสีส้ม จัดการเปลี่ยนไปใช้ชุดช็อคอัพและคอยล์สปริงของ TRD SPORTIVO ส่วนล้อเลือกใช้ขอบ 17 นิ้ว จาก LENSO PROJECT D ที่มาพร้อมยางขนาด 205/45R17 จาก TOYO นอกจากนี้ยังมีการ UPGRADE ระบบเบรกหน้าไปใช้จาน  RUN STOP ขนาด 320 มม.

ขยับมาที่คันขาวกันบ้าง ช่วงล่างจัดการเปลี่ยนไปใช้ชุดช็อคอัพแบบสตรัทปรับเกลียวจาก TEIN SUPER STREET พร้อมเสริมตัวปรับไฟฟ้า EDFC นอกจากนี้ยังมีการเสริมเหล็กค้ำช็อคหน้า-หลัง เข้าไปอีกชุด ทางด้านล้อ ตามติดกระแสแฟชั่น ด้วยการเจาะดุมใหม่เป็น 5 รู 100 แล้วนำล้อ WORK S1 ขอบ 18 นิ้ว มาเสริมความหล่อ พร้อมด้วยยางจาก LENSO TYPES ขนาด 215/35R18 ทางด้านระบบเบรก จัดการ UPGRADE ด้วยการเปลี่ยนจานหน้าไปใช้ขนาด 330 ม.ม.

 

ภายในหลากสไตล์ แต่เน้นความสบายเป็นหลัก

เริ่มต้นด้วยสไตล์การแต่งของคันส้มกันก่อนเลยครับ คันนี้มาแบบเรียบง่าย ด้วยการเสริมเกจ์วัดจาก HKS เข้าไป จากนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนโทนภายในใหม่ เพื่อให้เข้ากับสีรถ โดยมีเบาะคู่หน้าจาก IMPREZA มาจับหุ้มใหม่ให้เข้าชุดกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนพวงมาลัยไปใช้ของ TRD กับเครื่องเสียงนิดหน่อย ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ HEAD UNIT แบบ 2 DIN จาก JVC

มาถึงสไตล์การแต่งของคันขาวกันบ้าง คันนี้เล่นโทนแบบเรียบง่าย แต่เสริมความสปอร์ตในจุดต่าง ๆ ด้วยการเล่นกับลายคาร์บอนฯ จากนั้นจับเสริมเกจ์วัด DEFI เข้าไปอีก 3 ตัว  แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะยังมีการเปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยและหัวเกียร์จาก TRD ส่วนเบาะคู่หน้ากลายเป็น RECARO SR4 นอกจากนี้ยังมีการเน้นความสุนทรีย์ด้วยระบบเครื่องเสียงงบประมาณ 6 หลักอีกชุด

เป็นยังไงบ้างครับ กับการแต่งรถ 2 สไตล์จากกลุ่ม YARIS CLUB ที่จับมาปั้นแต่งใหม่โดยนายกั๊ก ADDZEST ถ้าผู้อ่านท่านใดสนใจจะนำรถไปตกแต่งเช่นนี้บ้าง สามารถสายตรงได้ที่ 08-4008-8880 เลยนะครับ ส่วนผู้อ่านท่านใดที่อยากสื่อสารผ่านทีมงานโดยตรง ตอนนี้สามารถเข้ามาคุยได้ที่ www.facebook.com แล้วพิมพ์คำว่า XO AUTOSPORT ในช่องค้นหา หรือ SHORT LINK โดยเข้าไปที่ https://bit.ly/xoautosport เพียงแค่นี้ท่านก็จะได้รู้ข่าวคราว รวมถึงแลกเปลี่ยนทัศนะผ่าน FACE BOOK ได้ทันที